เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
สวนฟิตซรอย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เนื่องจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้วยังมีกระท่อมกัปตันคุ้ก ซึ่งเป็นนักสำรวจชาวอังกฤษคนสำคัญของโลก ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและซีกขั้วโลกใต้ กระท่อมนี้ได้ถูกย้ายมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนครเมลเบิร์นในวาระครบรอบ 100 ปี บ้านหลังนี้แต่เดิมนั้นอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ทางออสเตรเลียได้ขอซื้อมา เพื่อนำมาตั้งไว้ในสวนฟิตซรอย ลักษณะตัวบ้านค่อนข้างที่จะเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1755 โดยมีการรื้อบ้านเป็นส่วนๆ แล้วส่งลงเรือมาประกอบใหม่ ในปี ค.ศ.1934 ด้านในมีนิทรรศการเกี่ยวกับกัปตันคุก และตกแต่งให้เก่าตรงกับสมัยนั้น
เป็นอนุสรณ์สถานหนึ่งในเมลเบิร์น ที่สร้างเพื่อรำลึกถึงทหารผู้รับใช้ชาติมนสงครามต่าง ๆ ที่ออสเตรเลียได้มีส่วนร่วมด้วย มีอาคารพิพิธภัณฑ์อาวุธ หอแสดงภาพเกี่ยวกับสงคราม ห้องจำลองสมรภูมิในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ห้องฉายภาพยนต์ ฯลฯ
เป็นสถานที่ทำการรัฐบาลของออสเตรีย ตั้งอยู่บนถนนริงสราเช่ส์ในย่าน Innere Stadt ใกล้กับพระราชวังฮอฟเบิร์ก อาคารนี้สร้างเสร็จในปี 1883 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,500 ตารางเมตร ทำให้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของรัฐ โดยเฉพาะพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแห่งออสเตรียและสุนทรพจน์ของรัฐในวันชาติทุกวันที่ 26 ตุลาคม
เขาเป็นคนแรกที่ค้นพบ ทวีปออสเตรเลีย เมื่อ ค.ศ. 1770 ต่อมาท่าน เซอร์ รัสเซล กริมเวด ได้ซื้อมาจากอังกฤษ โดยรื้ออิฐออกมาทีละก้อน แล้วถูกลำเลียงมาทางเรือ และมาประกอบใหม่ที่นี่ นำมาตั้งไว้ที่สวนฟิทซ์รอย (Fitzroy Gardens) เมื่อปี 1934 เพื่อเป็นของขวัญครบรอบหนึ่งร้อยปีของรัฐวิคตอเรีย และเพื่อเป็นการระลึกถึงการเดินทางค้นพบทวีปออสเตรเลียของกัปตันคุ๊ก ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านบางอย่างเป็นของดั้งเดิม บางอย่างก็เป็นของที่ทำเลียนแบบขึ้นมาใหม่ แล้วให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมภายในบ้านได้ ซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยที่ทำด้วยไม้และโลหะ ที่แสดงถึงห้องครัวในสมัยนั้น เมื่อขึ้นบันได ไป ก็จะเห็นห้องซึ่งใช้เป็นทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น เปลเด็กทำด้วยไม้โอ๊ค ตะเกียง เทียนไข ซึ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสตรีในยุคอังกฤษโบราณที่ตอนกลางคืน ต้องทอผ้า หรือปั่นด้ายไปด้วย ขณะเดียวกันก็ไกวเปลกล่อมลูกนอนไปด้วย
ชมสถาปัตยกรรมที่ล้ำหน้าของพื้นที่หลักของทางราชการของเมลเบิร์น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยอดเยี่ยมในการจัดงานแสดง สำรวจพิพิธภัณฑ์ หรีอเพียงแค่ดูผู้คน เฟเดอเรชันสแควร์คือศูนย์ราชการหลักและพื้นที่สาธารณะของเมลเบิร์น รู้จักกันในชื่อเล่นว่า "เฟดสแควร์" ที่นี่ตั้งอยู่ในใจกลางของเมลเบิร์น ล้อมรอบโดยสถานีฟลินเดอร์สตรีท วิหารเซนต์พอล และแม่น้ำยาร์รา เฟเดอเรชันสแควร์เป็นที่รู้จักกันดีในสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ซึ่งตั้งตระหง่านและแตกต่างจากอาคารยุควิกตอเรียและนีโอโกธิคที่อยู่ล้อมรอบ เพียงแค่โครงสร้างที่กล้าแข็งและเป็นเหลี่ยมเป็นมุม ก็ทำให้เฟเดอเรชันสแควร์เป็นสถานที่ที่น่าเยี่ยมชมแล้ว
ขบวนรถจักรไอน้ำโบราณตามแบบฉบับชาวออสซี่ เจ้าพัฟฟิ่ง บิลลี่ นี้เป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำรุ่นเก่าที่เลิกใช้นานแล้ว ทางรัฐก็เลยเอามาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคนั่งรถไฟโบราณซึ่งจะได้นั่งบนรางรถไฟแบบเก่าไปด้วย ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็นเส้นทางในการขนถ่ายลำเลียงถ่านหินระหว่างเมือง และปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงนำมาใช้ในงานการท่องเที่ยว นำท่านนั่ง รถไฟจักรไอน้ำโบราณ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามตามแนวเขาตลอดเส้นทางวิ่งของรถไฟ
ที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย บริหารงานโดยครอบครัวตระกูล Maru ตั้งอยู่บน Bass Highway ใน Grantville อยู่ห่างจากเมลเบิร์นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 120 กิโลเมตร ภายในมีสัตว์พื้นเมืองนานาชนิด อาทิเช่น โคอาล่า, จิงโจ้, วอมแบท ฯลฯ ที่นี่นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปคู่กับโคอาล่าตัวน้อยอย่างใกล้ชิด หรือสนุกสนานกับการให้อาหารจิงโจ้ด้วยตัวเอง
เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น การเดินพาเหรดของ นกเพนกวินบนเกาะฟิลลิปตั้งอยู่ห่างจากเมลเบิร์น ด้วยการ ขับรถสบาย ๆ เพียงสองชั่วโมง (หรือ 140 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น) เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น การเดินพาเหรดของ นกเพนกวินบนเกาะฟิลลิป (Phillip Island Penguin Parade) และ the Seals Rocks Sea Life Centre.
เป็นพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งเป็นชายหาดที่อยู่ในเขตการปกครองหนึ่งบนเกาะฟิลลิปในรัฐวิคตอเรีย ซึ่งตั้งอยู่ทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ ที่นี่เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพนกวินที่สำคัญจุดหนึ่งซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งในบางช่วงของตอนเย็นหากโชคดีจะได้เห็นเพนกวินสุดน่ารักเดินเล่นอยู่ตามริมชายหาด
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
เป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น ชายฝั่งดังกล่าวโดยส่วนใหญ่จะเป็นหน้าผา กระแสลม และคลื่นที่ซัดซ่าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นตัวกัดเซาะหน้าผาให้แตกและบางครั้งก็ถล่มคลื่นลมกัดเซาะเป็นเวลานับล้านๆ ปี จนปัจจุบันแผ่นดินบางส่วนกลายเป็นเกาะหินโดดเด่นอยู่กลางทะเล มีรูปทรงแปลกๆ ที่ดูสวยงามและดูน่ากลัว
เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านทัศนียภาพทางชายฝังที่สวยงาม ที่มีความยาวกว่า 32 กิโลเมตร นอกจากนี้ในเขตอุทยานแห่งชาติพอร์ตแคมป์เบลล์ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของหน้าผาหินปูนขรุขระสูงชัน ที่ถูกคลื่นซัดเป็นระยะเวลายาวนานหลายพันปี ทำให้เกิดการสึกกร่อนจนเกิดเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติอันสวยงาม
ลักษณะเป็นภูเขารูปโค้งขนาดใหญ่ ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนทะลุเป็นช่องตรงกลาง สวยงามไปอีกแบบ ปี ค.ศ.1878 เรือเดินทะเลสัญชาติอังกฤษนามว่า Loch Ard เดินเรือมาถึงน่านน้ำของเมลเบิร์น อยู่ในทะเลได้สามเดือน ตอนกลับสภาพอากาศไม่ดี ทำให้ไม่สามารถมองไม่เห็นไฟประภาคารซึ่งอยู่บน Cape Otway กัปตันเห็นว่าเรือจะชนก็สั่งให้หยุดเรือเต็มที่ แต่สายเกินไปสุดท้ายเรือก็เกิดอุบัติเหตุ ชนกับหินโสโครก จนน้ำเข้าเรือ และจมบริเวณนี้เอง
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
เป็นแท่งหินปูนที่ถูกธรรมชาติสลักให้มีรูปทรงแปลกๆ แตกต่างกันไปอย่างน่าอัศจรรย์ เรียงรายกระจายอยู่บริเวณชายหาด มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวเดินชมและถ่ายรูปกันแบบจุใจและใกล้ชิด
อิสระเต็มวันเมืองเมลเบิร์น ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ มากมาย อาทิ สวนฟิตซรอย ศูนย์ศิลปะเมลเบิร์น ตลาดควีนวิคตอเรีย ชมวิวแบบพาโนรามาจากชั้นบนสุดของ Eureka Tower และอื่นๆอีกมามายให้ท่านสัมผัสกับกิจกรรมต่างๆ ตามอัธยาศัย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานทัลลามารีน ตั้งอยู่ที่เมืองทัลลามารีน ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นท่าอากาศยานหลักอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นรองจากท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ และยังเป็นฐานบริการของควอนตัส และสายการบินลูกอย่างเจ็ตสตาร์แอร์เวย์ รวมถึงไทเกอร์แอร์เวย์ออสเตรเลียซึ่งจะเริ่มเปิดฐานบริการที่เมลเบิร์นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย