เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองอาดานา ประเทศตุรกี เป็นท่าอากาศยานที่มีความใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1937
เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุสเป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า”
ระบำหน้าท้อง Belly Dance เป็นศิลปะการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก จากสาวสวยสุดเซ็กซี่ชาวอาหรับกับจังหวพดนตรีที่เร้าใจ
เป็นอดีตศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ ซึ่งชาวคริสต์มีความต้องการที่จะเผยแพร่ศาสนา ได้ขุดเจาะแท่งหินที่เกิดจากเศษเถ้าจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อสามสิบล้านปีก่อน (แท่งหินมีรูปร่างแปลกตาเพราะถูกกัดเซาะจากหิมะและลมในขณะที่ยังไม่แข็งตัวดี) เป็นถ้ำต่างๆ เป็นจำนวนมากให้เป็นโบสถ์เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเพื่อสำหรับหลบภัยและป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ "เกอเรเม่" ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ.1985
เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
พรมเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี ซึ่งมีสองแบบตามลักษณะความยาวของเส้นใยที่ใช้ทอคือ ฮาลื่อและคิลิม ฮาลื่อเป็นพรมแบบทั่วไปที่เห็นกัน วัสดุที่ใช้ทอมีทั้งขนสัตว์ฝ้าย ไหม เมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก ด้านหนึ่งจึงปุยขึ้นเป็นลายตามที่ช่างต้องการ ส่วนคิลิมใช้วัสดุเหมือนกัน แต่ทอโดยไม่ตัดด้ายพรม จึงมีลายเหมือนกันสองด้าน
ชมโรงงานเซรามิคคุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย
นครใต้ดินนั้นคือคำเรียกของลักษณะเมืองใต้ดิน ที่เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ซึ่งแม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ทว่าอากาศเบื้องล่างนั้นกลับรู้สึกสบาย
ไฮไลท์หนึ่งของการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตุรกี คือการขึ้นบอลลูนชม เมืองในหินผาที่ Cappadocia แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงเอาการ แต่ก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ประทับใจแนะนำให้ลองไปสัมผัส บรรยากาศและประสบการณ์นี้เมื่อท่องเที่ยวในตุรกี มองเห็นลิปๆ ไปสุดตาในหุบเขา คือมหัศจรรย์ธรรมชาติ เมืองในศิลาที่คราวหนึ่งย้อนไปไม่นานในสมัยประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวอันซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ให้เล่าขานสืบมา
ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพวกเติร์กบนแผ่นดินตุรกี ทำให้สถาปัตยกรรมแบบเซลจุกดั้งเดิมมีให้เห็นอย่างโดดเด่นที่นี่ และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของนิกายเมฟเลวี ที่ถือกำเนิดมาจากการก่อตั้งของเมฟลานา เยลาเลดิน ผู้ซึ่งเป็นกวีชาวอัฟกานิสถานที่ทำให้ชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยหันมานับถือศาสนาอิสลามเขาจึงเปรียบเหมือนผู้วิเศษในสายตาเหล่าสาวก
เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ยส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟานาเจลาเลดดิน อาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่งสุลต่านอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตร ของเมฟลานาด้วย
เป็นเมืองโบราณแบบกรีก - โรมันในจังหวัดอันตัลยาของตุรกี ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับซากสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์อันงดงามของตุรกีมากมาย
เป็นโรงละครแบบเปิดซึ่งถูกสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 262 เป็นสถานที่ที่อยู่ในคัมภีร์ Bible โดยที่หนึ่งในลูกศิษย์ของพระเยซูเคยมาแพร่คำสอน
เป็นเมืองท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาช้านานประมาณ 150 ปีก่อนคริสตกาล สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนที่ราบแถบชายฝั่งแคบๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและท้องทะเลอันงดงาม และได้รับการยกย่องว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งตุรกี”
ประตูเฮเดียน (Hadrian’s Gate) เป็นประตูชัยซึ่งสร้างตามชื่อของจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน ในช่วงศตรรษที่ 2 จากนั้นนำท่านชมท่าเรือโบราณ ปัจจุบันนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้
ล่องเรือชมความงามของอ่าวที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์ริเนี่ยน ณ พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ริเวียร่าแห่งตุรกี" ให้ท่านได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยเรือจะพาท่านลัดเลาะไปตามหน้าผาต่างๆ และพาท่านไปชมน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน
ชมความงดงามของอนุสาวรีย์โบราณ รวมถึงกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ (Hidirlik Tower) เป็นอีกหนึ่งหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือประภาคารในอดีต ปัจจุบันหอคอยถูกล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย
เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดไฮไลท์คือปราสาทปุยฝ้ายสุดวิจิตร บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์แห่งตุรกี ทั้งงดงามราวกับเป็นน้ำพุร้อนจากสวรรค์ และมีสรรพคุณในการบำบัดโรคจนกลายเป็นสปาธรรมชาติมานานกว่าพันปี
เป็นห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณในตุรกี ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
เป็นเมืองโบราณในเขตปามุคคาเล่ ประกอบด้วยพื้นที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่นี่มีไฮไลต์อยู่ที่สระน้ำแร่โบราณที่เชื่อกันว่าถูกใช้งานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ซึ่งมีน้ำแร่ธรรมชาติผุดขึ้นมาชั่วนาตาปีนับแต่อดีตคราวสร้างเมืองจนถึงปัจจุบัน และเป็นน้ำแร่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสรรพคุณการรักษาโรค
เป็นเมืองตากอากาศบนชายฝั่งทะเลอีเจียนของตุรกี เป็นศูนย์กลางของเขตชายทะเลที่มีชื่อเดียวกันภายในจังหวัด Aydın Kuşadası และเป็นจุดหมายปลายทางการล่องเรือสำราญขนาดใหญ่บนชายฝั่งทะเลอีเจียนตะวันตก เมืองคูซาดาสึขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าดึงดูดที่สุดของทะเลอีเจียนและเป็นที่ตั้งของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย
เป็นอดีตเมืองใหญ่สุดแห่งเอเชีย มีอายุราว 2 พันปี ซึ่งถือว่าเป็นเมืองเก่าที่มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก(เทียบกับเมืองอื่นๆในยุคเดียวกัน) ปัจจุบันจะทำการขุดแต่งบูรณะได้แค่เพียง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเมืองนี้ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งอารยธรรมกรีก-โรมันอันสุดคลาสสิคที่ยังคงอยู่คู่กับตุรกี ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันมากมายผ่านงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม รวมไปถึงผ่านทางความเชื่อต่างๆ
เป็นซากอาคารหอสมุดโบราณแบบโรมันในเมืองโบราณเอเฟซุส ที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วุฒิสมาชิกโรมันบลูกร็อตโตจูเลียสซีเลียสโพลมะนัสในช่วงประมาณ 114 ปีก่อนคริสตกาล นอกจากการเป็นห้องสมุดแล้ว ที่นี่ยังเป็นสุสานของเซลซึ่งถูกฝังอยู่ในห้องใต้ดินใต้ห้องสมุด ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็น "ห้องสมุดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในโลกยุคโบราณ" อีกด้วย
เป็นห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณในตุรกี ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
เป็นซากโบสถ์เซนต์จอห์นในเอเฟซุส ซึ่งเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์คนสำคัญคนหนึ่งที่ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาไปทั่วดินแดนอนาโตเลียหรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน ตอนนี้เหลือเพียงซากเสาและฐานโครงสร้างเท่านั้น
เป็นบ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้ง บ้านพระแม่มารีมีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในเป็นห้องโถงกว้างๆ ไม่มีสิ่งตกแต่งภายในมากนัก มีภาพเขียนที่ฝาผนังและแท่นบูชา เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้
โรงงานผลิตเสื้อหนังคุณภาพดี ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสื้อหนัง ตามอัธยาศัย
เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ทางตะวันตกของอนาโตเลีย เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามในประเทศตุรกีรองจากอิสตันบูลและอังการา ครอบคลุมไปถึงน่านน้ำรอบนอกของอ่าวอิซเมียร์ตรงบริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำ Gediz เมืองนี้ยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเมดิเตอร์เรเนียนในปี 1971 และการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกในปี 2005
เมืองนี้ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลีย ห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ซึ่งเป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของชาวเฮเลนนิสติก
เป็นซากวิหารที่ตั้งอยู่บนฝาหินปูน มีความสูง 156 เมตร สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากพื้นที่โดยรอบ
เป็นเขตเมืองโบราณหนึ่งบนฝั่งทะเลใกล้ๆ ปากช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ที่แยกยุโรปกับเอเชียออกจากกันในเมืองชานัคคาเล่ เช่นเดียวกับช่องแคบบอสฟอรัสทางเหนือของทะเลมาร์มาร่า ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบ ให้ซากปรักหักพังทั้งหลาย ปรากฏต่อสายตาของคนรุ่นหลัง นอกจากนี้ตุรกียังได้สร้างม้าไม้จำลอง (Wooden Horse of Troy) ขึ้นในชานัคคาเล่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียด ได้เห็นด้วยตาของตนเองด้วย
เมืองนี้ตั้งอยู่บนทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจียนบนชายฝั่งทางตอนใต้ของดาร์ดาแนลส์ เมืองแห่งนี้เคยเป็นชุมทางการค้า ศูนย์กลางการเดินเรือเชื่อมต่อเอเชียกับยุโรป เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ตั้งของเขตทรอย ซึ่งเป็นที่ตั้งของม้าไม้เมืองทรอยซึ่งจัดแสดงที่ริมทะเล
เป็นม้าไม้ที่เป็นสัญลักษณ์สงครามที่สำคัญในตำนานของกรีก เป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอย โดยกรีกได้สร้างม้าไม้โทจันขึ้นเพื่อเป็นแผนการหลอกชาวทรอย เพื่อลอบเข้าไปยึดเมือง
เป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ทวีป คือทวีปยุโรปซึ่งอยู่ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส และทวีปเอเชียซึ่อยู่ฝั่งอนาโตเลีย การได้ไปเยือนเหมือนการอยู่คาบเกี่ยวระหว่าง 2 อารยธรรมที่มีคุณค่าดั่งอัญมณีของโลก
เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ในร่มและเป็นตลาดใหญ่อันดับสองในอิสตันบูลรองจากแกรนด์บาร์ซาร์ เป็นตลาดเครื่องเทศแห่งกรุงอิสตันบูล โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้า เยนี คามี รายได้จากค่าเช่าร้านส่วนหนึ่งจะนำมาบำรุงมัสยิดและกิจกรรมการกุศลอื่นๆ มักเรียกขานกันจนติดปากว่าตลาดอียิปต์ เพราะที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องสินค้าที่นำเข้าจากกรุงไคโร
เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ที่ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส หนึ่งในช่องแคบเลื่องชื่ออันดับต้นๆ ของโลก เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แบ่งอิสตันบูลออกจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อกับทะเลดำ เข้ากับทะเลมาร์มาร่า ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่
จัตุรัสนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส โดยเป็นอดีตสนามอารีน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้า และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ เสาโอบีลิสก์ฟาโรหืธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ, เสางู (Serpentine colum) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี, เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
จัตุรัสนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส โดยเป็นอดีตสนามอารีน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้า และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ เสาโอบีลิสก์ฟาโรหืธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ, เสางู (Serpentine colum) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี, เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
มีชื่อเดิมว่า "สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1" ภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่นกุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป
ในอดึตสุเหร่าแห่งนี้เป็นโบสถ์ที่ไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ แต่ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม สร้างโดย "พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนติน" โดยโบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาสร้างถึง 17 ปี แต่ก็ถูกผู้ก่อการร้ายบุกเผาทำลายหลายครั้ง วอดวายนับไม่ถ้วน โดยมีสาเหตุหลักเนื่องจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม
เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร อุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ "เสาเมดูซ่า"
เป็นพระราชวังที่ผสมผสานศิลปะแบบพระราชวังยุโรปกับแบบอาหรับอย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในเขต Beşiktaş ของนครอิสตันบูลบนชายฝั่งด้านยุโรป ทำที่นี่เคยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบริหารหลักของจักรวรรดิออตโตมันจากปี 1856 ถึง 1887 และจากปี 1909 ถึง 1922
เป็นหนึ่งในสองท่าอากาศยานนานาชาติหลักที่ให้บริการเมืองอิสตันบูลของตุรกี ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิสตันบูลประมาณ 32 กิโลเมตร ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับสายการบินบางแห่งรวมถึง Pegasus Airlines
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย