เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบิน Royal Brunei Airlines เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1953 และรันเวย์นั้นสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเขต Sedati ของอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ประมาณ 12 กิโลเมตรจากสุราบายา ชื่อท่าอากาศยานมาจากชื่อ Djuanda Kartawidjaja เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งของอินโดนีเซียซึ่งได้เสนอแนะการพัฒนาสนามบินนี้ในปี 2013
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเขต Sedati ของอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ประมาณ 12 กิโลเมตรจากสุราบายา ชื่อท่าอากาศยานมาจากชื่อ Djuanda Kartawidjaja เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งของอินโดนีเซียซึ่งได้เสนอแนะการพัฒนาสนามบินนี้ในปี 2013
เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบิน Royal Brunei Airlines เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1953 และรันเวย์นั้นสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นมัสยิดประจำเมืองหลวงของประเทศบรูไน มัสยิดแห่งนี้ถือว่าเป็นมัสยิดที่สวยสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สถาปัตยกรรมที่ใช้ได้ระบุว่าเป็นแบบอิสลามมิกซ์อาร์ต สไตล์อิตาลี โดยสถาปนิกชาวอิตาลี วัสดุทุกชิ้นเป็นวัสดุที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนสีขาวพราวกระจ่างจากอิตาลี หินแกรนิตเนื้อแข็งชั้นเยี่ยมจากเซี่ยงไฮ้ โคมระย้าคริสตัลจากอังกฤษ พรมเส้นใยพิเศษจากซาอุดิอารเบีย และที่สำคัญยอดโดมใช้แผ่นทองคำแท้ถึง 3.3 ล้านแผ่น ความสูงของมัสยิด 52 เมตร เรียกว่าสูงพอที่จะให้คนในเมืองเห็นโดมทองคำนี้อย่างทั่วถึง
บรูไนมิวเซียม ภายในจัดแสดงไว้หลายส่วน โดยส่วนที่สำคัญที่สุดคือ Islamic Art Gallery ที่รวบรวมของสะสมโบราณล้ำค่าขององค์สุลต่านจากประเทศมุสลิมทั่วโลกมาแสดงไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจานเซรามิคจากอิหร่านและเอเชียกลาง ศิลปะแก้วเป่าจากอียิปต์ รวมไปถึงคัมภีร์อัลกุรอ่านที่เล็กที่สุดขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ นอกจากนี้ยังจัดแสดงประวัติการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมากมายมหาศาลที่พลิกโฉมประเทศบูรไนให้เป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
มัสยิด โอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque สุเหร่าที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก ได้ชื่อตามพระนามของสุลต่านแห่งบรูไนองค์ที่ 28 สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1958 ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ริมแม่น้ำเคดายัน เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวมุสลิมในบรูไน รอบๆ สุเหร่าเป็นสระขุดกว้างใหญ่ มีภาพของสุเหร่าสะท้อนบนพื้นน้ำสวยงามจับตาอย่างยิ่ง (สุเหร่าไม่อนุญาตให้คนที่ไม่ได้เป็นมุสลิมเข้า) ความงามของมัสยิดนี้ได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็น มินิทัชมาฮาล
พิพิธภัณฑ์นี้เคยได้รับการโหวตจากประเทศในอาเชี่ยน่วงหนึ่งว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าชมที่สุด เป็นที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน อาทิ เครื่องทรงทองคำ ในวันขึ้นครองราชย์และเครื่องบรรณาการจากผู้นำประเทศต่าง ๆ ชมมงกุฏทองคำ บัลลังก์ทองคำ เครื่องทรงทองคำ รวมทั้งเครื่องราชย์มากมายที่พระองค์ได้รับ
ล่องเรือชมหมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบรูไน ว่ากันว่ามีคนอาศัยอยู่กันมาอย่างยาวนานกว่า 1,300 ปี เสน่ห์ของกัมปงไอเยอร์คือ ศิลปะการสร้างบ้านเรืองแบบพื้นนับพันหลัง ปลูกสร้างอยู่บนเสาค้ำยันและเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน หมู่บ้านกลางน้ำนี้มีทั้งบ้านพักอาศัย มัสยิด โรงเรียน สถานีอนามัย สถานีตำรวจ ร้านค้า ร้านอาหาร และอื่นๆ อย่างครบครัน กัมปงไอเยอร์นี้นับเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมริมน้ำของประเทศนี้อย่างชัดเจนที่สุด
ลิงโพรบอสซิส (Proboscis Monkey) หรือที่เรียกกันว่า ลิงจมูกยาว เป็นลิงที่มีมีจมูกใหญ่และยื่นยาวประหลาดกว่าลิงชนิดอื่น เป็นลิงที่พบได้เฉพาะในประเทศบนเกาะบอร์เนียวเท่านั้น โดยจะอาศัยอยู่ในป่าชายเลนหรือป่าติดริมแม่น้ำ
เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบิน Royal Brunei Airlines เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1953 และรันเวย์นั้นสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย