
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ในเมืองมิงกาลาดง ซึ่งห่างจากเมืองย่างกุ้งไป 15 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ และเป็นท่าอากาศยานหลักของเมืองย่างกุ้ง

เป็นเจดีย์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำของแม่น้ำสายหนึ่งที่แยกมาจากแม่น้ำย่างกุ้ง ที่นี่มีตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยพระสงฆ์รูปหนึ่งฝันว่าที่แห่งนี้มีเจดีย์สวยงาม แล้วได้ไปทูลกษัตริย์ในสมัยนั้นเพื่อขอให้สร้างเจดีย์กลางน้ำแห่งนี้ และยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าหากมีน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ เจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำกว้างใหญ่ ว่ากันว่าหากมีงานพิธีจัดขึ้นที่นี่ สามารถจุคนได้ถึง 2 หมื่นคน

นัตโบโบยี หรือพระเทพทันใจ เป็นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปราถนาที่ตั้งใจไว้

เจดีย์เอ่งต่อหย่า สร้างโดยกษัตริย์กงบาว ผู้มีชื่อเสียงและอำนาจในยุคกงบาว ท่านมีความศรัทธามากโดยสร้างมากว่า 170 ปี Eain Taw แปลว่าบ้านที่พัก Yar แปลว่าร่องรอย แปลรวมกันได้ว่า "ร่องรอยของบ้านที่พัก" ตามประวัติแล้ว คนพม่ามีความเชื่อว่าสถานที่ พื้นที่ ถ้าคู่ควรกับคนไหนคนนั้นจะได้เป็นเจ้าของ ส่วนมากจะขอในเรื่องที่อยู่ ที่ดิน กับอสังหาริมทรัพย์

เจดีย์นี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น หนังสือ Guinness Book of Records ได้จัดให้พระเจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก

เจดีย์นี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ที่ถนนสายหลักทุกสายพุ่งเข้าหาเจดีย์แห่งนี้ นั่นเพราะว่าในสมัยที่อังกฤษครองพม่า ได้วางผังเมืองแบบ Victorian grid-plan โดยยึด เจดีย์สุเล เป็นศูนย์กลาง ถ้าไปดูแผนที่ตัวเมืองย่างกุ้ง จะเห็นว่าถนนตัดกันเป็นบล๊อคสี่เหลี่ยมแล้วมีเจดีย์สุเลอยู่ตรงกลาง

เป็นเจดีย์ทรงกลม ซึ่งมีทางเข้าทั้งหมดห้าด้าน ที่นายอูนุนายกคนแรกของพม่า สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎก เป็นที่แปลกตาอีกแห่งหนึ่ง และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านใน คำว่ากาบาเอ ในภาษาพม่า หมายถึง โลกแห่งสันติสุข เจดีย์แห่งนี้เป็นที่รำลึกถึงการประชุมประสภาสงฆ์ระดับโลก ครั้งที่ 6 เพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่ชาวโลกของพุทธศาสนา

เป็นเจดีย์ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่จะนำไปบรรจุในพระเจดีย์ชเวดากอง เมื่อพระเกศาธาตุได้ถูกอัญเชิญขึ้นจากเรือได้นำมาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์แห่งนี้ ก่อนองค์พระเจดีย์ได้ถูกทำลายในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีโครงสร้างโปร่ง ให้คนเดินเข้าไปภายในได้ ด้านฝาผนังใต้ฐานพระเจดีย์ได้นำทองคำและของมีค่าต่างๆ ที่พุทธศาสนิกชนชาวพม่านำมาถวายองค์พระเจดีย์มาจัดแสดงไว้

เป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว ตามความเชื่อนั้น เวลาที่จะขอพรกับท่าน จะต้องกระซิบ มีคนได้รับผลอธิษฐานสมปรารถนากลับมาแก้บน และบอกต่อกัน จนรายการไหว้เทพกระซิบถูกบรรจุเข้าไปในรายการทัวร์ไทยทุกบริษัท

เจดีย์เมียตซอนินเนือง (Myat Saw Nyi Naung) เจดีย์คู่ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ Taungoo บริเวณรอบมีทางเดินยาวปกคลุมเชื่อมต่อเจดีย์และศาลเจ้าต่างๆ ตามประวัติเล่าว่าพ่อค้าตุมะนะ สองพี่น้อง มาทำการค้าขายที่ ท่าเรือ จี้หมิ่นด่าย แล้วศรัทธาที่จะสร้างวัดให้แก่พระสงฆ์ในสมัยยุคอังกฤษครองพม่า พระพุทธรูปมานอ่องหมื่นสะจ่าชิ่น ซึ่งมีการกราบไหว้มาตั้งแต่กษัตริย์พม่า พระพุทธรูปดังกล่าว มีความเชื่อจากพ่อค้าที่มาจากหลากหลายพื้นที่มากราบไหว้ มีความเชื่อว่าจะชนะทุกๆอย่างในการดำเนินธุรกิจ

เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ในเมืองมิงกาลาดง ซึ่งห่างจากเมืองย่างกุ้งไป 15 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ และเป็นท่าอากาศยานหลักของเมืองย่างกุ้ง

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย