เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
สร้างขึ้นในปี 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ ผู้เป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับการยกย่องในฐานะบิดาแห่งการสำรวจและการค้าทางทะเล
หอคอยนี้ตั้งอยู่ในเขตเบเล็ง กรุงลิสบอน เป็นแลนมาร์คของเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากที่มาท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกส หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1515 เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม รูปแบบของหอคอยเป็นศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งแต่ครั้งอดีต หอหอยแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นประภาคาร และป้อมปราการที่คอยปกป้องเขตเบเลม
เป็นวิหารที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดากามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ 7 กิโลเมตรห่างจากใจกลางเมืองลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส เป็นประตูระหว่างประเทศหลักของการเข้าสู่ประเทศโปรตุเกส
เป็นแหลมจุดที่ปลายด้านตะวันตกสุดของทวีปยุโรป อยู่ในเขตเทศบาลเมืองโปรตุเกสของซินตราใกล้ Azóia ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลิสบอน แหลมนี้มีแนวหน้าผาสูงกว่า 100 เมตรและตัดเป็นหินผลึกประกอบด้วยหน่วยตะกอนที่ดูแปลกตา ที่นี่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญที่ต้องมาเยือนหากได้มาเที่ยวโปรตุเกส
เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมือง
โบสถ์แม่พระฟาติมา (The Lady of Fatima Basilica) ซึ่งเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ก่อสร้างในปี 1928 – 1953 ชมรูปปั้นพระแม่มารี ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งในหลายเส้นทางของคริสต์ศาสนิกชนในการแสวงบุญ ที่มีความเชื่อว่าพระแม่มารีได้เคยปรากฏตัวให้เด็กน้อย 3 คนได้เห็นเป็นครั้งแรกที่แอบหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้บอกกับเด็กทั้งสามคนถึงเหตุผลที่พระองค์ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้ลูเซีย ได้บันทึกไว้ถึงคำทำนายและคำสอนของพระแม่มารี ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่ลูเซียได้บันทึกไว้ก็ล้วนเป็นความจริงที่ปรากฏขึ้นมาภายหลัง
เมืองนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ำมอนเดโก (Mondego) ซึ่งสมัยถูกปกครองโดยอาณาจักรโรมันได้รับการเรียกขานว่า เอมีเนียม และได้ถูกยึดครองโดยชาวแขกมัวร์ ในปี ค.ศ.711 และเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่างชาวคริสต์ทางเหนือและชาวมุสลิมทางใต้ จนในปี ค.ศ.1064 กษัตริย์เฟอร์ดินัลที่ 1 แห่งลีออน ได้รบชนะแขกมัวร์และปลดปล่อยเมืองโกอิมบรา
เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐโปรตุเกสในเมืองโกอิมบรา ประเทศโปรตุเกส ก่อตั้งขึ้นในปี 1290 ที่นี่ถูกเปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง (Coimbra Royal Palace) โดยกษัตริย์คิงส์จอห์นที่ 3 ในปี 1537 ซึ่งยังคงศิลปะสไตล์บาร็อคที่สวยงาม หลังจากนั้นช่วงหนึ่งก็ได้ปรับมาเป็นมหาวิทยาลัยดังเดิมจนถึงปัจจุบัน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ปี 2013 ยูเนสโกได้เพิ่มมหาวิทยาลัยแห่งนี้เข้าเป็นหนึ่งในรายการมรดกโลก
เมืองปอร์โต้ (Porto) ทางเหนือของประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงถึง “ไวน์ปอร์โต้” ซึ่งเป็นแหล่งไวน์ชั้นดีของคนที่มีรสนิยมในการดื่มไวน์ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองและตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดรู และเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ ในปี ค.ศ.1996 อีกด้วย นำท่านชมเมืองมรดกโลกปอร์โต้
เป็นจัตุรัสกลางเมืองปอร์โต้ ที่ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง
เป็นสถานีรถไฟอันสวยงาม ตั้งอยู่ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่คั่นด้วย Praha Almeida Garrett, Rua da Madeira และ Rua do Loureiro อาคารหินแกรนิตแบบสมมาตรสามชั้นมีรูปแบบ "U" พร้อมด้วยอาคารหลักซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีที่มีลวดลายสีน้ำเงิน ที่เล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกส
มีอีกชื่อว่ามหาวิหารแซ ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองปอร์โต้ มีอายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ João ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกส สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง
เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นคาสตีลและเลออน ทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน ตรงบริเวณที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส เป็นเมืองที่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการค้าขายในสมัยโรมันเรืองอำนาจ ปัจจุบันเมืองนี้ได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1988
เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และแหล่งชุมชนเก่ากลางกรุงมาดริด มีอายุราว 300 กว่าปี ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างทหารนโบเลียน กับ ชาวบ้าน และที่แห่งนี้ยังใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เช่น ศาลสอบสวนทางศาสนา ราชาภิเษก แข่งกีฬา จุดขุมนุมทางการเมือง และอื่นๆ
เมืองเซอโกเบีย (Segovia) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน องค์การ UNESCO ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985
เป็นทางน้ำของเมืองซาโกเวียซึ่งสร้างเมื่อกลางศตรวรรษที่1 มีความสูงประมาณ28เมตร และยาวราวๆ14กิโลเมตร เพื่อนำน้ำมาจากแม่น้ำ Frío เป็นทางน้ำโบราณที่สภาพดีเป็นอันดับต้นๆของยุโรป
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน กรุงมาดริดเป็นหนึ่งเมืองใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนของต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวต่อประชากรสูงที่สุด และถือได้ว่ายังเป็นเมืองสีเขียวอันดับสองของโลกรองจากโตเกียวอีกด้วย ชาวมาดริดส่วนใหญ่มักจะใช้สวนสาธารณะหรือพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ในการเดินโดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน ซึ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นไม้และสวนสาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส สวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง อุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล และมีอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
เป็นเมืองและเขตเทศบาลหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน โดยเป็นเมืองหลักของจังหวัดโทเลโดและของแคว้นคาสตีล-ลามันชา องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย
เป็นคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่สำคัญของเมืองโทเลโด้ โดยเป็นที่ทำการของอัครสังฆมณฑลประจำเมือง ที่นี่เป็นหนึ่งในสามมหาวิหารกอธิคระดับสูงในศตวรรษที่ 13 ในสเปนในช่วงภายใต้การปกครองของเฟอร์ดินานด์ที่ 3 ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อท้องถิ่นว่า Dives Toletana (หมายถึง The Rich Toledan ที่แปลว่า "โทเลโด้อันรุ่งโรจน์" ในภาษาละติน)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน กรุงมาดริดเป็นหนึ่งเมืองใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนของต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวต่อประชากรสูงที่สุด และถือได้ว่ายังเป็นเมืองสีเขียวอันดับสองของโลกรองจากโตเกียวอีกด้วย ชาวมาดริดส่วนใหญ่มักจะใช้สวนสาธารณะหรือพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ในการเดินโดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน ซึ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นไม้และสวนสาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16
เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และแหล่งชุมชนเก่ากลางกรุงมาดริด มีอายุราว 300 กว่าปี ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างทหารนโบเลียน กับ ชาวบ้าน และที่แห่งนี้ยังใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เช่น ศาลสอบสวนทางศาสนา ราชาภิเษก แข่งกีฬา จุดขุมนุมทางการเมือง และอื่นๆ
ที่นี่เป็นลานกว้างค่อนข้างที่จะคึกคัก เพราะมีผู้คนสันจรเดินทางผ่านไปผ่านมามากมาย จุดสังเกตง่ายๆ เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็คือ รูปปั้นหมีตะกายต้นสตอว์เบอร์รี่ ซึ่งมักใช้เป็นจุดนัดพบของชุมชนคนเมืองแห่งนี้
ฟลามิงโกมีกำเนิดจากนิทานพื้นบ้านของสเปนใต้ แล้วพัฒนาเป็นศิลปะที่มีรูปแบบซับซ้อน ทั้งเพลง ดนตรี และการเต้นรำ โดยเมื่อแรกอยู่ในหมู่คนยากไร้ในสังคม ความเป็นมาของระบำฟลามิงโกกล่าวกันหลายแบบ บ้างว่ามาจากชาวตาร์เตสซาน ที่อพยพมาจากแอฟริกา เมื่อ 400-600 ปีก่อนคริสตกาล บ้างก็ว่าพัฒนามาจากระบำยิปซี โดยผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของสเปนเองโดยเฉพาะในแถบอันดาลูเซีย แต่ประการหลังน่าจะมีความน่าเชื่อถือกว่า ในทศวรรษ 1760 ฟลามิงโก เริ่มเป็นที่รู้จักในแถบกาดิซ เฆเรซ และเซบิญา และในต้นศตวรรษที่ 19 ระบำฟลามิงโกก็เข้าสู่โรงละครและผ่านไปสู่สถาบันการเต้นรำ ปัจจุบัน สามารถชมการแสดงระบำฟลามิงโกได้ตามภัตตาคารที่มีการแสดงนี้
เป็นเมืองหลวงของแคว้นบาเลนเซีย แคว้นปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสเปน และยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคือ สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย
เป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่า สร้างขึ้นในสไตล์ผสมผสาน อาทิโกธิค, นีโอคลาสสิก, บาร็อค และอื่นๆ ด้านข้างจะเป็นหอระฆังเอล มิกูเลต ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1381 และสิ้นสุดในปี 1429 และติดกันเป็นโบสถ์แม่พระ นักบุญอุปถัมถ์ประจำเมือง ตลอดสองข้างทางมีภัตตาคาร, บาร์, ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกมากมาย
เป็นหอระฆังสไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ในวาเลนเซีย ชื่อ El Miguelete แปลว่าหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดทถูกสร้างขึ้นในช่วงประมาณศตวรรษที่ 14 บนฐานแปดเหลี่ยม ตัวหอระฆังมีความสูงมากกว่า 50 เมตร ด้านในมีบันไดเวียนจำนวน 207 ที่จะนำพาไปด้านบนซึ่งสามารถมองเห็นวิวเมืองและวิวทะเลอันงดงามได้
เป็นเมืองที่มีประชากรคับคั่งเป็นอันดับ 2 ของสเปนและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมดิเตอเรเนียน มีท่าเรือสำคัญและทีมฟุตบอลชื่อดัง
เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลนา โดยฝีมือการออกแบบของ อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เรียกว่า โมเดิร์นนิสโม เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นอาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1882 แม้กระทั้งจนถึงปัจจุบันก็ยังสร้างไม่แล้วเสร๊จ ถึงกระนั้นองค์การยูเนสโก้ ก็ได้จัดให้เป็นมรดกโลก โดยมหาวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมโดดเด่นแปลกตาไม่เหมือนที่ใดในโลก
สวนสาธารณะที่ประกอบด้วยสวนและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่ที่เขตคาร์เมลฮิลล์ในบาร์เซโลนาของสเปน เป็นหนึ่งในงานของสถาปนิกดังชื่อ Antoni Gaudí ที่สร้างอุทิศให้กับชาวเมือง โดยออกแบบตั้งแต่ปี 1900 - 1914 และเปิดอย่างเป็นทางการในฐานะสวนสาธารณะในปี 1926 จนในปี 1984 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นสถานที่มรดกโลก
สนามฟุตบอลแห่งทีม บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งสเปน
ยอดเขามอนต์จูอิก เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงของเมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน มีหน้าผาที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นของทั้งตัวเมือง งดงามยิ่งนัก พร้อมรับลมที่โชยพัดผ่านมา พร้อมสูดอากาศสดชื่น อีกทั้งยอดเขาแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี 1992
เป็นถนนใจกลางเมืองบาร์เซโลน่า ที่เป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวเพราะความสวยงามของถนน และยังมีร้านขายไส้กรอกและแฮมรสชาติล้ำเลิศแบบต้นตำหรับ
คริสโตเฟอร์โคลัมบัส (Christopher Columbus) ชาวสเปนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เดินทางพบทวีปอเมริกา เป็นคนแรก รูปปั้นนี้อยู่กลางถนน ด้านหน้าบริเวณลานกว้างจะมีรูปปั้นอนุสาวรีย์ ดอน กีโยเต้ (Don Quixote) กับลูกน้องคนสนิท ซานโช (Sancho) ทั้งสองคนคือตัวละครในเรื่อง "สู่ฝันอันยิ่งใหญ่" วรรณกรรมของ มิเกล เดอ เซอร์วองเต ย่านนี้จัดเป็นแหล่งชอปปิ้งอีกเช่นกัน ถัดจาก พล่าซ่า เอสพลานาด (Plaza de Espana) นิดหน่อย ก็จะเดินมาพบกับวิหารเดอโบด์ ซึ่งเป็นหินแกร่งจากอียีปต์ ที่ชาวสเปนสมัยก่อน ขนข้ามน้ำข้ามทะเลมาสร้างเป็นวิหาร ด้านในจะมีรูปแบบโมเดล แท่งหิน และการก่อสร้างวิหารเดอโบด์ ภายในสามารถเข้าชมได้ฟรี
เป็นท่าอากาศยานประจำกรุงบาร์เซโลน่าขอประเทศสเปน ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงบาร์เซโลน่าประมาณ 12 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และอันดับ 6 ของทวีปยุโรป
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย