เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นเมืองๆ หนึ่งที่อยู่ในมณฑลเหอหนานทางตอนเหนือของจีน โดยตั้งอยู่บนฝั่งทางตอนเหนือของแม่น้ำฮวงโห ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองหลักของการรวมตัวกันในที่ราบลุ่มภาคกลางและเป็นเมืองศูนย์กลางในภูมิภาคในพื้นที่ชายแดน Jin-Yu
อุทยานสวรรค์ “หยุนไถซาน” อุทยานที่สวยงามที่สุดของมณฑลเหอหนาน ระดับ 4A ของประเทศจีน สัมผัสหยุนไถซาน อุทยานธรรมชาติที่ได้บรรจงสร้างอย่างงดงาม ชมน้ำตกที่มีฟองน้ำใสสะอาด กระจายดุจดังสำลี ตอนกลางวันจะมีแสงสีรุ้งพาดโค้งทิวทัศน์เป็นภูเขาสูงตระหง่านเกินเอื้อมถึงเมฆและหมอกลอยหนุนระหว่างยอดเขาตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเหมือนอุทยานที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้หลากสีสวยงามเต็มพื้นที่ทั่วอุทยานสวรรค์หยุนไถซาน
เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นในสมัยสงครามระหว่างรัฐ (จ้านกั๋วก่อนคริสต์กาล 403-221 ปี) อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ของพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของลั่วหยางนี้มีมาก่อนหน้านั้นยาวนานมานับพัน ๆ ปี เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การดำรงชีพและการปกครองของบรรพบุรุษชาวจีนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยพื้นที่อันเป็นเมืองลั่วหยางในปัจจุบันก็ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย
ถ้ำหินหลงเหมิน มีอายุราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยเว่ยเหนือ ค.ศ. 494 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปีจนถึงยุคราชวงค์ถังและซ่ง มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน 2,100 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆ อีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลักมากกว่า 100,000 องค์
เป็นศูนย์รวมแห่งการช้อปปิ้งสินค้ามากมายภายในประเทศ ที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาช้อปปิ้งเป็นอันดับสองรองจากห้างหล่อหวู่ และเป็นทั้งถนนและตลาดชื่อดังของเซินเจิ้น
เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองฮัวยินในมณฑลซานซี อยู่ห่างไปประมาณ 120 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองซีอาน เป็นภูเขาทางตะวันตกของภูเขาใหญ่ทั้งห้าของจีนและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของความสำคัญทางศาสนา และเคยเป็นที่มาของนวนิยายกำลังภายในที่ได้กลายเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกหลายเรื่อง
ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง” บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย