เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้อยู่ในเขตโดโมเดโดโว โดยอยู่ห่างไป 42 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโคว์ ที่นี่เป็นหนึ่งในสี่ท่าอากาศยานหลักของกรุงมอสโคว์ รวมถึงเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย
เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ซึ่งในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป[ต้องการอ้างอิง] และเมื่อสมัยครั้งที่สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย กรุงมอสโกก็ยังเป็นเมืองหลวงของสหภาพโซเวียตอีกด้วย
ที่นี่อยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นสถานที่เก็บสมบัติลํ้าค่ากว่า 4,000 ชิ้น เช่น อาวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่อง เงิน ทอง เพชรพลอยเครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่าซึ่งหาดูได้ยากยิ่ง
ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย
เป็นโบสถ์คริสต์ออร์โธดอกของรัสเซียที่สร้างอุทิศให้กับ Dormition of the Theotokos ที่นี่ถือได้ว่าเป็นโบสถ์แม่ของ Muscovite Russia ตามคำสั่งของมอสโกแกรนด์ดุ๊กที่ชื่อว่าพระเจ้าอีวานที่ 3 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีชื่อ Aristotele Fioravanti นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ฝังศพของมอสโคว์เมโทรโพลิแทนและปรมาจารย์ของโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียหลายๆ คน
เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสแดง ที่นี่เคยเป็นวิหารส่วนพระองค์ที่ใช้สำหรับงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของพระเจ้าอีวานที่ 3 มหาราชหรือของกษัตริย์ของรัสเซีย
เป็นคริสตจักร ออร์โธดอก ตั้งอยู่ในวิหารสแควร์ของเครมลิน กรุงมอสโก ในรัสเซีย ถูกสร้างขึ้นระหว่างคศ. 1505 และ 1508 ภายใต้การดูแล ของ สถาปนิกชาวอิตาเลียน
เป็นหอระฆังที่สร้างขึ้นจากหิน สูงที่สุดในหมู่ตึก Kremlin สร้างขึ้นมาเพื่อโบสถ์ในระแวกนั้นไม่มีหอระฆังเป็นของตัวเอง โดยท่านดยูคอีวานจ้างสถาปนิคชาวอิตาลี่
ระฆังพระเจ้าซาร์ได้ชื่อว่าเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักมากกว่า 200 ตัน ซาร์อเลกซิสทรงรับสั่งให้สร้างแล้วแขวนบนหอคอย แต่เมื่อปี1701 ไฟไหม้หอคอย ระฆังจึงตกแตกเป็นเสี่ยงๆ ดังนั้นกษัตรีซารีนา อานนา ทรงรับสั่งให้นำเศษซากระฆังที่แตกให้มาหล่อใหม่เป็นครั้งที่สองในปี 1737 เกิดความผิดพลาดขณะหล่อ เทน้ำเย็นบนระฆังร้อน ทำให้เกิดเศษระฆังแตกหนักขนาด 11 ตัน
เป็นปืนใหญ่ที่หล่อขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 โดยพระเจ้าอีวานได้ให้ Andrey Shchokov ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างหล่อที่เก่งที่สุดในยุคนั้น ทำการออกแบบอาวุธชนิดนี้ โดยให้ออกแบบปืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังและสวนอนุรักษ์ขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของกรุงมอสโคว์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1776 ตามคำสั่งของพระนางแคทเธอรีนมหาราช ซึ่งในเวลานั้นมันถูกเรียกว่า Bogorodskoye พระราชวังนี้ถูกสร้างในสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิค รอบๆ วังเป็นสวนร่มรื่นที่มีศาลาพักผ่อนตั้งกระจายอยู่ตามพื้นที่
เป็นสถานที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำของผู้คนในหน้าประวัติอันน่าเศร้าและกล้าหาญในประวัติศาสตร์ของมาตุภูมิ เป็นพิพิธภัณฑ์ของเรารวบรวมทุกยุคของรัสเซียที่ผ่านมา ที่นี่เป็นที่เก็บความทรงจำของสงครามที่ยิ่งใหญ่และเลวร้ายที่ส่งผลกระทบต่อทุกครอบครัวในประเทศรัสเซีย
ละครสัตว์รัสเซียมีชื่อเสียงมากตั้งแต่สมัยก่อน ละครสัตว์ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากมาย ด้วยเพราะความมหัศจรรย์ของนักแสดงและ ความสามารถของผู้กำกับ ทำให้คณะละครสัตว์ของรัสเซียได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ
เป็นเมืองและศูนย์กลางการปกครองของเขต Sergiyevo-Posadsky ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงมอสโคว์ ซากอร์สเป็นเมืองที่โดดเด่นในเรื่องอุตสาหกรรม และเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 4 อาคารทางด้านศาสนาที่สำคัญที่สุดในรัสเซีย
เป็นโบสถ์แรกของเมืองซาร์กอร์ส สถาปัตยกรรมแบบยอดโดมหัวหอมสีทอง ภายในตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกและภาพไอคอน 5 ชั้น และมีโลงศพเงินของนักบุญเซอร์เจียสอยู่ภายใน
วิหารนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน ปัจจุบันวิหารนี้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย
สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละสถานีจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานีรถไฟใต้ดินได้กลายเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดเพราะมีโครงสร้างที่แข็งแรง ในปัจจุบันรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโคว์มีถึง 11 สาย 156 สถานี ด้วยความยาวทั้งหมด 260 ก.ม.
เป็นถนนเส้นเก่าแก่เส้นหนึ่งของกรุงมอสโคว์ ถนนนี้ปรากฏมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในประวัติเมืองมอสโคว์ บันทึกว่าเคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งหนึ่งเมื่อปี 1493 ในสมัยศตวรรษที่ 16 ในรัชสมัยกษัตริย์อีวานจอมโหด ถนนสายนี้เป็นที่อยู่อาศัยของตำรวจลับ ถนนอารบัตเป็นที่ย่านพักของเกิดมีชนชั้นใหม่ นั่นก็คือ ฃสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ กระทั่งปี 1985 ถนนอารบัตได้กลายเป็นถนนคนเดิน และเป็นถนนที่ใครๆ ก็รู้จักและคึกคักที่สุด เพราะเป็นแหล่งชุมนุมศิลปิน จิตรกร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร และอื่นๆ
เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซีย ในตลาดมีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด ในราคาที่ถูกที่สุด อาทิเช่น นาฬิการัสเซีย, ตุ๊กตาแม่ลูกดกหรือมาโตรชกา (Matryoshka), ผ้าคลุมไหล่, อำพัน, ของที่ระลึกต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย
มีอีกชื่อเรียกว่าเนินเขานกกระจอก เป็นบริเวณที่มองเห็นทัศนียภาพของนครมอสโคว์ที่อยู่เบื้องล่างได้โดยทั้งหมด ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ และเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในมอสโคว์เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษในการชมบรรยากาศของมอสโคว์
มหาวิทยาลัยมอสโคว์ เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 1755 โดยมิคาอิลซอฟ นักวิชาการรัสเซียในช่วงเวลานั้น มหาวิทยาลัยที่ได้รับการตั้งชื่อตามเขาในปี 1940 และเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในมอสโคว์ที่คู่รักนิยมมาถ่ายภาพแต่งงาน รวมถึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษในการชมบรรยากาศของมอสโคว์จุดเดียวกับที่เลนินเคยชม
เป็นจัตุรัสกลางเมืองของของกรุงมอสโก จัตุรัสแดงอาจถือได้ว่าเป็นจัตุรัสกลางกรุงมอสโกและทั้งประเทศรัสเซียเพราะถนนสายสำคัญทุกสายจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ ชื่อจัตุรัสแดงมักเข้าใจผิดว่า คำว่า แดง ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม
ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก มีสินค้าอย่างหลากหลายชนิด ห้างสรรพสินค้ากุม หรืออีกสถานที่หนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะชองตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้ บริการมากมายสำหรับให้ผู้ที่เดินทางหรือผู้ที่ชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน
เป็นอนุสรณ์ที่เก็บศพสร้างด้วยหินอ่อนสีแดง ภายในมีศพเลนินนอนอยู่บนแท่นหินมีโลงแก้วครอบอยู่ ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสหน้าวังเครมลิน นับว่าเลนินเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียต พรรคคอมมิวนิสต์ได้เปลี่ยนชื่อเมืองสำคัญคือนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มาเป็นเมืองเลนินกราดเมื่อ ค.ศ.1924 เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา แต่ได้กลับมาใช้ชื่อเดิมอีกหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
อารามชี โนโวดิชีนี คอนแวนน์เก่าแก่อายุกว่า 300 ปี ที่เคยเป็นที่คุมขังพระนางโซเฟีย และบรรดา เชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิง ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์โรมานอฟ ปัจจุบันใช้เป็นสุสานสําหรับสุภาพสตรีคนสําคัญๆ ระดับประเทศไม่ว่าจะเป็นอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 นางไรซ่า กอบาชอพ ฯลฯ
ซับซานเพิ่งเริ่มออกให้บริการครั้งแรกเมื่อปลายปี 2009 เริ่มจากเส้นทางระหว่างมอสโกกับเซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร รถไฟซับซานในแต่ละขบวนจะมี 10 ตู้ แต่ละขบวนสามารถให้บริการผู้โดยสารได้สูงสุด 604 คน
ที่นี่ถูกสร้างโดยหวังจะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซาย์ ในฝรั่งเศสเพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย และรวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่างๆ มากมาย สิ่งก่อสร้างและ สถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคและนีโอคลาสิค ที่ใช้ประดับประดาห้องหับต่างๆ ด้านหน้าของพระราชวังหันออกสู่อ่าวฟินแลนด์ มีน้ำพุ บ่อน้ำ แจกัน อ่าง และรูปปั้นสวยงามประดับตกแต่งอยู่ส่วนต้อนรับ
ที่นี่ถูกสร้างโดยหวังจะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซาย์ ในฝรั่งเศสเพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย และรวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่างๆ มากมาย สิ่งก่อสร้างและ สถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคและนีโอคลาสิค ที่ใช้ประดับประดาห้องหับต่างๆ ด้านหน้าของพระราชวังหันออกสู่อ่าวฟินแลนด์ มีน้ำพุ บ่อน้ำ แจกัน อ่าง และรูปปั้นสวยงามประดับตกแต่งอยู่ส่วนต้อนรับ
โบสถ์นี้ถูกสร้างเพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ประกาศเลิกทาส แต่ถูกปลงพระชนม์ โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้ กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้ ปี พ.ศ. 2534 จึงเปลี่ยนชื่อกลับเป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ตั้งอยู่บนเกาะคอทลิน” (Kotlin Island) เป็นเกาะรัสเซียซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวฟินแลนด์ ตั้งห่าง 32 กิโลเมตร ทางตะวันตกของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยมีพระเจ้าปีเตอร์มหาราชทรงมีพระประสงค์ให้สร้างป้อมปราการเพื่อปกป้องเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจากกองทัพเรือสวีเดน
ป้อมนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เป็นสิ่งแรกที่สร้างในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยมีความสูง 122.5 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมือง จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้ฝังหลุมพระศพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และพระบรมศานุวงศ์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ และส่วนหนึ่งยังใช้เป็นโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ของรัฐบาลอีกด้วย
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในปี 1712 โดยมีโดมทองเป็นเอกลักษณ์ ในอดีตมหาวิวิหารเซนต์ไอแซคเป็นเพียงโบสถ์ไม้ธรรมดา ซึ่งต่อมาได้รับการปรับปรุงเป็นโบสถ์หิน และถูกสร้างใหม่อย่างงดงามในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 40 ปี ปัจจุบันที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารทรงโดมที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่งดงามที่สุดในโลก
เรือรัสเซียนาวี ได้ชื่อว่าเป็นเรือรบที่เก่าแก่ที่สุดในรัสเซีย โดยเป็นเรือลาดตระเวนที่รับใช้ชาวรัสเซียมายาวนาน ตั้งแต่ครั้งสงครามรัสเซียกับญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1904 -1905 เคยร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 รวมถึงใช้ยิงปืนเป็นสัญญาณการเข้ายึดพระราชวังฤดูหนาวที่เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในการปฏิวัติสังคมนิยมที่นาโดยเลนิน เมื่อปี ค.ศ.1917 และยังเป็นเรือที่โดยสารซาร์นิโคลัสที่ 2 พร้อมราชนิกุลคนอื่นๆ มายังพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ 6 ในปี ค.ศ.1911 ปัจจุบันเรือออโรร่าได้ปลดประจาการกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ
เมือง Tsarskoye Selo หรือเมืองพุชกิ้น (Pushkin) เป็นเมืองที่ประทับในฤดูร้อนของราชวงศ์ที่สำคัญเมืองหนึ่ง และมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1917 พระเจ้านิโคลัสที่ 2 พร้อมสมาชิกในราชวงศ์ถูกควบคุมตัวจากกลุ่มของคณะปฏิวัติ ซึ่งกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าสุดท้ายในเมืองพุชกิ้นและราชวงศ์โรมานอฟที่ยาวนานกว่า 200 ปี โดยในปัจจุบัน พุชกิ้นเป็นเมืองย่อยที่อยู่ในเขตการปกครองของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
โบสถ์แห่งการประสูติของเซนต์จอห์นเดอะแบปทิสต์ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิกของรัสเซีย Yury Felten ในปี ค.ศ.1780 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของกองทัพเรือรัสเซียเหนือกองทัพเรือรัสเซียเหนือกองทัพตุรกี ที่อ่าวเชสมีในทะเลอีเจียน
เดิมเป็นพระราชวังที่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่ทรงสร้างไว้สำหรับพระนางแคทเธอรีนที่ 1 เพื่อใช้พักผ่อนในฤดูร้อน และได้ตกแต่งใหม่หลายครั้ง การตกแต่งพระราชวังใหม่ในแต่ละครั้งจึงเปรียบเสมือนการแสดงอำนาจและบารมีของผู้เป็นเจ้าของในแต่ละยุค ซึ่งจากการตกแต่งที่ผสมผสานหลายครั้งจึงเกิดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “รัสเซี่ยนบาโรค” ที่หรูหรา อ่อนช้อย และงดงามดังเช่นในปัจจุบัน
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปี1708 ตั้งอยู่ใจกลางเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บนถนนเนฟสกี้ ถนนเส้นหลักของตัวเมืองเลย แต่เดิมนั้นที่นี่เป็นเพียงโบสถ์เล็กๆ ต่อมาในสมัยการปกครองของพระเจ้าปอลด์ที่ 1 ในปี 1800 ได้ทำการสร้างวิหารใหม่ ให้เป็นวิหารที่ใหญ่และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม เป็นสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี ต่อมาได้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสขึ้น จึงได้นำรูปปั้นของผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพเรือ คือ Mikhail Kutuzov และ Barclay de Tolly มาจัดแสดงเป็นอนุสรณ์ไว้ด้านหน้า
เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งมีเสาหินอเล็กซานเดอร์ Alexander Column ตั้งอยู่ เพื่อเป็นการระลึกถึงชัยชนะในสงครามเหนือนโปเลียนแห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1812 เป็นเสาแห่งชัยชนะที่สูงที่สุดในโลก ทำจากหินแกรนิตแท่งเดียว
เป็นย่านถนนเก่าแก่ที่เกิดขึ้นในปี 1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยมีความยาว 4.5 กิโลเมตร เริ่มต้นที่หน้าพระราชวังฤดูหนาวและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟมอสโก จุดเด่นอยู่ที่สถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นทั้งย่านการค้า ย่านที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของพระราชวัง โรงละคร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้อยู่ในเขตโดโมเดโดโว โดยอยู่ห่างไป 42 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโคว์ ที่นี่เป็นหนึ่งในสี่ท่าอากาศยานหลักของกรุงมอสโคว์ รวมถึงเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย