เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรบุรุษที่ต่อสู้กับชาวดัชต์เพื่ออิสระภาพของชาวบาหลีใน พ.ศ. 2492 ตั้งอยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองเดนปาซาร์ไปประมาณ 13 กิโลเมตร
เป็นวัดบนโขดหินริมมหาสมุทรอินเดีย และหน้าผามหัศจรรย์จุดชมวิวที่งดงามเป็นวิหารที่สร้างในศตวรรษที่ 16 โดยนักบุญนิธาราที่บำเพ็ญศีลภาวนาและศักดิ์สิทธิ์มากเป็นที่นับถือของชาวบาหลี และเชื่อกันว่ามีงูเทพเจ้าคอยปกปักรักษาอยู่ภายใต้วิหารแห่งนี้ ลักษณะการสร้างวัดอยู่บนโขดหินคล้ายเกาะเล็กๆเวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนอยู่กลางทะเล เป็นวัดริมทะเล 1 ใน 5 แห่งของเกาะบาหลีที่มีภูมิทัศน์สวยงามกว่าแห่งอื่นๆเป็นสถานที่ถ่ายทำละครดัง เช่น ดอกแก้วการะบุหนิงและภาพยนตร์เรื่องต่างๆ
อนุสาวรีย์นี้เป็นสัญลักษณ์ของเกาะบาหลี มีที่มาจากเรื่องราวความขัดแย้งของพี่น้องสองตระกูล ระหว่างตระกูลเการพ และตระกูลปาณฑพ ซึ่งทั้งสองตระกูลต่างก็สืบเชื้อสายมาจากท้าวภรตแห่งกรุงหัสตินาปุระ จนบานปลายไปสู่มหาสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ซึ่งในที่สุดแล้ว ฝ่ายปาณฑพก็เป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ Ghatotkacha Statue in Bali
เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเลที่สูงเกือบ 70 เมตร ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ตั้งของเกาะบาหลี เป็นวัดสำคัญ 1 ใน 5 แห่งที่อยู่ริมทะเล สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 มีการบูรณะในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ภายในวัดแบ่งเป็น 3 ส่วนตามความเชื่อ คือ สวรรค์ มนุษย์ และ ภูตผีปีศาจ ประตูวัดแกะสลักหินเป็นรูปปีกครุฑตั้งอยู่สองข้าง เว้นช่วงตรงกลาง ประตูถัดไปมีรูปสลักเป็นหน้ากาก ดูน่าเกรงขามเป็นผู้พิทักษ์คุ้มครองอยู่เหนือประตู ข้างประตูประดับด้วยรูปสลักพระพิฆเณศ ชั้นสุดท้ายเป็นเจดีย์ซึ่งถือเป็นบริเวณที่มีความสำคัญที่สุดนั้น จะอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะชาวฮินดูที่จะสวดบูชาเทพแห่งท้องทะเล
ระบำไฟ Kecak Dance หรือ Kecak Fire Dance นี้เป็นการแสดงที่ปรับมาจากการร่ายรำประจำดั้งเดิมของบาหลี โดย Wayan Limbak ร่วมกับจิตรกรชาวเยอรมันชื่อ Walter Spies คิดค้นและปรับปรุงการร่ายรำนี้ในปีค.ศ. 1930 ซึ่งเป็นการร่ายรำที่มีการใช้ไฟมาประกอบ และเดินเรื่องด้วยวรรณกรรมฮินดูเรื่องรามายณะ
ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของเกาะบาหลีและมีความสำคัญมากในวัฒนธรรมบาหลี บริเวณวัดมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่ริมเกาะทางฝั่งตะวันออกของเกาะบาหลี
วัดน้ำพุศักสิทธิ์ คนบาหลีส่วนใหญ่มักเรียกว่า "ปุราเตียร์ตาอัมปึล" ภายในวัดมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใสสะอาดที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน เป็นที่เคารพสักการะของชาวบาหลี ซึ่งชาวบาหลีเชื่อว่ากการได้ลงแช่น้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวัดแห่งนี้ จะช่วยล้าขจัดความโชคร้ายและนำพาความสุขมาให้
ภูเขาไฟ กุนุง อากุง (Gunung Agung)นั้น เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นและสูงที่สุดในบาหลี คือสูงถึง 3.142 เมตร ชาวบาหลีนับถือเป็นภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วยเป็นที่ประทับของทวยเทพ และสามารถบันดาลให้ภูเขาไฟระเบิดหากมีการประพฤติชั่วหรือลบหลู่เหล่าเทพ … แต่ขณะเดียวกันก็เชื่อว่า ผืนดินอันอุดมจากการระเบิดของภูเขาไฟจนเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผล การทำนาได้ถึงปีละ 3 ครั้ง เลี้ยงชาวบาหลีทั้งมวลนั้น เป็นของขวัญที่เทพเจ้าประทานเช่นกัน
บาหลีสวิงค์ (Bali Swing) ชิงช้าจุดไฮไลท์ของบาหลี
ตั้งอยู่บนทะเลสาบบราตันในจังหวัดบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ใกล้ชุมชนเบอดูกุล ที่ปลายน้ำของทะเลสาบยังมีปูราอื่น ๆ เรียงรายอยู่ตลอดแนวน้ำนอกจากปูราแห่งนี้ ปูราแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1633 ดั้งเดิมเป็นศาสนสถานประกอบพิธีบูชาเทพเจ้าแห่งน้ำของชาวบาหลีพระนามว่า เดวีดานู (Dewi Danu) เนื่องด้วยพื้นน้ำแห่งนี้จัดเป็นแหล่งชลประทานที่สำคัญของเกาะมาตั้งแต่โบราณ หอเมรุความสูง 11 ชั้นนั้นสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระศิวะ รวมทั้งพระปารวตี นอกจากการเป็นศาสนสถานฮินดู (ปูรา) แล้ว ยังสันนิษฐานว่าเคยใช้เป็นพุทธสถาน ดังพบพระพุทธรูปประดิษฐานภายในวัด
เป็นท่าอากาศยานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรบุรุษที่ต่อสู้กับชาวดัชต์เพื่ออิสระภาพของชาวบาหลีใน พ.ศ. 2492 ตั้งอยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองเดนปาซาร์ไปประมาณ 13 กิโลเมตร
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี