เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลอินเตอร์นาชีโอนาเล มีลาโน หรืออินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1925 และเปิดใช้การเมื่อ 19 กันยายน ค.ศ. 1926 หรือเมื่อ พ.ศ. 2469 ขนาดสนามหญ้ามีขนาด 105m x 68m ความจุทั้งหมด 82,955 ที่นั่ง ที่ตั้ง Via Piccolomini 5, 20151 Milan, Italy
ที่นี่มีสิ่งสะสมทางโบราณคดีและเงินเหรียญโบราณที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีบ้านส่วนตัวอีกสองหลัง (Palazzo Bagatti Valsecchi และ Poldi Pezzoli) ซึ่งอาจจะไม่ใช่ปราสาทขนาดใหญ่ แต่บ้านเหล่านี้ได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์โดยจัดแสดงสิ่งทอ เครื่องประดับตกแต่ง และภาพวาด ซึ่งมีคุณค่าแก่การเยี่ยมชม
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าแบบอาคารกระจกเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย มมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองจากที่นี่ก็ได้
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเวโรนา แคว้นเวเนโตในประเทศอิตาลี เมืองนี้เป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยเหตุที่มีความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรม ที่เห็นได้งานนิทรรศการประจำปีหลายงาน โรงละคร และอุปรากรในโรงละครกลางแจ้งที่สร้างโดยโรมัน
เป็นจัตุรัสประจำเมืองเวโรน่า ที่เคยเป็นสถานที่ชุมนุมทางเศรษฐกิจ การเมือง การสังคมต่างๆ ในสมัยโรมัน รวมทั้งเป็นตลาดขายสมุนไพร รอบจัตุรัสเป็นที่ตั้งของอาคารโบราณต่างๆ ทั้งศาลากลาโบราณ ภาพแกะสลักปูนปั้น รูปปั้นเทพเจ้ากรีก และอื่นๆ ในช่วงกลางคืนจัตุรัสแห่งนี้จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กันในยามราตรี
เป็นสนามทรงรีที่สร้างด้วยหินอ่อนสีชมพูกว่า 1,900 ปีมาแล้ว มีสภาพสมบูรณ์ไม่แพ้โคลอสเซียมในโรมแต่มีขนาดเล็กกว่า ด้วยเหตุนี้ เวโรน่า ถึงได้รับฉายาว่า Little Rome และในฤดูร้อนที่นี่ก็จะถูกใช้เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ต โอเปร่ากลางแจ้ง
เป็นบ้านที่เป็นสถานที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราว "โรมิโอกับจูเลียต" ที่ซึ่งสาวๆ ที่ผิดหวังกับความรักจะมาเขียนจดหมาย เขียนข้อความบอกและอธิKฐานให้ประสบความสำเร็จกับความรัก
เวนิส หรือ เวเนเซีย (Venice Mestre) ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก
เกาะซานมาร์โค เป็นหนึ่งในเกาหลักที่เป็นศูนย์กลางของนครเวนิส ซานมาร์โคยังรวมถึงเกาะซานจิออร์จิโอแมกกีโอเร บนเกาะนี้ถือเป็นแลนมาร์คหลักของเวนิสที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจตั้อยู่อย่างที่
เป็นอนุสาวรีย์สำริดอันโดดเด่นที่ตั้งอยู่ในเกาะเวนิส ถูกสร้างขึ้นในปี 1887 เพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์องค์แรกของกษัตริย์อิตาลี
เป็นสะพานหินปูนสีขาวในเวนิสที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอจ ซึ่งวังแห่งนี้มีคุกขังนักโทษอันน่าสะพรึงขวัญอยู่ชั้นใต้ดินโดยถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองนี้เพื่อเข้าสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานก่อนที่จะหมดอิสรภาพ
เป็นพระราชวังสไตล์เวนิสโกธิค เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่เกิดเพลิงไหม้และได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมในระหว่างศตวรรษที่ 14 และ 15 ภายในพระราชวังงดงามด้วยการประดับทองคำและภาพจิตรกรรมมากมายโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นโบสถ์ประจำเมืองเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โค ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และความมั่งคั่งของเวนิส
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม ของประเทศอิตาลีนั่นเอง เมืองฟลอเรนซ์ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก
บริเวณจัตุรัสเดลลาซินญอเรียนี้มีรูปแกะสลักแสดงอยู่มากมาย อาทิ รูปแกะสลักเพอร์ซุส วีรบุรุษกรีกโบราณตอนบั่นคอเมดูซ่า รูปแกะสลักเฮอร์คิวลีส และรูปสลัก เป็นต้น
มหาวิหารนี้ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู มหาวิหารฟลอเรนซ์แห่งนี้ยังเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป ปัจจุบันมหาวิหารอยู่ภายใต้การดูแลของสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งฟลอเรนซ์
เป็นวัดบาซิลิกาชั้นรองของนิกายโรมันคาทอลิกตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลี ที่ตั้งแต่เดิมเป็นที่ลุ่มนอกกำแพงเมืองฟลอเรนซ์ ภายในวัดเป็นที่เก็บศพคนสำคัญๆ ของอิตาลีเช่นไมเคิล แอนเจโล, กาลิเลโอ กาลิเลอี, และคนอื่นจึงเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “Pantheon of the Italian Glories” (จุดยอดของความเลิศของอิตาลี)
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซา อยู่ในแคว้นทัสกานี ฝั่งแม่น้ำอาร์โน ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซียนา ประเทศอิตาลี ในยุคกลางเซียนาเป็นเมืองคู่แข่งของฟลอเรนซ์ที่มีชื่อเสียงทางศิลปะและสถาปัตยกรรม
เป็นจตุรัสที่สวยงามเป็นอันดับ 3 ของอิตาลี ซึ่งใช้เป็นสนามแข่งกีฬาแข่งม้าประจำปี ชมความยิ่งใหญ่และงดงามของจตุรัสแห่งนี้ ที่มีลักษณะคล้ายปากปล่องภูเขาไฟอันรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญโบราณ เช่น ปาลาซโซ-พับปิโค, ปาลาซโซ-ซานเซโดนี
เมืองเนเปิลส์ หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
เมืองปอมเปอีตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเนเปิลส์ ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ถือกำเนิดขึ้นโดยชาวออสกัน ในช่วง 700 ปีก่อนคริสตกาล และถูกผนวกรวมกับอาณาจักรโรมันในช่วง 80 ปีก่อนคริสตกาล เมืองท่าแห่งนี้คือทำเลทองที่เอื้อต่อการทำการค้าและการเกษตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้สามารถปลูกต้นองุ่นและมะกอกได้ดี
เป็นพิพิธภัณฑ์ของเมืองปอมเปย์ซึ่งเป็นโบราณสำคัญที่เป็นสถานที่เป็นเหตุเกิดโศกนาฐกรรมที่ภูเขาไฟระเบิดและพรากชีวิตของคนทั้งเมือง โดยที่ร่างของผู้เสียชีวิตนั้นยังคงเป็นรูปมนุษย์อยู่
เมืองตากอากาศเล็กๆ ริมอ่าวเนเปิ้ล ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตามความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับหาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย ณ ด้านบนของตัวเมืองออกสู่อ่าวเนเปิ้ล ที่ฝั่งตรงข้าม เราสามารถมองเป็นภูเขาไฟวิซูเวียสยืนเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขาม ภูเขาไฟลูกเดียวกันนี้ที่เมื่อเกือบ 1700 ปีที่ผ่านมาถล่มเมืองปอมเปอีเสียเรียบเป็นหน้ากลอง
เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก กษัตริย์เชื้อพระวงศ์จากทั่วแคว้นแดนยุโรป มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ดาราเซเลปบริตี้คนดังจากทุกวงการ ณ ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นที่มีไว้ให้ประกวดประชันความร่ำรวยของพวกเขาเหล่านั้น ร้านสินค้าแบรนด์เนมที่มีอยู่ในโลกนี้ เราสามารถพบเห็นได้ทุกยี่ห้อ ถึงแม้ว่าราคาที่แปะป้ายไว้นั้นจะสามารถทำให้คนอย่างเราๆ ได้แต่อ้าปากค้างก็ตาม
อยู่ตอนเหนือของเกาะคาปรี ปากถ้ำมีรูปร่างคล้ายรูกุญแจ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใต้น้ำ ส่วนที่อยู่เหนือน้ำจะสูงกว่าผิวน้ำเพียง 4 ฟุตเท่านั้น ซึ่งเรือเล็กจะเข้าไปในถ้ำได้เฉพาะเวลาน้ำทะเลลด แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านน้ำเข้ามาจากปากถ้ำ จะทำให้น้ำในถ้ำมีสีฟ้าแปลกตาจึงได้ชื่อว่า”บลู กรอตโต้”
เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก กษัตริย์เชื้อพระวงศ์จากทั่วแคว้นแดนยุโรป มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ดาราเซเลปบริตี้คนดังจากทุกวงการ ณ ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นที่มีไว้ให้ประกวดประชันความร่ำรวยของพวกเขาเหล่านั้น ร้านสินค้าแบรนด์เนมที่มีอยู่ในโลกนี้ เราสามารถพบเห็นได้ทุกยี่ห้อ ถึงแม้ว่าราคาที่แปะป้ายไว้นั้นจะสามารถทำให้คนอย่างเราๆ ได้แต่อ้าปากค้างก็ตาม
เมืองเนเปิลส์ หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
เป็นสนามประลองรูปไข่ในกรุงโรมที่เกิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 2000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโรม สร้างจากหินปูนแบบ travertine หินภูเขาไฟ และคอนกรีตที่ก่อด้วยอิฐ สามารถเก็บผู้ชมได้ประมาณ 50,000 ถึง 80,000 คนในหลาย ๆ จุดของประวัติศาสตร์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันโคลีเซียมเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดมาแวะถ่ายรูปหากได้มาเยือนกรุงโรม นอกจากนี้้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7สิ่มหัศจรรย์ของโลกด้วย
ประตูชัยแห่งนี้มีขนาดใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดในกรุงโรม ตั้งอยู่ระหว่างสนามโคลีเซียม และ Palatine Hill ประตูชัยนี้สร้างขึ้นด้วยคอนกรีตสลับกับหินอ่อน เพื่อฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ที่มีชัยชนะเหนือ Maxentius ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ในปี 312 ตัวประตูชัยมีความสูง 21 เมตร กว้าง 25.9 เมตร และลึก 7.4 เมตร
เป็นจตุรัสที่มีถนนลาดผ่านมากมายหลายเส้น และยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตของเวนิซ ซึ่งมีอนุสรณ์สถานและรูปปั้น ที่มีความสำคัญต่ออิตาลีตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของจตุรัส
อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเวเนเซีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจัตุรัสสำคัญกลางกรุงโรม กษัตริย์วิกเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของอิตาลี ผู้รวมรวมชาติอิตาลีเข้าไว้ด้วยกัน ตัวอนุสาวรีย์จะตั้งอยู่บนเนินเขาแคปปิทอลไลน์ สร้างขึ้นในปี 1895-1911
เป็นจุดนัดพบทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกห้อมล้อมด้วยซากอาคารต่างๆ คาดว่าเมื่อก่อนถูกใช้เป็นตลาดหรือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าเมื่อสมัยยุคโรมัน
วาติกันเป็นพื้นที่เอกราชของรัฐ Holy See ที่ตั้งอยู่ภายในกรุงโรมของประเทศอิตาลี วาติกันก่อตั้งขึ้นด้วยสนธิสัญญา Lateran ในปี 1929 เป็นดินแดนที่แตกต่างกันภายใต้ "การครอบครองอย่างเต็มรูปแบบเอกสิทธิ์เฉพาะและอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาล" ของ Holy See ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐอธิปไตยที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามตระการตา เต็มไปด้วยผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมมากมาย ด้านในมีประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่มีคุณค่าสำคัญทางศาสนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
เป็นน้ำพุที่น้ำนั้นมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ที่ชื่อ Nicola Salvi ที่นี่เป็นน้ำพุรูปลักษณ์แปลกที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
เป็นย่านบันไดที่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม ตั้งอยู่บนพื้นเขาระหว่าง Piazza di Spagna ที่ฐานและ Piazza Trinità dei Monti บันได 135 ขั้น ที่นี่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Francesco de Sanctis และ Alessandro Specchi ในปี 1723 ที่นี่เป็นจุดเดินเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยไม่แพ้จุดอื่นในกรุงโรม
รู้จักกันในอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตรนอกจากนี้ ยังเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารคับคั่งมากเป็นอันดับที่ 27 ของโลกใน พ.ศ. 2552 และเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินอัลอิตาเลีย ชื่อของท่าอากาศยานชื่อของเลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาชาวอิตาลี ผู้ออกแบบต้นแบบของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องจักรมีปีกบินได้เป็นคนแรกของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย