ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 4 กิโลเมตร ในตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งหนึ่ง ในจำนวนทั้งหมด 6 แห่ง ที่ดำเนินงานโดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการบินของภาคเหนืออีกด้วย โดยมีเที่ยวบินเข้าออกหนาแน่นเป็นลำดับสี่ รองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นเจดีย์แห่งวัดฉือเอิน สร้างเสร็จในปี 652 โดยถังเกาจง (หลี่จื้อ) ฮ่องเต้องค์ที่สาม แห่งราชวงศ์ถัง และ ได้นิมนต์พระภิกษุสวนจั้ง หรือรู้จักในนามพระถังซัมจั๋ง พระเถระที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยถัง ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จาริกไปถึงอินเดียและได้นำพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา กลับมาเผยแผ่ ในแผ่นดินจีนให้มาอยู่ที่วัดฉือเอินแห่งนี้ พระถังซัมจั๋งได้ใช้เวลาออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในวัดฉือเอินเพื่อใช้ในการเก็บรักษาพระไตรปิฎก ที่ท่านได้นำมาจากอินเดียและแปลเป็นภาษาจีนนับจำนวนกว่าพันเล่ม
ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง” บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น
เป็นรถไฟความเร็วสูงที่บริหารงานโดยการรถไฟจีน มีความเร็วสูงสุดประมาณ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง การออกแบบระบบรถไฟความเร็วสูงทั้งหมดได้ถูกออกแบบมาจากต่างประเทศ ใช้สำหรับการเดินทางที่รวดเร็วระหว่างเมือง ปัจจุบันจีนมีแบบรถไฟความเร็วสูงต่างๆ มากมาย ใช้งานไปตามแต่ละสภาพภูมิประเทศ และเศรษฐกิจ
เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นในสมัยสงครามระหว่างรัฐ (จ้านกั๋วก่อนคริสต์กาล 403-221 ปี) อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ของพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของลั่วหยางนี้มีมาก่อนหน้านั้นยาวนานมานับพัน ๆ ปี เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การดำรงชีพและการปกครองของบรรพบุรุษชาวจีนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยพื้นที่อันเป็นเมืองลั่วหยางในปัจจุบันก็ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย
เป็นเมืองระดับเขตภายใต้เขตอำนาจของเจิ้งโจวซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอหนานประเทศจีน เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาซ่งซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศจีน ในสมัยโบราณมันเป็นที่รู้จักในนามย่างเชิ่ง (Yangcheng) ทั้งยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่โด่งดังที่สุดของจีน ในฐานะเป็นที่ตั้งของสถาบันศาสนาและวัดต่างๆ ที่โดดเด่นมากมาย
เป็นวัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศจีนและในต่างประเทศ ได้รับการกล่าวขานในเรื่องของกระบวนท่าวิทยายุทธ เพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ปรากฏชื่อในนิยายกำลังภายในหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งล้วนแต่กล่าวถึงวิชาเพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินอยู่เสมอ
ป่าเจดีย์ สุสานเจ้าอาวาสและหลวงจีน พระพุทธรูปภายในวิหารเจ้าอาวาส สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ภายในวัดเส้าหลินมีเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหน้าของอารามต้าฉงเป่าเทียน ประกอบด้วยอารามและวิหารหลวงหลายหลัง ซึ่งล้วนแต่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่น อารามตั๊กม้อ, อารามไป๋อี, อารามพระพุทธ, อารามเจ้าอาวาส โดยเฉพาะอารามเจ้าอาวาส เคยใช้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับต้อนรับวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียซึ่งเป็นผู้มีความสนใจส่วนตัวและความเชี่ยวชาญในศิลปะป้องกันตัวหลายแขนง [24] ที่เยือนวัดเส้าหลิน
ถ้ำหินหลงเหมิน มีอายุราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยเว่ยเหนือ ค.ศ. 494 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปีจนถึงยุคราชวงค์ถังและซ่ง มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน 2,100 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆ อีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลักมากกว่า 100,000 องค์
วัดถ้ำเฟิ่งเซียนซื่อ ชมพระประธานสูง 17 เมตรสลักอยู่กลางแจ้ง แวดล้อมด้วยพระโพธิสัตว์และทวยเทพ กล่าวกันว่าใช้พระพักตร์ของพระนางบูเซ็คเทียนเป็นแบบในการแกะสลัก
จัตุรัสหอกลอง เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน บนถนนซีต้าเจีย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่สองครั้ง โดยรักษารูปแบบเดิมไว้ โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ 3 ชั้น ฐานอิฐสูง 77 เมตร กว้าง 52.6 เมตร ยาว 38 เมตร ประตูด้านเหนือและใต้สูงและกว้าง 6 เมตร ชั้นล่างก่อเป็นผนังอิฐและประตูทางเข้าชั้นที่สองและชั้นที่สามเป็นเครื่องใม้หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ สร้างขึ้นในปีที่ 17 แห่งการครองราชย์ของพระจักรพรรดิหงหวู่ (จูหยวนจาง) ซึ่งเป็นพระจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์หมิง
โชว์ราชวงศ์ถัง เป็นโชว์อันตระการตาที่เป็นการแสดงนาฏศิลป์ชุดต่างๆ ในสมัยราชวงศ์ถัง ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการและศิลปะที่รุ่งเรืองอย่างสูงสุด
เป็นกำแพงเมืองโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีแนวกำแพงจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาว 2.8 กิโลเมตร ทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 4.2 กิโลเมตร ความยาวโดยรอบ 14 กิโลเมตร สูง 12 เมตร มีประตูเข้าออกทั้งสี่ด้านรวม 13 ประตู
เป็นการขุดพบที่ตั้งของพระราชวังโบราณสมัยราชวงศ์ถัง “ต้าหมิงกง” ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 634 โดยพระบรมราชโองการของหลี่ซื่อหมิง ฮ่องเต้เรืองอำนาจแห่งราชวงศ์ถังในยุคที่นครฉางอาน (ซีอาน) รุ่งเรืองสุดๆ เป็นศูนย์กลางอารยะธรรมและศูนย์กลางการค้าขายระหว่างประเทศ เชื่อกันว่า 17 จาก 21 ฮ่องเต้ ในสมัยราชวงศ์ถังได้ใช้พระราชวังต้าหมิงกงเป็นที่ประทับต่อเนื่องมานานนับ 200 ปี ว่ากันว่าต้าหมิงกงในอดีตจึงมีขนาดใหญ่กว่าพระราชวังแวร์ซายย์ 3 เท่า มีขนาดใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามกู้กงในนครปักกิ่ง 4.5 เท่า และมีขนาดใหญ่กว่าพระราชวังเครมลินถึง 12 เท่า นี่คือความยิ่งใหญ่ของพระราชวังโบราณในสมัยกว่าพันปีของราชวงศ์ถัง
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 4 กิโลเมตร ในตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งหนึ่ง ในจำนวนทั้งหมด 6 แห่ง ที่ดำเนินงานโดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการบินของภาคเหนืออีกด้วย โดยมีเที่ยวบินเข้าออกหนาแน่นเป็นลำดับสี่ รองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต