เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดขอประเทศเกาหลีใต้ ปัจจุบันท่าอากาศยานอินชอนมีเที่ยวบินกว่า 410,000 เที่ยวรองรับผู้โดยสารกว่า 44 ล้านคนและสินค้ากว่า 4.5 ล้านตันต่อปี และยังได้รับรางวัลดีเด่นด้านการบริการระดับโลกถึง 6 ปีซ้อน ภายในมีร้านค้าปลอดภาษีกว่า 70 ร้านและร้านของแบรนด์ดังกว่า 400 แบรนด์
เป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยอยู่บริเวณแม่น้ำฮัน คำว่าโซลในภาษาเกาหลีมีความหมายว่า “เมืองหลวง” กรุงโซลในอดีตเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโซซอนมีชื่อเดิมว่า เมืองฮันยาง สถาปนาพร้อมกับการสร้างอาณาจักรโซซอน กรุงโซลถือเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของเมืองซองโด มีพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร โดยแบ่งออกเป็น 5 เกาะจำลอง ตั้งอยู่ริมน้ำ ที่นี่เป็นจุดขึ้นลงของ Water Taxi และจัดบริเวณโดยรอบให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
ที่นี่เป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศเกาหลีใต้ ที่เป็นจุดหมายในฝันสุดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวเกาหลี ชาวไทยและชาวต่างชาติ เกาะนามิหรือที่เรียกว่า "นามีซ็อม" (Namiseom) เป็นเกาะขนาดเล็กเพียง 460,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่กลางทะเลสาบชองเพียง มีชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม และได้รับความนิยมมากขึ้นจากกระแสความโด่งดังของภาพยนต์ซีรีย์เรื่อง "เพลงรักในสายลมหนาว" ที่ใช้เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ
ที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซล ตัวหอคอยมีความสูงเกือบ 240 เมตร ซึ่งบางครั้งก็ถูกเรียกว่า “นัมซันทาวเวอร์” เพราะหอคอยตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับชมวิวทิวทัศน์ของกรุงโซล โดยเฉพาะในช่วงเวลาค่ำคืนนั้น จะเห็นสภาพบ้านเมืองของกรุงโซลด้านล่างเต็มไปด้วยแสงสีต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับวิวสุดโรแมนติก
จุดไฮไลท์ของหอคอยกรุงโซลที่คู่รักทุกคู่ชาวเกาหลีจะต้องทำอย่างเสียไม่ได้คือ การคล้องกุญแจคู่รัก Love Key Ceremony บนโซลทาวเวอร์ โดยที่จะเขียนข้อความหรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ และก็จะนำแม่กุญแจนี้ไปคล้องกับรั้วเหล็ก ส่วนลูกกุญแจเค้าจะทิ้งไป ด้วยความเชื่อที่ว่าหากคู่รักคู่ใด ได้มาเยือนและคล้องกุญแจคู่รักกันที่นี่ จะทำให้ความรักของทั้งคู่ยืนยาว ไม่พรากจากกันไปตลอดกาล
เป็นสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่เขตชัมซิลในกรุงโซล เปิดให้บริการตลอดทั้งปีไม่มีวันหยุด ที่นี่มีทั้งสวนสนุกในร่ม ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสวนสนุกในร่มที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ และมีโซนสวนสนุกกลางแจ้ง ที่สร้างเป็นเกาะอยู่กลางทะเลสาบซอกชน รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ช้อปปิงมอลล์ ซุปเปอร์มาเก็ต โรงแรมหรู รวมไปถึงด้านในยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี หรือ Korean Folk Museum อีกด้วย
ลอตเต้เวิล์ดทาวเวอร์ เป็นสถาปัตยกรรมอาคารที่โดดเด่น มีแรงบันดาลใจจากภาพวาดเซรามิกเกาหลี และพู่กันเขียน เป็นตึกที่สูงเป็นลำดับที่ 6 ของโลก(556 เมตร) มีทั้งหมด 123 ชั้น ด้านบนทาวเวอร์ประกอบด้วยแกลเลอรี่ คาเฟ่ โรงแรมหรู และหอชมวิว Skywalk ที่สามารถชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของไฟในตัวเมืองกรุงโซลได้อย่างทั่วถึง
เป็นสวนที่มีความสวยงามของบรรดาดอกไม้ ดอกหญ้า ที่เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ถ่ายท่ามกลางทุ่งดอกหญ้า อาทิ สวนดอกหญ้า Pink Muhly และ ที่พลาดไม่ได้เลย คือ Globe Amaranth (ดอกบานไม่รู้โรย), Kochia (ทุ่งต้นโคเคีย หรือดอกหญ้าไม้กวาด), Whirling Butterflies (ดอกเล็กๆ สีขาวอมชมพู) แข่งกันชูช่อสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลี
ฮันบกเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติเกาหลีมาเป็นเวลาพัน ๆ ปีมาแล้ว ความงามและความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลีจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบกนี้ ก่อนที่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบตะวันตกจะได้เข้ามาในเกาหลีเมื่อร้อยปีมาแล้วนั้น หญิงชาวเกาหลีจะสวมชุดฮันบกเป็นปกติทุกวัน ส่วนสุภาพบุรุษจะสวมชอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และพาจิ (กางเกงขายาว) ในขณะที่สุภาพสตรีสวมชอกอรีและชีมา (กระโปรง) ในปัจจุบันชุดประจำชาติฮันบก จะใช้สวมเฉพาะในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส วันซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) ฮันบก ของผู้หญิงประกอบด้วย กระโปรงพันรอบตัว เรียกว่า “ชิมา” และเสื้อ “ชอกอรี” ซึ่งคล้ายเสื้อแจ็คเก็ตฮันบกของผู้ชายประกอบด้วยชอกอริเช่นกัน แต่สั้นกว่าของผู้หญิง และมีกางเกงเรียกว่า “บาจิ” ทั้งชุดของผู้หญิงและผู้ชายสวมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวเรียกว่า “ตุรุมากิ”
อาหารประจำชาติเกาหลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในอาหารเกาหลียอดนิยมของคนไทยอีกเมนูหนึ่ง
แวะช้อปที่ร้านเครื่องสำอางยอดนิยม COSMETIC OUTLET สวรรค์ของนักช้อปชาวไทย เพื่อเลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ ROJUKISS มีราคาถูกกว่าที่เมืองไทยเกือบเท่าตัว และบางผลิตภัณฑ์ยังไม่มีขายในไทย เป็นแหล่งรวมเครื่องสำอางขนาดใหญ่ที่มีเครื่องสำอางให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างจุใจทุกชนิด และทุกแบรนด์
ย่านทงแดมุน เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยกว่า 10 แห่ง ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบดั้งเดิมของบริเวณฮึนอินจิมุนหรือประตูตะวันออก ที่นี่เป็นแหล่งค้าของสินค้าประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องหนัง เครื่องนอน เครื่องใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์กีฬา เครื่องกีฬา รองเท้า และอื่นๆ สินค้ามีความหลากหลายและทันสมัยในราคาที่ไม่แพง
จุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีและชาวต่างชาติอย่างพวกเราแวะมาถ่ายรูปกัน ลานดอกกุหลาบไฟแอลอีดีกว่าสองหมื่นดอกนี้ จะอยู่ด้านหลัง Dongdaemun Design Plaza (DDP) ซึ่งก็อยู่ในย่านทงแดมุน ช่วงเวลาที่สวยสุดก็คงจะเป็นช่วงอาทิตย์อัสดง ที่บริเวณนี้จะเป็นทุ่งแสงไฟที่มีความสวยงามมาก
ฮอกเก็ตนามู เป็นสมุนไพรที่ขึ้นเฉพาะประเทศเกาหลี 10 ปีจะออกดอกหนึ่งครั้งปลูกบนยอดเขาสูง เมื่อนำดอกมาสกัด มีสรรพคุณ ช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆออกจากตับอย่างปลอดภัยเนื่องจากเป็นสมุนไพรเกรดเอ มีขายเฉพาะในประเทศเกาหลีเท่านั้น เกรดส่งออกที่ขายตามห้ามสรรพสินค้าบ้านเรา จะเป็นเกรดบีเท่านั้น ไม่มีเกรดเอ
น้ำมันสนเข็มแดง เป็นการสกัดจากใบสนเข็มแดงบริสุทธิ์ 100% ซึ่งสรรพคุณของน้ำมันสนเข็มแดงนั้นมีประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งช่วยละลายคลอเรสเตอรอล และไขมันที่อุดตันในเส้นเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายในรูปแบบของเสีย เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ ช่วยล้างสารพิษหรือดีท็อกซ์เลือดให้สะอาด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้สะดวกขึ้น ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้สดใสจากภายใน และลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
เป็นย่านที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ที่เรียกว่าอีแด ก็เพราะเหตุผลเดียวกับฮงแด คือเอาคำว่า "อี" ที่มาจากอีฮวา กับคำว่า "แด" ที่มาจาก แดฮัคกโย ที่แปลว่ามหาวิทยาลัยมาผสมกันกลายเป็น "อีแด" เป็น Shopping Street คล้ายๆ กับที่มยองดง เพียงแต่ร้านไม่เยอะเท่า เน้นไปที่ร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แบบร้านเล็กๆ ที่แฝงตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆ เสียมากกว่าจะเป็นร้านแบบมียี่ห้อ ที่สำคัญคือเสื้อผ้าที่ย่านนี้ ราคาจะถูกกว่ามยองดงหรือฮงแด
เป็นพระราชวังลำดับที่สองทึ่ถูกสร้างต่อจากพระราชวังเคียงบกกุงในปี 1405 และมีความสำคัญในการเป็นที่พำนักของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ในสมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon) และยังเป็น 1 ใน 5 ของพระราชวังสำคัญที่ยังคงรักษาไว้ ประกอบไปด้วย เขตพระราชฐานชั้นนอก, เขตพระราชฐานชั้นใน และสวนด้านหลังสำหรับเป็นที่พักผ่อนของพระมหากษัตรย์ ซึ่งมีต้นไม้ขนาดยักษ์ที่มีกว่า 300 ปี, บ่อน้ำ และศาลาริมน้ำ
เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของเกาหลีที่มีประวัติยาวนานที่เรียกว่าฮันอก (Hanok) ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบกกุง, พระราชวังชางด๊อกกุง และอารามหลวงจองเมียว หมู่บ้านประกอบด้วยตรอกซอกซอยอันเป็นที่ตั้งของบ้านแบบดั้งเดิมกว่าร้อยหลัง และเป็นที่เก็บรักษาสภาพแวดล้อมของเมืองไว้ เพื่อเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอนที่มีอายุกว่า 600 ปี
เป็นสถานที่ช้อปปิ้งยอดฮิตในเกาหลี ใครที่มาเกาหลีต้องมาช้อปปิ้งที่นี่ เพราะเป็นศูนย์รวมของสินค้ายอดฮิตหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางค์ มีทุกยี่ห้อยอดฮิตในเกาหลี มีทุกซอยทุกหลืบในเมียงดง , เสื้อผ้าแฟชั่น ทั้งหญิงและชาย เสื้อผ้าที่นี่จะมีทั้งร้านที่เป็นแบรนด์ยอดฮิตในเกาหลี และแบรนด์สุดฮิตจากต่างประเทศ รวมถึงร้านอาหาร ร้านฟาสฟู๊ด ร้านหมูย่าง และร้านกาแฟ สรุปว่าที่นี่มีทุกอย่างที่นักช้อปต้องการครบครัน
สถานที่แหล่งรวมศูนย์สมุนไพรโสม เพื่อฟังคำบรรยายถึงสรรพคุณต่างๆ ของโสมแต่ละชนิด โดยโสมที่ดีมีคุณภาพ ต้องมีอายุ 6 ปี รัฐบาลเกาหลีได้ใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างมากจึงต้องเข้ามาควบคุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่ การเริ่มปลูกโสม จนกระทั้งการผลิตออกมาเป็นตัวยา “โสมเกาหลี” นั้นมีสารประกอบที่สำคัญอยู่หลายอย่างมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีลักษณะเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่มีระยะทาง 700 เมตร ที่นี่มีสินค้าเก่าและดั้งเดิมจำหน่าย รวมทั้งผลงานศิลปะอื่นๆ อีกมากมาย จึงนับว่าเป็นถนนที่มีการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเก่าไว้ได้อย่างลงตัว
โรงงานพลอยอเมทิส หรือ พลอยสีม่วง ที่มีชื่อเสียงของประเทศเกาหลี ซึ่งชาวโสมเชื่อว่าถ้าได้มีพลอยชนิดนี้ติดตัวไว้ จะทำให้มีโชคลาภและสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับชีวิต
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดขอประเทศเกาหลีใต้ ปัจจุบันท่าอากาศยานอินชอนมีเที่ยวบินกว่า 410,000 เที่ยวรองรับผู้โดยสารกว่า 44 ล้านคนและสินค้ากว่า 4.5 ล้านตันต่อปี และยังได้รับรางวัลดีเด่นด้านการบริการระดับโลกถึง 6 ปีซ้อน ภายในมีร้านค้าปลอดภาษีกว่า 70 ร้านและร้านของแบรนด์ดังกว่า 400 แบรนด์
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย