
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานประจำประเทศตุรกี อยู่ห่างจากตัวเมืองอิสตันบูลเพียง 20 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1912 ในฐานะเป็นสนามบินของกองทัพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสนามบินพลเรือนในเวลาต่อมา เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยาน Yeşilköy ในปี 1980 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นท่าอากาศยานอิสตันบูลอตาเติร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mustafa Kemal Atatürk ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี

ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเทสเซรา ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ใกล้กับเมืองเวนิส ตั้งชื่อตามนักเดินทางชาวเวเนเชียน ชื่อมาร์โค โปโล

เป็นท่าเรือที่เชื่อมต่อระหว่างเวนิสกับแผ่นดินใหญ่ การมาเที่ยวเวนิสนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปจากตรงนี้ได้

เป็นสะพานหินปูนสีขาวในเวนิสที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอจ ซึ่งวังแห่งนี้มีคุกขังนักโทษอันน่าสะพรึงขวัญอยู่ชั้นใต้ดินโดยถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองนี้เพื่อเข้าสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานก่อนที่จะหมดอิสรภาพ

จัตุรัสซานมาร์โคได้รับการประกาศเป็น ห้องวาดภาพของโลก ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับช่วงบ่ายที่แสนสบายในเวนิส ภายในบริเวณมีร้านกาแฟกลางแจ้งที่ตั้งกระจายอยู่ริมทางเดินในจัตุรัส เช่นเดียวกับอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบนอก

เป็นโบสถ์ประจำเมืองเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โค ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และความมั่งคั่งของเวนิส

เป็นเอาท์เลตในเขตเมืองโนเวนต้า ที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายในราคาย่อมเยาว์

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเวโรนา แคว้นเวเนโตในประเทศอิตาลี เมืองนี้เป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยเหตุที่มีความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรม ที่เห็นได้งานนิทรรศการประจำปีหลายงาน โรงละคร และอุปรากรในโรงละครกลางแจ้งที่สร้างโดยโรมัน

เป็นสนามทรงรีที่สร้างด้วยหินอ่อนสีชมพูกว่า 1,900 ปีมาแล้ว มีสภาพสมบูรณ์ไม่แพ้โคลอสเซียมในโรมแต่มีขนาดเล็กกว่า ด้วยเหตุนี้ เวโรน่า ถึงได้รับฉายาว่า Little Rome และในฤดูร้อนที่นี่ก็จะถูกใช้เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ต โอเปร่ากลางแจ้ง

เป็นบ้านที่เป็นสถานที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราว "โรมิโอกับจูเลียต" ที่ซึ่งสาวๆ ที่ผิดหวังกับความรักจะมาเขียนจดหมาย เขียนข้อความบอกและอธิKฐานให้ประสบความสำเร็จกับความรัก

เป็นโบสถ์ประจำเมืองซานตา มาดดาเลน่า เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาทางตอนเหนือของอิตาลี โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างเพื่อนักบุญแม็กดาลีนนักบุญอุปถัมภ์ของคริสตจักร ด้านในโบสถ์ออกแบบและตกแต่งด้วยศิลปะสไตล์บาโรคอย่างวิจิตรงดงาม

เป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,496 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์

ทะเลสาบลาโก ดิ มิซูลิน่า (Lake Misurina) ทะเลสาบแสนสวยทีหลบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ถือเป็นเขตสำคัญอีกเขตหนึ่งของ “โดโลไมท์” ที่งดงามเหมาะแก่การเก็บภาพและเยี่ยมชม

เป็นเมืองทางตอนเหนือของอิตาลีที่เป็นประตูเข้าสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ และตัวเมืองโบลซาโนนั้นล้อมรอบด้วยแม่น้ำ งดงามด้วยโบสถ์ วิหาร โดยเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการปลูกผลไม้ใหญ่ที่สุดในอิตาลี และยังเป็นเมืองหลสงของแคว้นทิโรลใต้ด้วย

เป็นเมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลสาบกราด้าซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี บริเวณรอบๆ ทะเลสาบจะมีบ้านพักต่างอากาศของเศรษฐีชาวอิตาเลี่ยนอยู่เป็นจำนวนมาก ในเมืองล้วนถูกล้อมรอบด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามดัดแปลงมาเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ร้าน ไอศกรีม และโรงแรมขนาดเล็กต่างก็แต่งแต้มสีสันได้สวยงามกลมกลืน เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนเมืองแห่งนี้

ทะเลสาบการ์ดาตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี อยู่ระหว่างเมืองเวโรนาและเบรสชา บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ มีพื้นที่ 360 เป็นทะลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี ท่านสามารถเดินทางเลาะริมทะเลสาบ ไปยังเมืองโบราณ “เซอร์มิโอเน่” ที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมเล็ก ๆ เข้าถึงโดยมีถนนแคบ ๆ เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญด้วยตั้งอยู่บนทำเลที่งดงาม
.jpg)
เป็นเมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา มีชื่อเสียงในด้านการผลิตแฮม มีชื่อเสียงในด้านการผลิตแฮม ,ชีส และด้านสถาปัตยกรรม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยปาร์มา และสโมสรฟุตบอลปาร์มา มีประชากร 184,044 คน (ค.ศ.2009)

เป็นหมู่บ้านมรดกโลกห้าเเห่ง มีอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงและน่าสนใจในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัย และเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ชอบการชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกรามบ้านช่องที่ถูกฉาบไว้ด้วยสีสันสะดุดตา

มอนเตรอสโซ เป็นชุมชนแรกที่ก่อตั้งขึ้นในบรรดา 5 หมู่บ้าน และเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และขึ้นชื่อที่สุด เนื่องจากเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่มีชายหาดให้นักท่องเที่ยวลงไปนั่งเล่นพักผ่อนได้จริง แน่นอนว่าจะคึกคักมากในช่วงหน้าร้อน มอนเตรอสโซแบ่งหมู่บ้านออกเป็น 2 ด้าน หากนับจากสถานีรถไฟ ด้านทิศเหนือเป็นส่วนของบ้านตากอากาศ ร้านรวงเสียส่วนใหญ่ ส่วนทิศใต้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน

เวอร์นาสซา เป็นหมู่บ้านที่ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมๆ กับมอนเตรอสโซ เป็นหมู่บ้านที่คงเหลือความเป็นหมู่บ้านชาวประมงสูงสุดในบรรดาทั้ง 5 หมู่บ้าน ว่ากันว่าที่หมู่บ้านนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด และถ้าเดินออกไปทางอ่าว มองย้อนกลับเข้ามาทางด้านซ้ายจะได้เห็นโบสถ์ซานต้ามาร์เกห์ริต้า ซึ่งเป็นหอคอยสีเหลืองรับกับวิวของภูเขาด้านหลังที่เป็นไร่องุ่นสำหรับทำไวน์ พร้อมกับวิวของหมู่บ้านตรงกลาง และเรือประมงที่จอดอยู่ในอ่าวเป็นภาพที่เรียกได้ว่าดังที่สุดของชิงเคว เตเร่

ขอบอกเมืองนี้อยู่บนเขา จะเที่ยวเมืองนี้ต้องเดินขึ้น 375 ขั้น เมืองบนเขาใครพักที่นี่น่ะเดินทางขึ้นชัน มีความเด่นไร่องุ่น

อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338

เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์

เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซา อยู่ในแคว้นทัสกานี ฝั่งแม่น้ำอาร์โน ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร

กัมโป เดย์ มีราโกลี หรือที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา คือบริเวณทที่ล้อมด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซา แคว้นทัสเคนี ประเทศอิตาลี โดยที่คำว่า กัมโป เดย์ มีราโกลี แปลว่า จัตุรัสอัศจรรย์

เป็นคริสต์ศาสนสถานที่สร้างเป็นอิสระจากสิ่งก่อสร้างอื่นโดยมีอ่างล้างบาปเป็นศูนย์กลาง หอล้างบาปจะเป็นสถานสำหรับผู้จะเข้ารีตเรียนรู้เรื่องศาสนาก่อนจะรับศีลล้างบาป และเป็นที่ทำพิธีล้างบาป

หอนี้ตั้งอยู่ที่เมืองปีซ่า ประเทศอิตาลี เป็นหอคอยสร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 176 ปี ตามประวัติกล่าวว่า ขณะก่อสร้างเสร็จ ฐานทรุดไปข้างหนึ่ง จะเป็นด้วยการคำนวณผิดพลาดหรือประการใดก็ไม่ทราบ เมื่อวัดปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 18 ฟุต แต่กระนั้นก็ยังไม่ล้ม ยังเอียงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์วาติกัน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในนครรัฐวาติกันในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงศิลปะที่สะสมโดยวัดโรมันคาทอริกมาเป็นเวลาหลายร้อยๆ ปี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1929 นครรัฐวาติกันและอิตาลีได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราชมีอำนาจอธิปไตยของตนเอง

เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามตระการตาเต็มไปด้วยผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมมากมาย ด้านในมีประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่มีคุณค่าสำคัญทางศาสนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

เป็นสนามประลองรูปไข่ในกรุงโรมที่เกิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 2000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโรม สร้างจากหินปูนแบบ travertine หินภูเขาไฟ และคอนกรีตที่ก่อด้วยอิฐ สามารถเก็บผู้ชมได้ประมาณ 50,000 ถึง 80,000 คนในหลาย ๆ จุดของประวัติศาสตร์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันโคลีเซียมเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดมาแวะถ่ายรูปหากได้มาเยือนกรุงโรม นอกจากนี้้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7สิ่มหัศจรรย์ของโลกด้วย

เป็นน้ำพุที่น้ำนั้นมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ที่ชื่อ Nicola Salvi ที่นี่เป็นน้ำพุรูปลักษณ์แปลกที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก กษัตริย์เชื้อพระวงศ์จากทั่วแคว้นแดนยุโรป มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ดาราเซเลปบริตี้คนดังจากทุกวงการ ณ ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นที่มีไว้ให้ประกวดประชันความร่ำรวยของพวกเขาเหล่านั้น ร้านสินค้าแบรนด์เนมที่มีอยู่ในโลกนี้ เราสามารถพบเห็นได้ทุกยี่ห้อ ถึงแม้ว่าราคาที่แปะป้ายไว้นั้นจะสามารถทำให้คนอย่างเราๆ ได้แต่อ้าปากค้างก็ตาม

เป็นถ้ำปิดบนเกาะคาปรีที่มีปากถ้ำอยู่ในทะเลมีจุดเด่น คือ เมื่อแสงตกกระทบกับน้ำทะเลสีครามจะทำให้ภายในบริเวณถ้ำเปล่งประกายไปด้วยแสงสีน้ำเงินเข้มงดงาม จึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว

เมืองตากอากาศเล็กๆ ริมอ่าวเนเปิ้ล ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตามความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับหาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย ณ ด้านบนของตัวเมืองออกสู่อ่าวเนเปิ้ล ที่ฝั่งตรงข้าม เราสามารถมองเป็นภูเขาไฟวิซูเวียสยืนเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขาม ภูเขาไฟลูกเดียวกันนี้ที่เมื่อเกือบ 1700 ปีที่ผ่านมาถล่มเมืองปอมเปอีเสียเรียบเป็นหน้ากลอง

เป็นพื้นที่ที่มีทิวทิศน์อันสวยงามและชายหาดที่เงียบสงบในอามาลฟีโคสต์ ทำให้คนมีชื่อเสียงชอบมาพักผ่อน นอกจากนี้เหล่าคนรวยยังนิยมมาใช้บริการโรงแรม ร้านอาหาร และบาร์ในแถบนี้ด้วย เป็นชายฝั่งทางตอนใต้ของคาบสมุทรซอร์เรนตีเน ของประเทศอิตาลี ที่เริ่มตั้งแต่โปซีตาโนทางตะวันตกไปถึงวิเอตริมาเรทางตะวันออก เมืองที่เรียงรายเป็นระยะ ๆ บนชายฝั่งอามัลฟี่

เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เคยเป็นเพียงแค่หมู่บ้านชาวประมงค์ แต่ในช่วงทศวรรษ1950 ได้มีนักเขียนชื่อดังที่เขียนบทความและดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาที่เมือง และทำให้หมู่บ้านนี้เจริญเติบโตจวบจนปัจจุบัน

เป็นพิพิธภัณฑ์ของเมืองปอมเปย์ซึ่งเป็นโบราณสำคัญที่เป็นสถานที่เป็นเหตุเกิดโศกนาฐกรรมที่ภูเขาไฟระเบิดและพรากชีวิตของคนทั้งเมือง โดยที่ร่างของผู้เสียชีวิตนั้นยังคงเป็นรูปมนุษย์อยู่

เป็นภูเขาไฟอีกหนึ่งลูกที่ยังคงทรงพลังอยู่ อีกทั้งยังมีเรื่องราวจารึกในหน้าประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานอีกด้วย โดยตั้งอยู่ที่ประเทศอิตาลี

เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริการเมืองเนเปิลส์และภูมิภาคทางใต้ของอิตาลี ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในฐานะท่าอากาศยานกองทัพอากาศในปี 1910 และได้ถ่ายโอนให้มาเป็นท่าอากาศยานพลเรือนในปี 1950

เป็นท่าอากาศยานประจำประเทศตุรกี อยู่ห่างจากตัวเมืองอิสตันบูลเพียง 20 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1912 ในฐานะเป็นสนามบินของกองทัพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสนามบินพลเรือนในเวลาต่อมา เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยาน Yeşilköy ในปี 1980 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นท่าอากาศยานอิสตันบูลอตาเติร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mustafa Kemal Atatürk ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย