
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานหลักประจำกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ 32 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของใจกลางเมืองในวงล้อมของเขต Chaoyang District ท่าอากาศยานนี้ดำเนินการโดย บริษัท Beijing Capital International Airport จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐเป็นผู้ควบคุม ที่นี่ได้ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็วในการจัดอันดับของท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ถนนโบราณเฉียนเหมิน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของปักกิ่ง เปิดให้เที่ยวชมเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้าร่วมพิธีแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 หลังจากรัฐบาลปักกิ่งได้ปิดปรับปรุงบูรณะ และก่อสร้างสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนในยุคสมัยราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยจำลองบรรยากาศเก่าๆ สมัยราชวงศ์ชิง บริเวณสองฝั่งถนน มีทั้งภัตตาคาร ร้านค้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าของที่ระลึกในรูปแบบของปักกิ่ง

จัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นจัตุรัสกลางเมืองในใจกลางกรุงปักกิ่ง ตั้งชื่อตามเทียนอันเหมิน ('ประตูแห่งสันติภาพแห่งสวรรค์') ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือโดยแยกออกจากพระราชวังต้องห้าม จัตุรัสนี้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างในประวัติศาสตร์จีน นอกจากนี้ที่นี่ยังได้ชื่อเป็นเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

เป็นพระราชวังที่ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ์ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง รวม 24 รัชกาล ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ถึง 9,999 ห้อง ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 720,000 ตารางเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนมาร์คของกรุงปักกิ่งที่ห้ามพลาด

ถนนหวังฟูจิ่ง เป็นศูนย์กลางสำหรับการช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของเมืองหลวงปักกิ่ง ซึ่งมีร้านค้า ร้านแบรนด์เนม ร้านอาหารต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย


ไข่มุก ซึ่งเป็นไข่มุกน้ำจืดขึ้นชื่อของเมืองจีน

เป็นอาคารทางศาสนาตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงปักกิ่ง ถูกสร้างขึ้นในปี 1420 ด้วยสถาปัตยกรรมที่สง่างาม มีความสูง 38 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 30 เมตร ในอดีตจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงเดินทางมาเยี่ยมชมเพื่อสวดมนต์ประจำปีเพื่ออธิษฐานขอพรจากสวรรค์

เป็นพื้นที่ช้อปปิ้งในเขตเฉาหยางซึ่งอยู่ในแถบใจกลางกรุงปักกิ่ง ย่านซานหลี่ถุนนี้ได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจประจำกรุงปักกิ่ง ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการช็อปปิ้งและความบันเทิง ปัจจุบันมีบาร์และคลับจำนวนมากที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวท้องถิ่นและชาวต่างชาติ รวมถึงร้านค้าแบรนด์เนมนานาชาติ และยังได้ชื่อว่าเป็นที่ตั้งร้านอดิดาสที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เป็นวัดพุทธศาสนาหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 8 สมัยราชวงศ์ถัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเนินเขาชุ่ยเวย สร้างขึ้นตามทำเลของภูเขา เมื่อขึ้นบันไดคอนกรีตที่สูง 20 เมตรก็ถึงวิหารประธานของวัด ปัจจุบัน ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปที่เป็นองค์พระประธานหล่อด้วยทองแดงองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ ซึ่งสมเด็จพระสังราชของไทยทรงพระราชทานให้เมื่อปี 1989

ปี่เซียะ เป็นวัตถุมงคลเรียกทรัพย์ ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี ซึ่งในอดีตนั้น ปี่เซียะคือสัตว์ประหลาดตามความเชื่อของจีนมาแต่โบราณ โดยเชื่อว่าคือ เทพลก กวางสวรรค์ มี 1 เขา แต่ส่วนหน้า หัว และขาคล้ายสิงห์ มีปีกคล้ายนก ส่วนหลังคล้ายปลา และมีหางเป็นแมว มีปาก แต่ไม่มีทวาร ปี่เซียะถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยป้องกัน และปัดเป่าภูตผีปีศาล ขับไล่สิ่งไม่ดีต่าง ๆ

กำแพงเมืองจีนด่านจวีหยงกวน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งสร้างในสมัยจักรพรรดิ์จิ๋นซี มีความยาว 10,000 ลี้ หรือ 6,788 กิโลเมตร ใช้แรงงาน 300,000 คน ใช้เวลาสร้างนานนับ 10 ปี

สรรพคุณในการแก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นที่พิสูจน์สรรพคุณมาแล้วหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดไฟไหม้แล้วมีแผลไฟไหม้ร่างกาย สามารถใช้ยานี้ทาลดอาการพองหรือแสบร้อนได้

สนามกีฬารังนกซูโจว อาคารรังนกเป็นโรงภาพยนตร์ และศูนย์วัฒนธรรม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว ด้วยมีลักษณะคล้ายรังนก จึงถูกเรียกอาคารรังนกเหมือนกับสนามกีฬาที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งสนามรังนกที่ปักกิ่งและซูโจวเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดกัน

หยก (Jade) คือชื่อที่ใช้เรียกหินซึ่งเป็นอัญมณีอันล้ำค่ามากชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะชาวจีนถือว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล

วัดลามะกว่างเหริน เป็นวัดลามะแห่งเดียวในนครซีอาน เป็นศาสนสถานของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ซึ่งเป็นนิกายที่ผสมผสานระหว่างนิกายมหายานจากประเทศจีนและนิกายตันตระจากประเทศอินเดีย วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ 1705 ครั้งฮ่องเต้คังซี ในเสด็จเยือนนครซีอานเห็นว่าการสร้างวัดนี้จะเป็นการสะดวกพักระหว่างทางสำหรับลามะผู้ใหญ่จากทิเบตที่ต้องเดินทางผ่านส่านซีเข้าสู่วังหลวงปักกิ่งเพื่อเข้าเฝ้า ในปัจจุบันวัดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวัดลามะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

เป็นท่าอากาศยานหลักประจำกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ 32 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของใจกลางเมืองในวงล้อมของเขต Chaoyang District ท่าอากาศยานนี้ดำเนินการโดย บริษัท Beijing Capital International Airport จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐเป็นผู้ควบคุม ที่นี่ได้ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็วในการจัดอันดับของท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย