เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศหลักของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตอนกลาง และเป็นท่าอากาศนานาชาติที่สามของประเทศนอกเหนือจากท่าอากาศยานนอยไบกับท่าอากาศยานโฮจิมินห์ ท่าอากาศยานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลอาณานิคมของฝรั่งเศสในทศวรรษที่ 1940 ที่นี่ยังเคยเป็นท่าอากาศยานของทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามอินโดจีน รวมถึงสงครามเวียดนาม
เป็นเมืองท่าสำคัญของเวียดนามกลางตอนใต้ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ จัดเป็น 1 ใน 5 เขตการปกครองส่วนท้องถิ่นในเวียดนาม
เป็นวัดของสมาคมชาวจีนอพยพที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงปี พ.ศ 2388-2428 โดยพื้นที่สมาคมใช้สำหรับเป็นที่พบปะของคนหลายรุ่นที่อพยพมาจากมณฑลฟุกเกี๋ยนที่มีพื้นเพและแซ่เดียวกัน มีจุดเด่นอยู่ที่งานไม้แกะสลักลวดลายสวยงาม ท่านสามารถทำบุญต่ออายุโดยพิธีสมัยโบราณ คือ การนำธูปที่ขดเป็นก้นหอยมาจุดทิ้งไว้เพื่อเป็นสิริมงคล
เป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว๋างนาม มีประชากรอาศัยอยู่ราว 80,000 คน ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเวียดนาม องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก
เป็นสะพานเก่าแก่ที่เชื่อมโยงถนนสองแห่ง สร้างขึ้นอย่างแข็งแรงตั้งแต่ปี 1593 โดยชาวญี่ปุ่น ที่มาอาศัยอยู่ในเเมืองฮอยอัน ต่อมามีการขยายถนนลอดใต้สะพานเพื่อให้รถผ่านได้โดยชาว ฝรั่งเศสเมื่อครั้งที่เข้ามามีบทบาทในการปกครองเวียดนาม และต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ในปี 1986 ซึ่งบนสะพานจะมีศาลเจ้าเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งเป็นศาลเก่าแก่อยู่คู่เมืองนี้มานาน
ยอดเขาบานาฮิลล์อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ที่นี่เป็นรีสอร์ท โรงแรม ความสนุกสนานอยู่ที่เครื่องเล่นใน Disney vietnam ที่สูงที่สุดอีกแห่งหนึ่ง สามารถสัมผัสความสวยงามท่ามกลางทัศนียภาพของภูเขาสูงของที่นี่ การเดินทางด้วยกระเช้าสู่เขาบานาฮิลล์ อาจทำให้เราลืมเวลาไปเลยก็ได้ เพราะสายตาจะจดจ่ออยู่กับความสวยงามของทัศนียภาพในหุบเขาสีเขียวเหนือพื้นดิน
ที่นี่เป็นสวนสนุกบนบาน่าฮิลล์ ภายในมีหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์ของหนัง 4D, ระทึกขวัญกับบ้านผีสิง และอื่นๆ ถ้าไดโนเสาร์เกมส์สนุกๆเครื่องเล่นเบาๆรถไฟเหาะแมงมุนเวียนหัวตลอดไปจนถึงระทึกขวัญสั่นประสาทอีกมากมาย หรือจะเดินช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึกภายในสวนสนุกอย่างจุใจก็ได้
เมืองเว้ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล 12 กิโลเมตร เป็นเมืองของกษัตริย์ในราชวงศ์เหวียน ซึ่งได้ปกครองต่อกันมาเพียง 33 ปี ฝรั่งเศสก็บุกเข้าโจมตีเมืองเว้ มาถึงปีพ.ศ.2488 ญี่ปุ่นก็เข้ามายึดครองบังคับให้พระเจ้าเบาได๋สละราชสมบัติ ต่อมาเมืองเว้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเวียดนามใต้ ตามการแบ่งประเทศออกเป็น 2 ส่วน และได้เสื่อมสลายลงภายใต้การปกครองของโงดินห์เยียม เมืองเว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพราะมีแหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เสน่ห์ที่ไร้กาลเวลาของสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่ามีแบบฉบับของตนเอง และยังมีความงามตามธรรมชาติบนฝั่งแม่น้ำหอมด้วย
เป็นวัดพุทธมหายาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม เป็นอาคารทรงเจดีย์แปดเหลี่ยม 7 ชั้น สูง 21 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นใน ค.ศ.1601 ในสมัยขุนนางเหวียนฮวาง คำว่าเทียนมู่ แปลว่า เทพธิดา ดังนั้นนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญมาเยือนจึงตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า “วัดเทพธิดาราม” ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของริมแม่น้ำหอมของประเทศเวียดนาม ทางไปสุสานของพระเจ้ามิงห์หม่าง วัดแห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นเป็นตัวแทนของชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า
เป็นตลาดสินค้าขนาดใหญ่ของเมืองเว้ ที่อยู่ติดกับเมื่อน้ำเหือง หรือแม่น้ำหอม เป็นแหล่งชุมนุมคนไทยในเมืองเว้ที่ไม่ได้นัด หมายกันมาก่อน ของที่นี่สามารถต่อรองได้ และจำเป็นต้องต่อด้วย เพราะราคาบางอย่างก็สูง
เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองเว้ ในเขตจังหวัดถัวเทียน-เว้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แม่น้ำหอมมีต้นกำเนิดอยู่ 2 แหล่ง ซึ่งทั้งสองแหล่งนั้นเริ่มต้นจากทิวเขาเจื่องเซิน แควด้านซ้ายไหลมาจากเทือกเขาเจื่องดองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ระหว่างทางเกิดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 55 แห่ง และเริ่มไหลช้าลงจนถึง Bang Lang fork ส่วนแควด้านขวาซึ่งมีระยะทางสั้นกว่า ไหลผ่านน้ำตก 14 แห่งและ Tuan ferry แล้วมาบรรจบกับแควด้านซ้ายที่ Bang Lang fork เกิดเป็นแม่น้ำหอม
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ เป็นสุสานที่องค์จักรพรรดิองค์ที่ 12 สร้างขึ้นและถือว่าเป็นสุสานที่งดงามของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่มีลวดลายอ่อนช้อยผสมผสานกับความงามของภาพตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องสี ซึ่งเป็นศิลปะของชาวเวียดนามโดยเฉพาะที่ได้รับการตกทอดมานับพันปี และภาพเขียนอันวิจิตรบรรจงที่ฝ้าเพดานที่ศิลปินบรรจงใช้พู่กันวาดด้วยเท้า
วัดหลินอึ๋ง มีเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดวกบัวสง่างาม ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้ช่วยปกปักรักษา หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ วัดแห่งนี้นอกจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านมากราบไหว้บูชาและขอพรแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ที่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามชองเมืองดานัง
ตลาดฮาน ตลาดสดของเมืองดานัง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮาน ไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำ ด้านหน้าตลาดมีประติมากรรมริมแม่น้ำเป็นรูปปั้นหญิงสวยงาม มีทั้งของสดและของที่ระลึกให้เลือกซื้อ
เป็นท่าอากาศหลักของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตอนกลาง และเป็นท่าอากาศนานาชาติที่สามของประเทศนอกเหนือจากท่าอากาศยานนอยไบกับท่าอากาศยานโฮจิมินห์ ท่าอากาศยานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลอาณานิคมของฝรั่งเศสในทศวรรษที่ 1940 ที่นี่ยังเคยเป็นท่าอากาศยานของทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามอินโดจีน รวมถึงสงครามเวียดนาม
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย