เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนีซ โกตดาซูร์ อยู่ห่างจากเมืองนีซไปทางทิศตะวันตก 7 กม. มีธนาคารและตู้เอทีเอ็มในอาคารผู้โดยสารทั้งสองแห่ง อาคารผู้โดยสาร 1 มีที่ทำการไปรษณีย์และจุดรับแลกเปลี่ยนเงินตรา มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายทั่วทั้งสนามบิน และมีจุดบริการอินเทอร์เน็ตหลายแห่ง มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ ภายในอาคารผู้โดยสารทั้งสองแห่ง มีร้านจำหน่ายของฝาก ร้านจำหน่ายหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร และร้านค้าปลอดภาษี (สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางออกจากสหภาพยุโรป) อยู่ภายในอาคารผู้โดยสารทั้งสองแห่ง นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองท้องถิ่นอีกด้วย
นีซเป็นมากกว่าเมืองหลวงของ Cote D' Azur เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5ในฝรั่งเศส ซึ่งอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม , ซากปรักหักพัง, พิพิธภัณฑ์, ร้านเสื้อผ้า, ตลาดกลางแจ้งภัตตาคารที่น่าดึงดูดและชีวิตในยามค่ำคืน ทำให้นีซเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมที่น่าไปเยี่ยมชม
แหล่งบ้านเมืองแบบเก่า มีสถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมาย และยังเป็นแหล่งอาหารทะเลสดอร่อยยอดนิยมของเมืองอีกด้วย ตัวเมืองของนีซมีลักษณะเป็นตรอกซอกซอยที่คดเคี้ยวและแคบ สลับซับซ้อนและมีจัตุรัสเล็กๆ ซ่อนอยู่ตามตรอกซอกซอย อนุสาวรีย์ ร้านอาหารแบบดั้งเดิม ร้านกาแฟริมระเบียงและถนน Promenade des Anglais ที่สร้างเลียบไปตามความยาวของชายหาดริเวียร่าซึ่งเหมาะสำหรับการเดินเล่นริมทะเลเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
จัตุรัสเมสซิน่า จัตุรัสซึ่งประดับด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ เช่น ดอกกุหลาบ ทิวลิป เจเรเนียม ฯลฯ ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นอกจากนั้นยังมีน้ำพุสวยงามและอาคารทรงคลาสสิกตั้งอยู่เรียงราย ซึ่งนิยมทาสีสันสดใสตามแบบอาคารสถาปัตยกรรมทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเป็นย่านซื้อของฝากจากนีสในราคาถูก มีไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนให้ชิม เป็นที่อยู่ของพวกคนพื้นเมือง มีโบสถ์เก่าสมัยคริสศตวรรษที่ 18
เป็นมหาวิหารในเมืองนีซที่มีการออกแบบสไตล์ของรัสเซีย ซึ่งเป็นสถานที่นี้โดยทางการเป็นของรัสเซีย และยังเป็นอนุสรณ์สถานระดับชาติของฝรั่งเศส
เป็นดินแดนแห่งการพักผ่อน ไม่เคยมีฤดูหนาวที่หนาวจับจิต มีเมืองอื่นๆ เรียงราย ติดต่อกัน ทั้งเมือง อองตีบส์ นีซ แซ็งต์-ฌอง-กัป-แฟราต์ วิลฟรองช์-ซูร์-แม ทั่วโลกรู้จักกันดีในชื่อ “ริเวียร่า” นั่นเอง เมืองแห่งนี้มีทิวทัศน์สวยงาม ทั้งภูเขาและท้องทะเล หาดทรายที่ทอดยาวเหยียด ท่ามกลาง บรรยากาศหรูหรามีชีวิตชีวาตลอดเวลา ในช่วงเทศกาลภาพยนตร์ที่มักจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม จะมีนักเดินทางจากทุกมุมโลกมาเยือนเมืองนี้
เป็นเมืองในประเทศฝรั่งเศส ถือว่าเป็นเมืองหลวงของน้ำหอม มีโรงงานผลิตน้ำหอมให้คนเข้าชมได้ และมีจุดสนใจเป็นมหาวิหารต่างๆในเมือง
สถานที่ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก
เป็นโรงงานน้ำหอมดั้งเดิมยี่ห้อฟราโกนาร์ดที่ตั้งอยู่ในเมืองกราซ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งน้ำหอม ก่อตั้งขึ้นในอาคารสมัยศตวรรษที่ 19 ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเก่าที่มีการผลิตน้ำหอมและสบู่ทุกวัน ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงงานที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองกราซ
EZE ได้ชื่อว่าหมู่บ้านเล็กๆอันเก่าแก่ ที่อุดมไปด้วยต้นมะกอก และวิวอันที่สวยงามริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่ต่อมากลายเป็นที่พักผ่อนของพวกราชนิกูล ศิลปิน และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนจากทั่วทุกมุมโลกในปัจจุบัน หมู่บ้านนี้มีกำเนิดมาจากที่พักของพวกคนป่า เมื่อ 2 พันปีก่อนคริสตกาล โดยสร้างอยู่บนเทือกเขาสูง ที่อยู่ติดทะเล ต่อมาเมืองก็ถูกครอบครองโดยชาวโรมัน และสร้างเป็นป้อมปราการอยู่บนภูเขา เพื่อให้มองเห็นข้าศึกได้แต่ไกล
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก แต่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก
พระราชวังของเจ้าชายแห่งโมนาโกถือเป็นประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 11 ความงามของพระราชวังโมนาโกคือว่ามันไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวที่ แต่ก็ยังมีบ้านสำนักงานใหญ่ของไม้บรรทัด Monegasque ที่ ยามมีอย่างต่อเนื่องในสถานที่เพื่อให้แน่ใจว่าการป้องกันของเจ้าชายตัวเองและแรงงานที่ทำงานในวัง
เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สำคัญทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลวงของแคว้นลิกูเรีย และบริเวณเมืองมีความหนาแน่นประชากรราว 900,000 คน นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Superba อันเนื่องมาจากความรุ่งเรืองในอดีต
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าแบบอาคารกระจกเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย มมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองจากที่นี่ก็ได้
เวนิส หรือ เวเนเซีย (Venice Mestre) ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก
เป็นสะพานหินปูนสีขาวในเวนิสที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอจ ซึ่งวังแห่งนี้มีคุกขังนักโทษอันน่าสะพรึงขวัญอยู่ชั้นใต้ดินโดยถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองนี้เพื่อเข้าสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานก่อนที่จะหมดอิสรภาพ
จัตุรัสซานมาร์โคได้รับการประกาศเป็น ห้องวาดภาพของโลก ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับช่วงบ่ายที่แสนสบายในเวนิส ภายในบริเวณมีร้านกาแฟกลางแจ้งที่ตั้งกระจายอยู่ริมทางเดินในจัตุรัส เช่นเดียวกับอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบนอก
เป็นโบสถ์ประจำเมืองเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โค ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และความมั่งคั่งของเวนิส
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซา อยู่ในแคว้นทัสกานี ฝั่งแม่น้ำอาร์โน ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร
กัมโป เดย์ มีราโกลี หรือที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา คือบริเวณทที่ล้อมด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซา แคว้นทัสเคนี ประเทศอิตาลี โดยที่คำว่า กัมโป เดย์ มีราโกลี แปลว่า จัตุรัสอัศจรรย์
หอนี้ตั้งอยู่ที่เมืองปีซ่า ประเทศอิตาลี เป็นหอคอยสร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 176 ปี ตามประวัติกล่าวว่า ขณะก่อสร้างเสร็จ ฐานทรุดไปข้างหนึ่ง จะเป็นด้วยการคำนวณผิดพลาดหรือประการใดก็ไม่ทราบ เมื่อวัดปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 18 ฟุต แต่กระนั้นก็ยังไม่ล้ม ยังเอียงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซียนา ประเทศอิตาลี ในยุคกลางเซียนาเป็นเมืองคู่แข่งของฟลอเรนซ์ที่มีชื่อเสียงทางศิลปะและสถาปัตยกรรม
เป็นจตุรัสที่สวยงามเป็นอันดับ 3 ของอิตาลี ซึ่งใช้เป็นสนามแข่งกีฬาแข่งม้าประจำปี ชมความยิ่งใหญ่และงดงามของจตุรัสแห่งนี้ ที่มีลักษณะคล้ายปากปล่องภูเขาไฟอันรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญโบราณ เช่น ปาลาซโซ-พับปิโค, ปาลาซโซ-ซานเซโดนี
เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ซึ่งมีความสวยงามมาก ที่เป็นจุดเด่นของศาลากลางแห่งนี้ก็คือ หอระฆัง ซึ่งมีการติดตั้งนาฬิกาเอาไว้
หอระฆังมานเจีย ตั่งอยู่ที่เมืองเป็นหอระฆังเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1338-1348 ตอนบนออกแบบโดยลิปโป เม็มมิ หอออกแบบให้สูงกว่าหอของเมืองฟลอเรนซ์ และในช่วงเวลานั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในอิตาลี ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก็มีการติดตั้งนาฬิกาที่ทำด้วยเครื่องจักรกล ที่ยังสามารถบอกเวลาได้จนถึงปัจจุบัน
มหาวิหารเซียนา (Siena Cathedral) หรือ ดูโอโมดิเซียนา (Duomo di Siena ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1215 -1263 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมกอธิค และต่อเติมด้วยศิลปะแบบเรอเนซองส์ในยุคต่อมา
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
เป็นจุดนัดพบทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกห้อมล้อมด้วยซากอาคารต่างๆ คาดว่าเมื่อก่อนถูกใช้เป็นตลาดหรือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าเมื่อสมัยยุคโรมัน
เป็นสนามประลองรูปไข่ในกรุงโรมที่เกิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 2000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโรม สร้างจากหินปูนแบบ travertine หินภูเขาไฟ และคอนกรีตที่ก่อด้วยอิฐ สามารถเก็บผู้ชมได้ประมาณ 50,000 ถึง 80,000 คนในหลาย ๆ จุดของประวัติศาสตร์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันโคลีเซียมเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดมาแวะถ่ายรูปหากได้มาเยือนกรุงโรม นอกจากนี้้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7สิ่มหัศจรรย์ของโลกด้วย
วาติกันเป็นพื้นที่เอกราชของรัฐ Holy See ที่ตั้งอยู่ภายในกรุงโรมของประเทศอิตาลี วาติกันก่อตั้งขึ้นด้วยสนธิสัญญา Lateran ในปี 1929 เป็นดินแดนที่แตกต่างกันภายใต้ "การครอบครองอย่างเต็มรูปแบบเอกสิทธิ์เฉพาะและอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาล" ของ Holy See ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐอธิปไตยที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามตระการตา เต็มไปด้วยผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมมากมาย ด้านในมีประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่มีคุณค่าสำคัญทางศาสนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
เป็นรูปปั้นฝีมือของศิลปินชื่อดัง "ไมเคิลแองเจิลโล" ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นรูปปั้นของพระแม่มารีกำลังอุ้มร่างของพระเยซูที่ล่วงลับไปแล้ว
แท่นบูชาบัลแดคคิโน เป็นแท่นบูชาที่แกะสลักอย่างงดงามโดยจิอาน ลอเรนโซ่ เบอร์นินี่ เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์
เป็นน้ำพุที่น้ำนั้นมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ที่ชื่อ Nicola Salvi ที่นี่เป็นน้ำพุรูปลักษณ์แปลกที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
เป็นย่านบันไดที่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม ตั้งอยู่บนพื้นเขาระหว่าง Piazza di Spagna ที่ฐานและ Piazza Trinità dei Monti บันได 135 ขั้น ที่นี่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Francesco de Sanctis และ Alessandro Specchi ในปี 1723 ที่นี่เป็นจุดเดินเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยไม่แพ้จุดอื่นในกรุงโรม
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย