เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคุนหมิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 25 กม. เปิดให้บริการแก่พี่น้องชาวเมืองคุนหมิงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา เป็นศูนย์กลางการบินขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติการก่อสร้างในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 11 (ปี 2549 - 2553) และเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน รองจากท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง
ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางเมืองคุนหมิง ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อได้เปิดตัวขึ้น เพราะสวนสาธารณะแห่งนี้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 3 ปี ซึ่งภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ก็มีไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ น้ำตก และ ทะเลสาบที่มีถึง 2 แห่ง ถือว่าเป็นธรรมชาติที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกอย่างหนึ่ง สวนน้ำตกแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มีความกว้างกว่า 400 เมตร และมีความสูงถึง 12.5 เมตร จึงทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดของเอเชียเลยก็ว่าได้
ตั้งอยู่บนภูเขาหมิงฟ่งซาน ด้านทิศตะวันออกจองตัวเมืองคุนหมิง ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะโดยอ๋อง หวูซันกุ้ย ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ในสมัยราชวงศ์ชิง ตำหนักหลังนี้มีความสูง 6.7 เมตร กว้างและยาว 6.2 เมตร สร้างขึ้นด้วยทองเหลืองทั้งหลัง น้ำหนัก กว่า 250 ตัน เป็นสิ่งปลูกสร้างทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีกำแพงและป้อมล้อมรอบตำหนักเสมือนกำแพงที่ล้อมรอบเมือง มีกระบี่เจ็ดดาวน้ำหนัก 12 กิโลกรัม และดาบกายสิทธ์น้ำหนัก 20 กิโลกรัมถูกเก็บรักษาไว้ในศาลา
เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ต้าหลี่ มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาชางซานทางด้านตะวันตก และทะเลสาบเอ๋อไห่ทางด้านตะวันออก เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวไบ๋และชาวอี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ที่นี่เป็นเมืองโบราณทางตะวันตกของคุนหมิง ห่างมา 400 กิโลเมตร มีกำแพงล้อมรอบ และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของจีน ด้านหนึ่งติดเทือกเขาชางซานที่สูง 4,000 เมตร อีกด้านติดบึงเอ๋อไห่ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของจีน ถือเป็นชัยภูมิที่หาเมืองอื่นใดมาเทียบได้ยาก และด้วยความสูง 1,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดทั้งปี.
วัดเจ้าแม่กวนอิม ในฉงชิ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความส าคัญทางพุทธศาสนา และเป็น แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ล้อมรอบ ด้วยธรรมชาติสวยงามและสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ จุดเด่นของ วัดคือ องค์เจ้าแม่กวนอิม ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลัก เป็นองค์ที่ งดงามและได้รับการเคารพอย่างสูง นักท่องเที่ยวและผู้มีศรัทธานิยม มาสักการะและขอพรในเรื่องสุขภาพ ความรัก และความส าเร็จ
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าลี่ที่โดดเด่นงดงาม ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อไห่ ประกอบด้วยเจดีย์สีขาวสวยงาม 3 องค์โดยองค์กลางมีความสูงถึง 70 เมตรซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีลักษณะเหมือนกับเจดีย์ในเมืองซีอาน ส่วนองค์เล็กอีก 2 องค์ สร้างเพิ่มเติมทีหลังในสมัยราชวงศ์หยวน ซึ่งเป็นช่วงที่พุทธศาสนากำลังได้รับความนิยมสูงสุด ในประเทศจีน มีอายุกว่า 1,000 ปี และได้มีการบูรณะเรื่อยมา
ที่นี่มีลักษณะบ้านพักคล้ายๆ กับเมืองเก่าลี่เจียง เป็นส่วนประกอบสำคัญของเมืองโบราณลี่เจียง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าลี่เจียง แต่มีความเป็นธรรมชาติมาก มีบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนมีชีวิตเรียบง่าย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของตัวเมือง
สระมังกรดำนี้มีที่มาจากตำนานเล่าขานกันว่าในอดีตมีคนพบเห็นมังกรดำปรากฏกายใต้น้ำบ้าง ผุดขึ้นมาจากสระน้ำบ้าง บรรยากาศภายในสวนนั้นเงียบสงบและงดงามด้วยบึงน้ำใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกได้อย่างชัดเจน ว่ากันว่าทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกที่มองจากบริเวณสระมังกรดำเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน
เป็นกระเช้าที่นำพาท่านขึ้นสู่บริเวณจุดชมวิวบนเขาหิมะมังกรหยก ที่ความสูงระดับ 4,506 เมตร ระหว่างทางจะได้ชมวิวของภูเขาหิมะอันงดงามสุดบรรยาย ให้ท่านได้สัมผัสความหนาวเย็นและยิ่งใหญ่ของภูเขาแห่งนี้
เป็นเมืองโบราณอันเงียบสงบที่เป็นหนึ่งในเขตที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองลี่เจียง ตั้งห่างจากลี่เจียงไปทางเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร เคยเป็นหมู่บ้านชาว Naxi และเป็นบ้านเกิดของผู้ว่าการหมู่บ้านตระกูลมู่ ซึ่งแปลว่า "หาดทรายสีขาว" ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลี่เจียง เป็นศูนย์กลางการเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมประจำลี่เจียงในช่วงก่อนราชวงศ์หมิง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่จะได้เห็นชีวิตของชาว Naxi ซึ่งเป็นชาวบ้านพื้นเมืองแถบนี้
เมืองโบราณลี่เจียงหรือเมืองโบราณต้าเหยียนเจิ้ง เป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาในสมัยต้นราชวงศ์ถัง ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ตัวเมืองตั้งอยู่ท่ามกลางการโอบล้อมด้วยสายนํ้าน้อยใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงามจนได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยองค์การยูเนสโก
เป็นเมืองเอกในมณฑลยูนนานในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวนประชากรประมาณ 3,740,000 คน โดยมีประมาณ 1,055,000 คนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบเตียนฉือด้านทิศเหนือ เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี จึงถูกขนานนามว่า "นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ"
หยก (Jade) คือชื่อที่ใช้เรียกหินซึ่งเป็นอัญมณีอันล้ำค่ามากชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะชาวจีนถือว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล
เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อที่หนึ่งในคุนหมิง มีจุดเด่นคือซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่หยกด้านหน้าถนน ซึ่งภาษาจีนเรียกว่าจินหม่าและปี้จีจนเป็นที่มาของชื่อถนนแห่งนี้ ซุ้มของถนนนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุร่วม 400 ปี
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 1,200 ปี วัดหยวนทงถูกสร้างในสมัยราชวงศ์ ถัง วัดหยวนทงตั้งอยู่ใจกลางเมืองคุนหมิง จุดเด่นของวัดอยู่ที่อาคารต่าง ๆ ภายในวัดจะสร้างอยู่บริเวณตีนเขา ซึ่งแตกต่างไปจากวัดทั่วไปของจีนที่มักสร้างไว้ในที่สูง เช่น บนยอดเขาหรือเนินเขา มีการเล่าขานกันว่าแต่เดิมวัดหยวนทงเป็นเพียงศาลเจ้าแม่กวนอิม มีโบถส์ไทยอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองที่ท่านนายกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ได้อันเชิญมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างไทย – จีน อีกด้วย
ร้านผ้าไหม เป็นที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองจีน ชมความละเอียดอ่อนของผ้าไหม และเลือกซื้อสินค้าที่จากผ้าไหมที่มีเนื้อผ้าอันละเอียดอ่อน เช่น ผ้าห่ม เสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น
เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคุนหมิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 25 กม. เปิดให้บริการแก่พี่น้องชาวเมืองคุนหมิงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา เป็นศูนย์กลางการบินขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติการก่อสร้างในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 11 (ปี 2549 - 2553) และเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน รองจากท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย