เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแดกู โดยให้บริการเมืองแดกูและพื้นที่โดยรอบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1937 ส่วนใหญ่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศมากกว่าของต่างประเทศ ที่นี่ยังเป็นฐานทัพอากาศของกองบินขับไล่ที่ 11 แห่งกองทัพอากาศเกาหลีใต้ ที่ประจำการเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงอย่าง F-15K ด้วย
วัดแห่งนี้ได้อนุรักษ์สิ่งที่หลงเหลือจากอดีตอันหลากหลาย มีเจดีย์หินสามชั้นในตรงปีกด้านตะวันออกและตะวันตกของวัดเป็นผังแบบวัดที่หาดูได้ยาก ทั้งยังมีเสาโบราณคู่หินแห่งพระไวโรคัน (Vairocana Buddha) และภาพแกะสลักพระพุทธบนก้อนหินที่น่าสนใจด้วย
เป็นสวนสนุกที่มีชื่อเก่าว่า Wooband Tower Land และสร้างขึ้นมาล้อมรอบตึกสูงชื่อ Woobang Tower ซึ่งได้ถูกออกแบบใหม่ให้มีดีไซน์แบบยุโรป และเปิดเป็นสวนสนุกเพื่อให้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ
เป็นหอคอยที่ตั้งอยู่ในสวนสนุก E-World ของเกาหลี มีจุดเด่นคือภัตตาคารและลานหมุนชั้นบน ซึ่งมีทัศนียภาพที่เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บริเวณด้านล่างของตึกยังมีหอศิลป์ Art Magic ซึ่งข้างในมีผลงานชิ้นเอกที่ยอดเยี่ยมมากมาย โดยเฉพาะงานศิลปะภาพวาดลวงตาที่สร้างภาพโดยใช้เทคนิคจากภาพสามมิติที่ทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมกับผลงานเหล่านี้ได้
เป็นถนนแห่งประวัติศาสตร์และเป็นย่านแฟชั่นที่สำคัญในนครแดกู ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้านับร้อย ซึ่งเหมาะสำหรับการช้อปปิ้งและความบันเทิง ที่นี่มีห้างสรรพสินค้ามากมาย, ร้านเสื้อผ้า, ร้านขายเครื่องประดับ ที่คุณจะหลงรักสินค้าแฟชั่น ที่มีเอกลักษณ์ในราคาที่เป็นกันเอง
พิพิธภัณฑ์นี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1945 โดยเป็นสาขาของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี สำหรับอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์ถูกสร้างในปี 1968 และในปี 1975 ได้รับการยกฐานะให้เป็น “พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจู” ที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ ที่เก็บรวบรวมมรดกวัฒนธรรมทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของเมืองเคียงจูไว้จำนวนมากท
ที่นี่เป็นที่ตั้งของพระราชวังรองซึ่งใช้เป็นพระราชวังของมกุฎราชกุมารและอาคารอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นห้องจัดเลี้ยงสำหรับงานสำคัญระดับชาติและผู้เข้าชมที่สำคัญอีกด้วย หลังจากการล่มสลายของ Silla ตามด้วย Goryeo และ Joseon สถานที่นี้มีชื่อว่า 'Anapji' แทน ต่อมาชิ้นส่วนจากเครื่องปั้นดินเผาที่แกะสลักตัวอักษร "Wolji" ถูกค้นพบในปี 1980 และพบว่า Wolji มีความหมายของบ่อสะท้อนดวงจันทร์ ดังนั้นชื่อ 'Anapji' จึงเปลี่ยนเป็นปัจจุบัน - 'พระราชวัง Donggung และ Wolji Pond
เป็นวัดถ้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนธรรมชาติอันเกิดจากฝีมือของมนุษย์ ตั้งอยู่ที่ภูเขาด้านหนึ่งของภูเขาโตฮัมซาน สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับวัดพูลกุกซา ในสมัยของอาณาจักรชิลลา ภายในวิหารหลักของวัดเป็นที่ประดิษฐานพระศากยมุณีที่สลักขึ้นจากหินแกรนิตสีขาวซึ่งมีความงดงามมากที่สุดองค์หนึ่งของเกาหลี ที่นี่เป็นหนึ่งในกุฏิอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งใช้เป็นที่พำนักและปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์
หอคอยชอมซองแดแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 ตรงกับรัชสมัยของพระราชินีซอนด๊อกแห่งซิลลา โดยใช้หินแกรนิตในการก่อสร้างทั้งสิ้น 362 ก้อน และใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 362 วัน พระราชินีซอนด็อกโปรดให้สร้างใกล้เมืองคย็องจู เมืองหลวงของชิลลาในขณะนั้น หอคอยนี้มีความสูงจากฐาน 5.7 เมตร และมีความยาวทั้งสิ้น 9.4 เมตร หอคอยแห่งนี้ถือว่ามีความเก่าแก่มากที่สุด นับถึงปัจจุบันหอดูดาวช็อมซ็องแดมีอายุกว่า 1,350 ปี และถูกบรรจุให้เป็นสมบัติประจำชาติเกาหลีใต้ลำดับที่ 31 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1962
เป็นวัดขนาดใหญ่ใหญ่และมีความเก่าแก่ที่สุดของเมืองเคียงจู ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาโทฮันซาน ภายในมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และความเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศานิกชนในสมัยก่อนและปัจจุบัน วัดนี้ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์และทิวทัศน์หมายเลข 1 โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ นอกจากนี้ในปี 1995 วัดแห่งนี้ก็ได้ถูกเพิ่มเข้าในรายการมรดกโลกของยูเนสโกด้วย
เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 3.65 ล้านคน และปูซานยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงโซล ที่นี่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งไม่แพ้ไปจากกรุงโซล
เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมในเกาหลี ที่มีจุดเด่นในการจัดเรียงบ้านที่มีสีสันที่สวยงามน่าดึงดูดใจ รวมถึงศิลปะข้างถนนที่จัดแสดงไว้บนกำแพงและในรูปแบบต่างๆ
สะพานเดินทะเลอยู่ในบริเวณชายหาดซองโดสะพานแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของชายหาด ซองโด ตัวสะพานยื่นออไปในทะเลเปรียบเสมือนเราเดินอยู่บนทะเล สะพานทอดยาวประมาณ 104 เมตร ในส่วนขอพื้นสะพาน สามารถมองเห็น น้ำทะเลผ่านกระจกนิรภัย
ฮันบกเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติเกาหลีมาเป็นเวลาพัน ๆ ปีมาแล้ว ความงามและความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลีจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบกนี้ ก่อนที่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบตะวันตกจะได้เข้ามาในเกาหลีเมื่อร้อยปีมาแล้วนั้น หญิงชาวเกาหลีจะสวมชุดฮันบกเป็นปกติทุกวัน ส่วนสุภาพบุรุษจะสวมชอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และพาจิ (กางเกงขายาว) ในขณะที่สุภาพสตรีสวมชอกอรีและชีมา (กระโปรง) ในปัจจุบันชุดประจำชาติฮันบก จะใช้สวมเฉพาะในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส วันซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) ฮันบก ของผู้หญิงประกอบด้วย กระโปรงพันรอบตัว เรียกว่า “ชิมา” และเสื้อ “ชอกอรี” ซึ่งคล้ายเสื้อแจ็คเก็ตฮันบกของผู้ชายประกอบด้วยชอกอริเช่นกัน แต่สั้นกว่าของผู้หญิง และมีกางเกงเรียกว่า “บาจิ” ทั้งชุดของผู้หญิงและผู้ชายสวมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวเรียกว่า “ตุรุมากิ”
เป็นที่ที่จะสามารถเห็นเมืองปูซานในมุมสูง ทาวเวอร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนยองดูซาน ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง สวนนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวปูซาน จากด้านบนนักท่องเทียวจะสามารถมองเห็นวิวเมืองปูซานแบบพาโรนามาอันงดงามได้
แวะช้อปที่ร้านเครื่องสำอางยอดนิยม COSMETIC OUTLET สวรรค์ของนักช้อปชาวไทย เพื่อเลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ ROJUKISS มีราคาถูกกว่าที่เมืองไทยเกือบเท่าตัว และบางผลิตภัณฑ์ยังไม่มีขายในไทย เป็นแหล่งรวมเครื่องสำอางขนาดใหญ่ที่มีเครื่องสำอางให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างจุใจทุกชนิด และทุกแบรนด์
น้ำมันสนเข็มแดง เป็นการสกัดจากใบสนเข็มแดงบริสุทธิ์ 100% ซึ่งสรรพคุณของน้ำมันสนเข็มแดงนั้นมีประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งช่วยละลายคลอเรสเตอรอล และไขมันที่อุดตันในเส้นเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายในรูปแบบของเสีย เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ ช่วยล้างสารพิษหรือดีท็อกซ์เลือดให้สะอาด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้สะดวกขึ้น ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้สดใสจากภายใน และลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
เป็นตลาดปลาประจำเมืองปูซาน ว่ากันว่าคนญีปุ่นยังต้องมาดูให้เห็นความยิ่งใหญ่กับตาไม่แพ้ตลาดปลาซึกิจิของแดนซามูไรเลยทีเดียว ที่นี่เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี โดยในแต่ละวันนั้นจะมีปริมารการค้าขายปลาและสัตว์ทะเลในตลาดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมหาศาล พอๆ กับที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลาดปลาแห่งนี้ที่มีจำนวนมากมายในแต่ละวันด้วยเช่นกัน
ที่นี่เปรียบเสมือนย่านมยองดงที่กรุงโซล เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้ามากมายในใจกลางเมืองปูซาน ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าให้ขาช้อปได้เพลิดเพลินเจริญใจ สินค้าสตรีทแบรนด์ต่างๆ ถูกยกมาตั้งไว้ที่นี่เช่นเดียวกับในเมืองโซล ใกล้ๆ กับถนนช้อปปิ้ง จะมีถนนที่เรียกว่า BIFF Street เป็นบริเวณที่ใช้จัดงานภาพยนตร์นานาชาติปูซานหรือ Busan International Film Festival (BIFF) ที่รู้จักกันไปทั่วโลกนั่นเอง
เป็นวัดที่สร้างอยู่บนโขดหินริมทะเล มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสของทะเลใต้ แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ชื่อของวัดหมายถึงพระราชวังของมังกรกษัตริย์ซึ่งความเป็นมาของวัดแห่งนี้ก็ดูลึกลับน่าพิศวงดั่งชื่อที่ตั้งไว้ ในบริเวณวัดมีเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งมีผู้คนแวะเวียนไปสักการะบูชาไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังสามารถข้ามสะพานหินและขึ้นบันได 108 ขั้นไปยังจุดชมวิวที่อยู่ด้านบนเพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนลืมความเหนื่อยเมื่อยล้า
ฮอกเก็ตนามู เป็นสมุนไพรที่ขึ้นเฉพาะประเทศเกาหลี 10 ปีจะออกดอกหนึ่งครั้งปลูกบนยอดเขาสูง เมื่อนำดอกมาสกัด มีสรรพคุณ ช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆออกจากตับอย่างปลอดภัยเนื่องจากเป็นสมุนไพรเกรดเอ มีขายเฉพาะในประเทศเกาหลีเท่านั้น เกรดส่งออกที่ขายตามห้ามสรรพสินค้าบ้านเรา จะเป็นเกรดบีเท่านั้น ไม่มีเกรดเอ
เป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ของเกาหลีที่คนไม่ค่อยรู้จัก โดยมความใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจากโซล ปูซาน และอินชอน ด้วยประชากรมากถึง 2.5 ล้านคน
เป็นหมู่บ้านเก่าของพวกขุนนางและชนชั้นสูงตระกูลฉ่อยแห่งยุคสมัยราชวงศ์โชซอน ประกอบด้วยบ้านรือนประมาณ 20 หลังในสไตล์สมัยโชซอน ส่วนใหญ่ไม่ใช่บ้านแบบดั้งเดิมแต่สร้างขึ้นใหม่ขึ้นตามกาลเวลา ส่วนที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านมีรูปปั้นตั๊กแตนยืนรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
เป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองแทกู ดำเนินการค้ามาตั้งแต่สมัยโซชอน ปัจจุบันเป็นตลาดใหญ่ที่รวมสินค้าอุปโภค บริโภคไว้หลากหลายประเภทเปรียบเสมือนย่านจตุจักร ประตูน้ำ ภายในยังมีถนนสตรีทฟู้ด ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารพื้นเมืองยอดนิยมของเกาหลี ตั้งกระจายอยู่ตามสองฝั่งถนน
เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแดกู โดยให้บริการเมืองแดกูและพื้นที่โดยรอบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1937 ส่วนใหญ่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศมากกว่าของต่างประเทศ ที่นี่ยังเป็นฐานทัพอากาศของกองบินขับไล่ที่ 11 แห่งกองทัพอากาศเกาหลีใต้ ที่ประจำการเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงอย่าง F-15K ด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย