เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ของเกาหลีที่คนไม่ค่อยรู้จัก โดยมความใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจากโซล ปูซาน และอินชอน ด้วยประชากรมากถึง 2.5 ล้านคน
วัดแห่งนี้ได้อนุรักษ์สิ่งที่หลงเหลือจากอดีตอันหลากหลาย มีเจดีย์หินสามชั้นในตรงปีกด้านตะวันออกและตะวันตกของวัดเป็นผังแบบวัดที่หาดูได้ยาก ทั้งยังมีเสาโบราณคู่หินแห่งพระไวโรคัน (Vairocana Buddha) และภาพแกะสลักพระพุทธบนก้อนหินที่น่าสนใจด้วย
เป็นสวนสนุกที่มีชื่อเก่าว่า Wooband Tower Land และสร้างขึ้นมาล้อมรอบตึกสูงชื่อ Woobang Tower ซึ่งได้ถูกออกแบบใหม่ให้มีดีไซน์แบบยุโรป และเปิดเป็นสวนสนุกเพื่อให้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ
เป็นหอคอยที่ตั้งอยู่ในสวนสนุก E-World ของเกาหลี มีจุดเด่นคือภัตตาคารและลานหมุนชั้นบน ซึ่งมีทัศนียภาพที่เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บริเวณด้านล่างของตึกยังมีหอศิลป์ Art Magic ซึ่งข้างในมีผลงานชิ้นเอกที่ยอดเยี่ยมมากมาย โดยเฉพาะงานศิลปะภาพวาดลวงตาที่สร้างภาพโดยใช้เทคนิคจากภาพสามมิติที่ทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมกับผลงานเหล่านี้ได้
เป็นถนนแห่งประวัติศาสตร์และเป็นย่านแฟชั่นที่สำคัญในนครแดกู ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้านับร้อย ซึ่งเหมาะสำหรับการช้อปปิ้งและความบันเทิง ที่นี่มีห้างสรรพสินค้ามากมาย, ร้านเสื้อผ้า, ร้านขายเครื่องประดับ ที่คุณจะหลงรักสินค้าแฟชั่น ที่มีเอกลักษณ์ในราคาที่เป็นกันเอง
เป็นหมู่บ้านเก่าของพวกขุนนางและชนชั้นสูงตระกูลฉ่อยแห่งยุคสมัยราชวงศ์โชซอน ประกอบด้วยบ้านรือนประมาณ 20 หลังในสไตล์สมัยโชซอน ส่วนใหญ่ไม่ใช่บ้านแบบดั้งเดิมแต่สร้างขึ้นใหม่ขึ้นตามกาลเวลา ส่วนที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านมีรูปปั้นตั๊กแตนยืนรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
เป็นวัดขนาดใหญ่ใหญ่และมีความเก่าแก่ที่สุดของเมืองเคียงจู ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาโทฮันซาน ภายในมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และความเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศานิกชนในสมัยก่อนและปัจจุบัน วัดนี้ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์และทิวทัศน์หมายเลข 1 โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ นอกจากนี้ในปี 1995 วัดแห่งนี้ก็ได้ถูกเพิ่มเข้าในรายการมรดกโลกของยูเนสโกด้วย
เป็นวัดถ้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนธรรมชาติอันเกิดจากฝีมือของมนุษย์ ตั้งอยู่ที่ภูเขาด้านหนึ่งของภูเขาโตฮัมซาน สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับวัดพูลกุกซา ในสมัยของอาณาจักรชิลลา ภายในวิหารหลักของวัดเป็นที่ประดิษฐานพระศากยมุณีที่สลักขึ้นจากหินแกรนิตสีขาวซึ่งมีความงดงามมากที่สุดองค์หนึ่งของเกาหลี ที่นี่เป็นหนึ่งในกุฏิอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งใช้เป็นที่พำนักและปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์
หอคอยชอมซองแดแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 ตรงกับรัชสมัยของพระราชินีซอนด๊อกแห่งซิลลา โดยใช้หินแกรนิตในการก่อสร้างทั้งสิ้น 362 ก้อน และใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 362 วัน พระราชินีซอนด็อกโปรดให้สร้างใกล้เมืองคย็องจู เมืองหลวงของชิลลาในขณะนั้น หอคอยนี้มีความสูงจากฐาน 5.7 เมตร และมีความยาวทั้งสิ้น 9.4 เมตร หอคอยแห่งนี้ถือว่ามีความเก่าแก่มากที่สุด นับถึงปัจจุบันหอดูดาวช็อมซ็องแดมีอายุกว่า 1,350 ปี และถูกบรรจุให้เป็นสมบัติประจำชาติเกาหลีใต้ลำดับที่ 31 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1962
เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 3.65 ล้านคน และปูซานยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงโซล ที่นี่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งไม่แพ้ไปจากกรุงโซล
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแดกู (Daegu National Museum) เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่วัฒนธรรมแก่ประชาชนในภูมิภาค ผ่านการจัดกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆ และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของภูมิภาคคยองบุกและแดกู พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแดกูตั้งอยู่ในเขตสวนสาธารณะบอมออ เขตซูซอง เมืองแดกู ตัวอาคารถูกสร้างด้วยอิฐแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น และชั้นบนดิน 2 ชั้น อาคารแห่งนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด 15,027.64 ตารางเมตร (พื้นที่ทั้งหมด 101, 904 ตารางเมตร) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแดกูมีเป้าหมายที่จายกระดับการให้ความรู้แก่ประชาชน รวมไปถึงการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆอีกด้วย