เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดตรีเอสเตและแคว้นปกครองตนเองฟรีอูลี-เวเนเซียจูเลีย (Friuli-Venezia Giulia) ของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บนอ่าวตรีเอสเต (Gulf of Trieste) ด้านตะวันออกเฉียงเหนือสุดของทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เป็นจัตุรัสหลักของเมืองตรีเอสเต โดยบริเวณด้านหน้าของจัตุรัสนั้นติดกับทะเลเอเดรียติก และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นจัตุรัสที่ที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวีเนียร์ มีพื้นที่ 168.8 ตร.กม. พลเมืองเมื่อปี 2014 อยู่ที่ 277,554 คนจุดท่องเที่ยวในเมืองนี้ได้แก่ ปราสาทลุบเบลียน่า Ljubljana Castle, สะพานมังกร Dragon Bridge, จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน Preseren Square ที่เราจะแวะเยี่ยมชมนอกจากนี้ยังมี จัตุรัสสามสะพาน Triple Bridges Square มหาวิหารลุบเบลียน่า Ljubljana Cathedral และ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ National Museum
ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือใจกลางเมืองลูบลิยานา โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานของชาวเติร์กและกบฏ ปัจจุบันปราสาทลูบลิยานาได้กลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรม และยังกลายเป็นหอชมเมือง ซึ่งคุณจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์อันงดงามงดงามของเมืองได้เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
เป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียว กับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม เพราะใจกลางจัตุรัสเป็นรูปหล่อของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวาเนีย
เมืองอยู่ในบริเวณระหว่างเนินทางใต้ของภูเขาเมดเวดนีตซา กับฝั่งเหนือของแม่น้ำซาวา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลเอเดรียติก และภูมิภาคแพนโนเนีย ทำให้สามารถติดต่อและคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคยุโรปกลางกับทะเลเอเดรียติกได้อย่างดี นอกจากนี้ซาเกรบยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร และเป็นที่ตั้งของกระทรวง หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย
มหาวิหารเซนต์สตีเฟนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางของจัตุรัสสเตฟาน เป็นมหาวิหารที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมทางศาสนาแบบโกธิคในยุโรปและมีความสวยโดดเด่นสะดุดตา หอคอยทางทิศใต้มีความสูง 136 เมตรและเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของวิวด้านบนโดยไต่บันไดขึ้นไป 343 ขั้น
ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก ช่วงเดือนแห่งใบไม้ร่วงนี้ สินค้าในตลาดโดแลค จะเจอผลไม้พวกลูกพีช ลูกพรุนสด แตงแบบแคนตาลูบ องุ่นสด ส้ม รวมทั้ง น้ำผึ้ง ลูกพีช ลูกใหญ่ๆนี่ อร่อยสุดๆ สดๆ เสน่ห์อย่างหนึ่งของโดแลค ตลาดแห่งนี้ คือ ตาชั่ง แบบใช้ตุ้มถ่วง
เป็นโบสถ์เซนต์มาร์กประจำเมืองซาเกรบ จุดเด่นคือมีหลังคากระเบื้องปูเป็นลวดลายรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง ที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของซาเกรบ
รถราง Funicular (คนท้องถิ่นเรียกZET) เป็นรถรางที่เชื่อมระหว่างเมืองด้านล่างและเมืองด้านบน ซึ่งใช้เวลานั่งเพียง 55 วินาทีเท่านั้น รถรางแนวเฉียงขึ้นเขานี้เปิดใช้บริการตั้งแต่ปี1893 มีทางวิ่งยาวเพียง 66 เมตรถือเป็นรถรางที่สั้นที่สุดสายหนึ่งของโลก มีความชันเขาสูง 30 เมตรเลยทีเดยว
เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่ออุทิศให้ Ban Josip Jelacic ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังกาเรียนเมื่อปี 1848 โดยเขาเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากของเมืองซาเกร็บแห่งนี้ ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการนำกองทัพโครเอเชียต่อสู้กับกองทัพของฮังการี
นับว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา
เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมา และเป็นเมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน ภายในตัวเมืองจะมีโบสถ์สำคัญประจำเมือง “โบสถ์อนาสตาเชีย The Cathedral of St. Anastasia” เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5-6 ยุคโรมาเนสก์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคดัลเมเชี่ยน
สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรี โดยอาศัย เกลียวคลื่น ที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนอง เสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก นิโคล่า เบสิก
เป็นเมืองท่องเที่ยวริมทะเลของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองซาเกรบ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง และถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีความเก่าแก่มาก อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าและการท่องเที่ยวของโครเอเชีย และที่สำคัญเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน
ได้รับการบอกเล่าว่าเป็นเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป จนได้รับฉายา "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก" ริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่ง และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม
สร้างขึ้นโดยศิลปะแบบโกธิค เรเนซองส์ ในสมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้ใช้เป็นที่จัดเก็บเอกสารและสำนักงานส่วนราชการ
เป็นกำแพงหินและป้อมปราการโบราณที่ตั้งล้อมรอบเมืองดูบรอฟนิค ได้ชื่อว่าเป็นระบบกำแพงป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคกลาง กำแพงเมืองที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในปัจจุบันสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12-17 มีความยาวตลอดแนวที่ 1,940 เมตร มีแท่นยิงปืนใหญ่กว่า 120 กระบอกตั้งกระจายอยู่ตามแนว และบนกำแพงยังถือเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวเมืองดูบรอฟนิคและวิวทะเลได้อย่างงดงาม
ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามรัฐสภามอนเตเนโกร (Montenegro`s parliament) กษัตริย์นิโคลา คือ กษัตริย์องค์สุดท้ายของมอนเตเนโกร พระองค์ทรงมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านการเมืองการปกครอง และทางด้านการประพันธ์บทกวีอันแสนไพเราะ อนุสาวรีย์ของพระองค์ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา รูปปั้นของพระองค์มีความสูงถึง 4 เมตรอยู่ในอิริยาบทนั่งบนหลังม้าอย่างสง่างาม ซึ่งยืนอยู่บนแท่นหินอ่อนสีแดง
เป็นเมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำริบนีตซา (Ribnica) และแม่น้ำมอราตชา (Morača) ทางทิศเหนืออยู่ห่างจากศูนย์สกีฤดูหนาวเพียงไม่กี่กิโลเมตร ทางทิศใต้ก็เกือบจะติดกับทะเลเอเดรียติก ทำให้เมืองนี้มีสภาพที่เอื้ออำนวยต่อการตั้งถิ่นฐาน
ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมือง ศูนย์รวมร้านค้าต่างๆมากมาย สามารถแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ The Cathedral of the Resurrection of Christ ซึ่งเป็นโบสถ์ออโทด็อกซ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี 1993 โดยความร่วมมือระหว่างประเทศมอนเตเนโกร และ เซอร์เบีย
ซึ่งเป็นโบสถ์ออโทด็อกซ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี 1993 โดยความร่วมมือระหว่างประเทศมอนเตเนโกร และเซอร์เบีย
เป็นอดีตเมืองศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเซอร์เบีย เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของโคโซโวซึ่งอยู่ติดกับมาซิโดเนียและแอลเบเนีย ตัวเมืองตั้งอยู่บนส่วนลาดชันของภูเขาซาร์นา
มัสยิดสินานปาชา (Sinan Pasha Mosque) เป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1615 ซึ่งได้รับการยกย่องว่า “อนุสรณ์สถานแห่งวัฒนธรรม”
โบสถ์แม่พระ (Church of Our Lady of Ljevis) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองคก์ารยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2006 โบสถ์ แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 โดยกษัตริย์ชาวเซอร์เบีย สเตฟาน มิลูทิน เป็นโบสถ์แบบเซอร์เบียออโธดอกซ์และหลังจากการเข้ามายึดครองอาณาจักรแห่งนี้โดยชาวออตโตมันในสมัยศตวรรษที่ 14 ได้เปลี่ยนโบสถ์แห่งนี้เป็นมัสยิด และในต้นศตวรรษที่ 20 ก็ได้เปลี่ยนกลับมาเป็นโบสถ์อีกคร้ัง
ถ้ำ กาดิเม “Gadime Cave” หรือถ้า หินอ่อน (Marble Cave) เป็นถ้า หินปูนที่มาชื่อเสียงของโคโซโว ที่เพิ่งจะถูกค้นพบเมื่อปีค.ศ.1966 โดยชาวบ้านที่ชื่อว่า อาห์เมท ดิที ซึ่งมีอาชีพตัดหินขายและได้ทำการขุดลงไปพบถ้ำหินอ่อนแห่งนี้ ชมความสวยงามของถ้ำ ที่มีความเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่มีความยาวประมาณ 1,500 เมตร
เป็นจัตุรัสหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสโกเปียตรงบริเวณแม่น้ำ Vardar ที่นี่ถือเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคมาซีโดเนียเหนือ ซึ่งกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander The Great) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการที่ประเทศได้รับเอกราชมา 20 ปี
เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่เสมือนเป็นประตูเข้าออกของประเทศมาซิโดเนีย ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1928 ที่นี่มีอีกชื่อว่า "ท่าอากาศยานอเล็กซานเดอร์มหาราช Alexander the Great Airport" ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงมรดกของตนในความเป็นภูมิภาคคาวาลาในกรีกมาซิโดเนียเมื่ออดีตนานมาแล้ว
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเทสเซรา ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ใกล้กับเมืองเวนิส ตั้งชื่อตามนักเดินทางชาวเวเนเชียน ชื่อมาร์โค โปโล
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย