เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งมีกฏระเบียบการเดินทางเป็นของตัวเอง ที่ไม่เหมือนกันจีนแผ่นดินใหญ่ หรือฮ่องกง
เป็นเกาะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสจนปีคศ 1999 ในตอนแรกเป็นเมืองที่จีนปล่อยให้โปรตุเกสเช่าเพื่อเป็นเมืองท่า ปัจจุบันมาเก๊าเป็นหนึ่งในเขตปกครองพิเศษของจีน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย
ที่นี่มีการผสมผสานของวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกส เป็นสถานที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ย่าน Patio de Chon Sau เป็นย่านศิลปะแบบใหม่เป็นแบบซอยร้านขายของน่ารักๆ และร้านอาหารแบบอาตๆชิคๆมากมาย ไปเดินเล่นดูงานศิลป์ก็เพลินๆ
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1622 ในศตวรรษที่ 19 เตั้งอยู่บนยอดเขา Barra Hill อย่างสง่างาม บริเวณรอบๆประดับไปด้วยน้ำพุและไม้ประดับอย่างสวยงาม บนยอดเขา Barra Hill มองลงมาจะเห็น อ่าวบาร์ร่า เก๊าทาวเวอร์ และฝั่งเมืองจูไห่ได้อย่างชัดเจน เป็นจุดที่นิยมมากเป็นจุดนึงที่สามารถมองเห็นวิวเมืองมาเก๊าได้เกือบทั้งหมด
ทุกท่านนั่งรถ Open top Bus 2 ชั้น open air เพื่อชมเมืองบนถนนนาธาน จิมซาจุ่ย เลดี้มาเก๊ต ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศโดยรอบๆเมืองและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ OPEN TOP BUS ใช้เวลา (ประมาณ 30-45 นาที )
หมู่บ้านวัฒนธรรมอาม่า จะมีองค์เจ้าแม่อาม่าสีขาว สร้างจากหินอ่อนแกะสลัก จะตั้งอยู่บนยอดเขา Coloane Hill Park และสามารถเห็นวิวสวย ๆ ของมาเก๊าจากบนนั้นได้อีกด้วย การเดินทางไปวัดนี้ พอเข้าเขตโคโลอานต้องรีบเล็งให้ดี เพราะจะต้องลงป้ายก่อนถึงทางเข้าวัด โดยดูจากประตูวัดใหญ่โดดเด่นอยู่ริมถนนเลย
มีขนาด 7,000 ตารางเมตร เป็นส่วนต่อขยายจากวัดอาม่า คนไทยเรียกว่าเจ้าแม่ทับทิม ที่มีรายละเอียดต่างๆที่งดงามมาก สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ประกอบด้วยตั้งแต่ เสาหินแกะสลัก ซุ้มประตูหิน รูปปั้นหินอ่อนแกะสลักต่าง ไปจนถึงบันไดที่มีการออกแบบทั้งหมด ข้างในยังมีเนินเขาโคโลอาน(Coloane Hill)ที่มีรูปปั้นแกะสลักของเจ้าแม่ทับทิมหรือ A-Ma ที่สูง 21 เมตร สูงที่สุดในมาเก๊า และเนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสุดทำให้เป็นจุดชมวิวรอบๆที่สวยงามมากด้วย
เป็นหนึ่งในวัดใหญ่ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ให้ท่านได้ขอพร เรื่องการเงิน เพื่อให้เงินทองไหลมาเทมา สำหรับคนปีชงขอพรไม่ให้เกิดการขัดสนเรื่องเงินทอง เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ภาย ในวัดสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และมนต์ขลังอันเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมของ ชาวจีนที่ดูมีเสน่ห์ในแบบฉบับของชาวจีน ซึ่งภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่ชาวมาเก๊าเคารพนับถืออยู่หลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 3 ยุค ที่มีประดิษฐานอยู่ด้วยกัน 3 องค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาทางพระพุทธศาสนาที่ว่า มี อดีต ปัจจุบัน และอนาคตมีพระยูไล ที่คนมาเก๊าให้ความเคารพนับถือมากราบไหว้ขอพรกันเยอะ และองค์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษเห็นจะเป็น องค์เจ้าแม่กวนอิม ที่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดเจ้าสาวของจีนที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างงดงาม
เป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ของเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งหันหลังให้ทะเล และยืนอยู่บนโดมดอกบัวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมทะเล สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ มีความสูง 18 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1.8 ตัน ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัว ภายในฐานรูปปั้นเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมา นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ประชาชนเข้ามานั่งสมาธิ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ซึ่งชาวมาเก๊านิยมเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และวัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นเนืองมาจากเป็นเจ้าแม่กวนอิมที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า ในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน
เป็นซากปรักหักพังของศาสนสถานคาทอลิกสมัยศตวรรษที่ 17 เคยเป็นโบสถ์และโรงเรียนเซนต์ปอล ปัจจุบันซากปรักหักพังเป็นหนึ่งในจุดสังเกตที่รู้จักกันดีที่สุดของมาเก๊า ในปี 2005 ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการว่าเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งมาเก๊าซึ่งเป็นมรดกโลก
เป็นคาสิโนขนาดใหญ่ที่ออกแบบสไตล์อิตาลี ภายในมีอาหาร ที่พักและกิจกรรมให้ทำมากมาย และตัวบริการต่างๆ นั้นนับว่าอยู่ในระดับ High End สุดๆ เลยทีเดียว
เป็นท่าอากาศยานหลักของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งมีกฏระเบียบการเดินทางเป็นของตัวเอง ที่ไม่เหมือนกันจีนแผ่นดินใหญ่ หรือฮ่องกง
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย