เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
ที่นี่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของการนัดพบในนครมิวนิค มีศาลาว่าการของเมืองแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเขาสูงศาลาว่าการเมืองใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ หอระฆัง Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
เป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรูก ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารที่หลังคาของระเบียงถูกประดับด้วยกระเบื้องทองแดงเคลือบทอง
เป็นยอดเขาอันสวยงามที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาโดโลไมต์อันมีชื่อเสียงของอิตาลี จุดเด่นก็คือบริเวณข้างบนจะมีวิวทุ่งหญ้าราบเรียบที่งดงาม และมีวิวยอดเขาแหลมเหมือนฟันฉลาม ซึ่งก็คือกลุ่มยอดเขา Odel group หรือ Geisler group อีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นยอดเขาเลื่องชื่อที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน
เป็นเมืองทางตอนเหนือของอิตาลีที่เป็นประตูเข้าสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ และตัวเมืองโบลซาโนนั้นล้อมรอบด้วยแม่น้ำ งดงามด้วยโบสถ์ วิหาร โดยเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการปลูกผลไม้ใหญ่ที่สุดในอิตาลี และยังเป็นเมืองหลสงของแคว้นทิโรลใต้ด้วย
ทะเลสาบลาโก ดิ มิซูลิน่า (Lake Misurina) ทะเลสาบแสนสวยทีหลบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ถือเป็นเขตสำคัญอีกเขตหนึ่งของ “โดโลไมท์” ที่งดงามเหมาะแก่การเก็บภาพและเยี่ยมชม
เป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,496 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์
เป็นโบสถ์ประจำเมืองซานตา มาดดาเลน่า เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาทางตอนเหนือของอิตาลี โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างเพื่อนักบุญแม็กดาลีนนักบุญอุปถัมภ์ของคริสตจักร ด้านในโบสถ์ออกแบบและตกแต่งด้วยศิลปะสไตล์บาโรคอย่างวิจิตรงดงาม
เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของของอินส์บรุคในแคว้นทิโรล ประเทศออสเตรีย ขึ้นชื่อในเรื่องงานฝีมือจากกระดาษและผลิตภัณฑ์จากคริสตัล เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski Crystal Glass Company) โรงงานผลิตคริสตรัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ที่พักผ่อนยามออกล่าสัตว์ของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 มีต้นแบบมาจากมาพระราชวังแวร์ซายส์ ภายในตกแต่งด้วยศิลปะแบบรอคโคโค ซึ่งภายในพระราชวังสะท้อนถึงจินตนาการของกษัตริย์นักฝันและเทคนิคล้ำยุคในสมัยนั้น เช่น บัลลังก์เปลือกหอย เครื่องปั่นไฟในถ้ำเพื่อจุดประกายใต้น้ำ หรือเรือพายไว้ทรงนั่งเล่นในทะเลสาบภายในถ้ำ
เป็นอารามเบเนดิกตินในหมู่บ้านเอททัล ใกล้กับ Oberammergau และ Garmisch-Partenkirchen ในแคว้นบาวาเรียเยอรมนี ที่นี่เป็นหนึ่งในบ้านเบเนดิกตินที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
โอเบอร์อัมเมอร์เกา เป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักมากแห่งหนึ่งในแคว้นบาวาเรียตอนบนเพราะเป็นศูนย์กลางของศิลปะการวาดภาพบนผนังอย่างลุฟเทิลมาลเลไร ก็คงจะจริง เพราะเดินผ่านบ้านหลังไหน อาคารไหน ล้วนแต่วาดภาพประกวดประขันกันไว้อย่างเต็มที่ แต่ละหลังอลังการงานสร้างจริงๆ จุดเด่นที่สุดของเมืองเป็นโบสถ์คาทอลิชเชอร์เคียเช่อ สีเหลืองอ่อนที่มีโดมหัวหอมสีเขียวที่มองจากจุดใดของเมืองก็จะเห็น ตลอดทางที่เราเดินไปร้านค้าส่วนใหญ่มีสินค้าจำพวกของที่ระลึกที่ใช้ฝีมือทำจากไม้
เป็นเหมืองเกลือซึ่งสร้างตั้งแต่ปี 1517 และไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้า เพราะสมัยก่อนนั้นเกลือมีค่าเหมือนกับทองคำเลยก็ว่าได้ ในปัจจุบันที่นี่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันสำคัญที่มีผู้เข้าชมประมาณ 330,000 คนในทุกปี
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบารอค ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่ามาแต่โบราณ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ The sound of Music และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองชายแดนก่อนจะข้ามไปบาวาเรียของเยอรมณี เรียกว่าเป็นระยะทางแค่ปาหินไปถึง
เป็นถนนการค้าชื่อดังที่สุดของซาลซ์บูร์ก ที่เป็นที่รู้จักด้วยอาคารบ้านเรือนหน้าแคบจากสมัยกลาง รวมถึงบ้านเกิดและพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ซึ่งถนนช้อปปิ้งนี้เป็นย่านการค้าสำคัญของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว จุดเด่นของร้านค้าบนถนนเส้นนี้คือป้ายเหล็กที่แสดงสัญลักษณ์ของร้านที่แขวนไว้เหนือทางเข้าแต่ละร้านจะมีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นเอาท์เล็ตในเมือง อิงกอลสตัทท์ ซึ่งเป้นที่นิยมเพราะอยู่ใกล้เมืองมิวนิค และมีบริการรถรับส่งตลอดเวลา มีร้านค้ามากมาย และยังมีส่วนลดตามฤดูการ
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย