
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
_(FRA_-_FRF_-_EDDF)_AN0403481.jpg)
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
.jpg)
เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเหมาะสมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันตะวันตกได้สบายๆ ด้วยความครบครันของสาธารณูปโภคและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยเฉพาะด้านการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ตถือเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก

จัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมืองเก่านครแฟรงเฟิร์ต ตรงกลางจัตุรัสเป็นน้ำพุแห่งความยุติธรรม ด้านหน้าจัตุรัสโรเมอร์เป็นบ้านโครงไม้สมัยกลางที่ได้รับการบูรณะแล้ว ปัจจุบัน จตุรัสโรเมอร์ ยังคงความงามสง่ารายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14

เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหพันธรัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลียและเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์โคโลญจน์ เมืองโคโลญจน์เป็นที่มาของน้ำหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าออดิโคโลญจน์ ทั้งนี้เพราะผู้ผลิตน้ำหอมชนิดนี้ตั้งอยู่ในเมืองนี้

เป็นมหาวิหารคริสต์โรมันคาทอลิกที่สำคัญในเมืองโคโลญจน์ เป็นสถานที่ประทับของอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญจน์ สถานที่นี้มีชื่อเสียงในฐานะเป็นที่ศาสนสถานนิกายเยอรมันคาทอลิก เพื่อเป็นสถานที่ประพิธีกรรมของสามมหากษัตริย์แห่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่เก็บหีบสามกษัตริย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้

เป็นเอาท์เลตที่อยู่ใกล้ๆ กับพรมแดนประเทศเนเธอร์แลนด์และเยอรมัน เป็นสถานที่ที่ดีด้วยหลากหลายของร้านค้าของดีไซเนอร์ ที่คะแนนจากแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงในราคาที่ดี เตรียมตัวสำหรับฝูงชนกลุ่มใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ บ่อยครั้งที่ไกด์จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปช้อปป้งที่เอ้าเลตแห่งนี้ เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งของคนเนเธอร์แลนด์, เยอรมัน และ เบลเยี่ยม ที่นิยมมาเลือกซื้อสินค้าราคาย่อมเยานานาชนิด

เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของสหภาพยุโรป เมืองหลวงของกรุงเบลเยี่ยมแห่งนี้ถือได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบเหมาะแก่การเป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดสำหรับนักเดินทางที่ปรารถนาจะได้สัมผัสกับอารยธรรมตะวันตกที่มีความเป็นสากล

เป็นสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศ ถือกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1958 ในงาน World Expo โครงสร้างเป็นเหล็ก มีความสูง 102 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 2,400 ตัน ในแต่ละอะตอมทำเป็นทรงกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 18 เมตร ห่อหุ้มด้วยอลูมิเนียม ที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย เมื่อยามต้องกับแสงอาทิตย์ ทรงกลมแต่ละทรงกลมจัดแบ่งเป็นสองชั้น

เคยถูกโจมตีโดยทหารฝรั่งเศสจนเสียหายหนัก ก่อนจะได้รับการบูรณะซ่อมแซมในปี ค.ศ. 1695 และอยู่ยืนยงจนถึงปัจจุบัน ในแต่ละวันจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาชื่นชมจัตุรัสแห่งนี้อย่างมากมาย โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟประดับประดาสวยงาม และด้วยความงดงามอย่างที่กล่าวทำให้จัตุรัสนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1998

เป็นเมืองในประเทศเบลเยียมและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดแอนต์เวิร์ปในฟลานเดอส์ หนึ่งในสามบริเวณของเบลเยียม แอนต์เวิร์ปเป็นเมืองที่มีความสำคัญมานานในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำของทั้งทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะก่อนการการปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของการลุกฮือของชาวดัตช์ ระหว่างสงครามแปดสิบปี เมืองแอนต์เวิร์ปตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำสเกลต์ ที่เชื่อมกับทะเลเหนือที่ปากน้ำเวสเทิร์นสเกลต์

เมืองบรูจจ์ เป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลที่โด่งดังเมืองหนึ่งของประเทศเบลเยียม เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยคูเมืองถึงสองชั้น ซึ่งน่าจะเป็นการป้องกันข้าศึกศัตรูในสมัยก่อนวิธีหนึ่ง ในปัจจุบัน บ้านเรือน อาคาร และโบสถ์ ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดิม คือเฟลมมิชและเรเนซอง ที่ดูวิจิตรสวยงามดุจดั่งมนต์ขลัง

เป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยอาคาร ร้านค้า ตลาดทั้ง 4 ด้าน เป็นความมีชีวิตชีวาที่มีสีสันและกลิ่นอายแบบโมรอคโคขนานแท้

เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลานเดอร์ตะวันออกในบริเวณเฟลมมิชของประเทศเบลเยียม เดิมตัวเมืองเริ่มจากการตั้งถิ่นฐานที่ปากแม่น้ำสเกลต์และแม่น้ำลูส ในยุคกลางเกนต์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในตอนเหนือของยุโรป ในปัจจุบันเป็นเมืองท่าและเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเกนต์

ปราสาทท่านเคานต์ (Castle of the Counts) ป้อมปราสาทในยุคกลาง ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1180 เพื่อแสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของ Philip of Alsace เมืองท่าในตอนเหนือของเบลเยี่ยมอันแสนเงียบสงบและสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่

เป็นมหาวิหารประจำเมืองเกนต์ ที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง มหาวิหารแห่งนี้สืบอายุย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 10 ที่นี่มีความโดดเด่นคือเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่มีหอหลักด้านหน้าซึ่งมีความสูงถึง 89 เมตร ที่สำคัญอีกส่วนคือแท่นบูชา “Adoration of the Mystic Lamb” ที่โด่งดังมาก รูปภาพของ Virgin Mary, Christ the King และ Deesis ถูกวาดไว้อย่างสวยงาม

เป็นเมืองในประเทศเบลเยียมและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดแอนต์เวิร์ปในฟลานเดอส์ หนึ่งในสามบริเวณของเบลเยียม แอนต์เวิร์ปเป็นเมืองที่มีความสำคัญมานานในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำของทั้งทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะก่อนการการปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของการลุกฮือของชาวดัตช์ ระหว่างสงครามแปดสิบปี เมืองแอนต์เวิร์ปตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำสเกลต์ ที่เชื่อมกับทะเลเหนือที่ปากน้ำเวสเทิร์นสเกลต์

เป็นมหาวิหารคริสต์แบบโรมันคาทอลิกในใจกลางเมืองตูแนร์ มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคยุคต้น ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 12 มีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยโบสถ์แบบโรมันในมิติที่มีความสวยงามแบบไม่ธรรมดา ได้รับการจัดให้เป็นทั้งมรดกตกทอดที่สำคัญของ Wallonia ตั้งแต่ปี 1936 และได้เป็นสถานที่มรดกโลกจากยูเนสโก้ในปี 2000

เป็นพื้นที่จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไนเมเก้น จัตุรัสแห่งนี้มีชื่อในประวัติศาสตร์มากมายรวมถึง Cruys และ Cruys Marct ซึ่งสันนิษฐานว่ามาจากไม้กางเขนที่ยืนอยู่ตรงจุดที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวจัตุรัส รอบๆ จัตุรัสมีอาคารหลายหลังที่ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ลานพักกิจกรรม และอื่นๆ ให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นพักผ่อนกัน

อาคารซึ่งรอดพ้นจากการโดนถล่มเมืองโดยกองทัพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ของเมือง

1 ในสัญลักษณ์ของเมืองมีถึง 40 หลัง ตั้งต่อเรียงกัน 45 องศา ใจกลางเมืองรอทเทอดัม Cube Houses การออกแบบของเขาต้องการนำเสนอถึงบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งบ้าน และเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ได้
เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากกรุงอัมสเตอร์ดัม และรอตเทอร์ดาม โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและการพิมพ์ เป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ "ศาลโลก"

ศาลโลก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า"ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ" (International Court of Justice : ICJ) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2489 มีฐานะเป็นองค์กรหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) สำนักงานของศาลโลกตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลักของศาลโลกมี 2 ประการ คือ 1. ตัดสินคดีพิพาทระหว่างรัฐบาลของรัฐภาคีที่เป็นสมาชิกของ UN และเป็นประเทศที่ยอมรับอำนาจของศาลโลก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 62 ประเทศ จากสมาชิก UN รวม 188 ประเทศ นอกจากนี้ยังรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ ที่มิได้เป็นสมาชิกของ UN แต่ยอมรับอำนาจของศาลโลก 2. วินิจฉัย ตีความ และให้คำปรึกษา ในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายแก่องค์กรระหว่างประเทศที่ยอมรับอำนาจของศาลโลก ศาลโลก ประกอบด้วย คณะผู้พิพากษาต่างสัญชาติกันจำนวน 15 คน

เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเตล (Amstel) ที่นี่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพงดงามและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เหมาะแก่การเดินเล่นซึมซับบรรยากาศแสนโรแมนติก หรือจะขี่จักรยานชมเมืองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอัมสเตอร์ดัมถือเป็น ‘เมืองหลวงจักรยานโลก’ ที่ผู้มาเยือนจะพบจักรยานได้ในทุกหนทุกแห่ง

เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่พื้นที่ใจกลางเมือง และชื่อของจัตุรัสมีความเกี่ยวพันอย่างมากกับชื่อของอัมสเตอร์ดัม ซึ่งมีที่มาจาก ‘เขื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำอัมสเตล โดยเขื่อนแห่งแรกถูกก่อสร้างขึ้นในบริเวณจัตุรัสเมื่อปีคริสตศักราช 1200 และปัจจุบันจัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง

เป็นย่านที่ประกอบด้วยถนนหลายสายเชื่อมต่อกัน และเป็นย่านที่โสเภณีประกอบอาชีพได้อย่างถูกกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ จะมีการโชว์สิ้นค้าทางหน้าต่างร้านโดยเปิดไฟนีออนเอาไว้ โดยทางเมืองได้เข้าซื้ออาคารหลายแห่งซึ่งเคยใช้เป็นสถานบริการ โดยมีเจตนาที่จะปิดหน้าต่างโชว์สินค้าเหล่านี้ และซ่องจำนวนมากเกี่ยวข้องกับการต้มตุ๋น, การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมชนิดมีการจัดองค์กรต่างๆ โสเภณีหรือผู้หญิงอาชีพพิเศษในเมือง ไอโฮเวิร์น”ของเนเธอร์แลนด์

เป็นหมู่บ้านที่ได้รับฉายาว่า เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ " เป็นหมู่บ้านที่ปราศจากถนน โดยภายในหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยคลอง และทะเลสาบเล็กๆ ที่มีน้ำใสสะอาด ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านจะเดินทางโดยการใช้เรือเป็นพาหนะโดยลัดเลาะคลองที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร

นำท่านล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น เพลิดเพลินกับบรรยกาศของ หมู่บ้านunseen แห่งเนเธอร์แลนด์ หมู่บ้านที่ปราศจากถนนสักสาย ซึ่งจะมีลำคลองล้อมรอบหมู่บ้าน การคมนาคมยังคงใช้การสัญจรทางน้ำดั่งเช่นในอดีต อสิระให้ท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความประทับใจ

เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเตล (Amstel) ที่นี่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพงดงามและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เหมาะแก่การเดินเล่นซึมซับบรรยากาศแสนโรแมนติก หรือจะขี่จักรยานชมเมืองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอัมสเตอร์ดัมถือเป็น ‘เมืองหลวงจักรยานโลก’ ที่ผู้มาเยือนจะพบจักรยานได้ในทุกหนทุกแห่ง

บางครั้งมักถูกเรียกว่า "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองประมงทางทะเลที่มีความโดดเด่นในเรื่องของท่า เรือและหมู่บ้านชาวประมงอันแสนคึกคัก รวมไปถึงลักษณะการแต่งกายในแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์

เป็นหมู่บ้านกังหันลมที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือห่างจากอัมสเตอร์ดัม มีการอนุรักษ์กังหันลม และบ้านเรือนดั้งเดิมของฮอลแลนด์ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษงานไม้

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นศูนย์กลางการค้าดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัม 29 กม. ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์สามารถเพาะพันธุ์ดอกทิวลิปได้มากกว่า 3,000 ชนิด มีสีมากว่า 400 สี ปัจจุบันมีการส่งออกดอกไม้มีมากไปกว่าร้อยประเทศทั่วโลก เมืองลิซเซยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมดอกไม้

เป็นสวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยทิวลิปที่มีมากกว่า 7 ล้านต้นในแต่ละปี รวมทั้งไม้หัวอื่นๆ เช่น ลิลลี่ แดฟโฟดิล นาซิสซัส และไฮยาซินธ์ จะออกดอกบานสะพรั่งดูละลานตา สวนได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อันเก่าแก่ มีทางเดินอันร่มรื่น มีงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำและน้ำพุ มีศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย

ชื่อเสียงของท่าอากาศยานสคิปโพลในอัมสเตอร์ดัมนั้นโด่งดังมานานในฐานะท่าอากาศยานที่ใหญ่และมีความสำคัญของยุโรป ปีที่แล้วรองรับผู้โดยสารมากกว่า 45 ล้านคน

เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย