ทัวร์ครับพาช็อป
ไม่พลาดทุกแหล่งช้อปปิ้งในย่านดัง พร้อมทั้งรายการของฝากน่าซื้อ ให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ
ไปญี่ปุ่นซื้อเครื่องสำอางอะไรดี รวม 10 เครื่องสำอางญี่ปุ่นยอดนิยม
พาช้อป
ญี่ปุ่น
ไปญี่ปุ่นซื้อเครื่องสำอางอะไรดี รวม 10 เครื่องสำอางญี่ปุ่นยอดนิยม
ไปเที่ยวญี่ปุ่น อีกหนึ่งของที่ต้องซื้อกลับคือ เครื่องสำอางญี่ปุ่น เพราะซื้อที่ญี่ปุ่นราคาถูกกว่าเยอะเหมือนกัน เครื่องสำอางญี่ปุ่นก็มีให้เลือกเยอะมาก หลายๆ คนก็งง ไปญี่ปุ่นซื้อเครื่องสำอางอะไรดี? ยี่ห้อไหนบ้างละที่บ้านเรานิยม ทัวร์ครับ (Tourkrub)รวมมาให้แล้ว กับ 10 เครื่องสำอางญี่ปุ่นยอดนิยมที่ญี่ปุ่นและที่ไทยก็ฮอตมากเหมือนกัน จองทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) ไปญี่ปุ่นซื้อเครื่องสำอางอะไรดี 1. เครื่องสำอางญี่ปุ่น - Canmake ขอบคุณรูปภาพจาก>> www.facebook.com/canmakethailand/ สำหรับแบรนด์นี้เราน่าจะคุ้นหูคุ้นตากันอยู่ เพราะแบรนด์นี้เขามีขายตามร้าน drugstore ในไทยด้วยแหละ แต่ที่น่าไปหิ้วกลับมาก็เพราะว่าราคาที่ไทยและที่ญี่ปุ่น มันช่างแตกต่างกันเสียเหลือเกิน บอกเลยว่าราคาเครื่องสำอางญี่ปุ่นถูกมากๆ ละที่สำคัญแพ็คเกจของ CANMAKE น่ารักน่าสอยไปซะทุกอย่างด้วย ทั้งบลัชออน ลิปกลอส ส่วนไอเท็มเด็ดที่แนะนำของแบรนด์นี้ แอบบอกให้เลยว่าเป็นเจ้าตัว Lasting Multi Eyebase WP นั่นเอง เป็นเบสใช้ทาก่อนลงอายแชร์โดว์ ทำให้อายแชร์โดว์และไอไลเนอร์ติดทนนานขึ้นกว่าเดิม ถ้าถามถึงราคาละก็ บอกเลยเจ้าตัวนี้ ราคาแค่เพียง 500 เยน !! เห็นอย่างนี้แล้ว พลาดไม่ได้เลยล่ะ ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่นCanmeke กับ Lazada >> คลิกที่นี่ 2. เครื่องสำอางญี่ปุ่น - DAISO ขอบคุณรูปภาพจาก>> www.facebook.com/daisothailand/ บอกได้เลยว่าใครไม่รู้จัก เรียกว่าเชยกันเลยทีเดียว เพราะในญี่ปุ่น มีร้านไดโซะมากกว่า 2,570 ร้าน เป็นศูนย์รวมสินค้าที่น่าสนใจอีกร้านนึงเลยก็ว่าได้ อีกทั้งเครื่องสำอางจากไดโซะก็น่าเล่นไม่แพ้แบรนด์อื่น ราคาจะตกอยู่ที่ 100 เยนทั้งร้าน (มีภาษีอีก 8 เยน) ซึ่งคิดเป็นเงินไทย จำนวนเท่าไหร่ก็เช็คเรทตามค่าเงินในช่วงเวลานั้นเลยเพราะถ้าซื้อที่ไทยก็แพงกว่าเกือบเท่าตัว ไอเท็มเด็ดของไดโซะจะเป็นตัวอายแชร์โดว์ Elfa pearl eye shadow มีหลากหลายสีให้เลือก นอกจากนั้นก็ยังมีพวกสติ๊กเกอร์ทำตาสองชั้นให้ลองเล่นมากมาย รวมถึงน้ำยาล้างพัฟและล้างแปรงก็เลิศสุดๆ ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น Daiso กับ Lazada >> คลิกที่นี่ 3. เครื่องสำอางญี่ปุ่น - KATE ขอบคุณรูปภาพจาก>>www.facebook.com/katenomorerulesthailand เครื่องสำอางแบรนด์ KATE ค่อนข้างจะโดดเด่นมากในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับคิ้ว ขนตา อย่างที่เป็นตัวเขียนคิ้วคือ เขียนแล้วทนจริง ทนจัง ติดน๊านนาน เหงื่อนไหลก็ไม่ลบ เอาอยู่ สาวๆ แล้วที่เป็นดินสอก็เขียนง่าย ทำให้ทรงคิ้วสวยได้ตามแบบที่สาวๆ ต้องการ หรือแม้แต่มาสคาร่าเองก็มีแบบขนตางอนยาวปัดแล้วชนะเลิศมาก ในญี่ปุ่นสาวๆ สามารถหาได้ตามร้าน Drug Store ทั่วไปเลย ใครหาไม่เจอเอาไม้มาตีแอดมินได้เลยจ้า ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น KATEกับ Lazada >> คลิกที่นี่ 4. เครื่องสำอางญี่ปุ่น -MAJOLICA MAJORCA แบรนด์นี้ MAJOLICA MAJORCA ก็เป็นอีกแบรนด์ที่เด่นในเรื่องของมาสคาร่าปัดเด้ง ขนตางอนไปถึงพรุ่งนี้อย่าง Lash Gorgeous Wing และ Lash King Mascara แต่ค่อนข้างล้างออกยากนิดหน่อย ส่วนอายไลน์เนอร์ Perfect Automatic Liner ของนางก็ดังนะ อายแชโดว์ก็น่ารัก ส่วนใหญ่สามารถตามหาแบรนด์นี้ได้ที่ร้าน Drug Store ทั่วไปในญี่ปุ่นจ้า ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น MAJOLICA MAJORCAกับ Lazada >> คลิกที่นี่ 5. เครื่องสำอางญี่ปุ่น -SHISEIDOINTEGRATE ขอบคุณรูปภาพจาก>> www.facebook.com/integrate.pr/ ไปญี่ปุ่นต้อง Strong ทั้งจิตใจและการเงินนะคะ เห็นอะไรก็น่ารักไปหมด อยากได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แบรนด์นี้ก็เช่นกัน ที่สำคัญยังไม่มีขายในไทยด้วย อีกทั้งแบรนด์ INTEGRATE ยังอยู่ในเครือ SHISEIDO อีกด้วย ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำของ INTEGRATE คือ อายแชโดว์สำหรับคิ้ว Eyebrow & Nose Shadow และลิปกลอส Girls Kiss Jelly ที่เคยได้รางวัลจากเว็บ cosme.net มาแล้ว เป็นไงละ อย่ารอช้า รีบไปซื้อเลย ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น SHISEIDOINTEGRATE กับ Lazada >> คลิกที่นี่ 6. เครื่องสำอางญี่ปุ่น -Hada Labo ขอบคุณรูปภาพจาก>>www.facebook.com/WeLoveHadaLabo/ หลุดจากเครื่องสำอางพวกเมคอัพมาสกินแคร์บำรุงผิวกันบ้างเนอะ Hada Labo ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในไทยพอสมควรในเรื่องของการบำรุงผิวให้นุ่มดึ๋งๆ เวลามีใครไปญี่ปุ่น ก็จะโดนให้หิ้วเจ้า Lotion น้ำตบของแบรนด์นี้มาฝากกันเยอะทีเดียว ตอนนี้ก็มีแบบเป็นถุงเติมประหยัดเงินได้หลายตังค์อยู่ และยังมีแบบเป็นเจลกระปุก All in One Gel อีกด้วย แต่ที่ปลื้มกันสุดๆ คือเรื่องราคาที่แสนจะแตกต่าง เพราะที่ไทยกับที่ญี่ปุ่นห่างกันอยู่ประมาณ 2 เท่า !! ใครไปเยือนญี่ปุ่นก็สามารถหาได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปในญี่ปุ่นได้เลยเนอะ ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น Hada Labo กับ Lazada >> คลิกที่นี่ 7. เครื่องสำอางญี่ปุ่น -Kotoshina ขอบคุณรูปภาพจาก>>www.facebook.com/kotoshinathailand/ เครื่องสำอางแบรนด์นี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นกันซักเท่าไหร่ แต่ขอบอกเลยว่า จุดเด่นของแบรนด์นี้นั่นคือในเรื่องของ Organic Product ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว ซึ่งใช้สารสกัดที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่เป็นอันตราย หรือก่อให้เกิดการแพ้แต่อย่างใด (เค้าบอกว่าเค้าคัดสรรมาอย่างดีเลยนะ) Kotoshina หาซื้อได้ง๊ายง่าย หาตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปในญี่ปุ่นได้อีกเช่นเคย ผิวใครแพ้ง่าย ก็อย่าลืมลองใช้แบรนด์นี้กันดูนะ 8. เครื่องสำอางญี่ปุ่น -MAQuillAGE ขอบคุณรูปภาพจาก>> https://twitter.com/maquillage_jp เป็นอีกแบรนด์ที่มีแพ็กเกจน่ารัก สำหรับMAQuillAGEฟรุ้งฟริ้งมาก มีความเป็นเจ้าหญิงเบาๆ อีกทั้งเน้นในเรื่องการแต่งหน้าเบาบางใสๆ ที่่โด่งดังเลยก็มีลิปกลอส และบลัชออน ราคาจะแพงกว่าแบรนด์ MAJOLICA MAJORCA ที่อยู่ในเครือเดียวกันหน่อย หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไปในญี่ปุ่นเหมือนกันจ้า อ้อ แต่เรื่องราคาที่ญี่ปุ่นก็ถูกว่าที่ไทยตามท้องเรื่องเช่นกัน ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น MAQuillAGE กับ Lazada >> คลิกที่นี่ 9. เครื่องสำอางญี่ปุ่น -Cle de Peau Beaute ขอบคุณรูปภาพจาก >>www.facebook.com/CledePeauBeauteThailand/ อีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ หากพูดถึงเครื่องสำอางญี่ปุ่นเคล เดอ โป โบเต้ (Cle de Peau Beaute) เป็นแบรนด์พรีเมี่ยมที่ญี่ปุ่นเลยนะ เรื่องของราคาก็อาจจะสูงหน่อย แต่เรื่องของคุณภาพก็คือดีงามเลย สาวญี่ปุ่นก็รัก สาวไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ซื้อกลับกันมาเยอะ เพราะที่ไทยราคาก็แรงแพงเอาเรื่องอยู่ โปรดักส์ก็มีให้เลือกทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์บำรุงผิว สำหรับเครื่องสำอางตัวดังๆ ของเขาจะเป็นพวกรองพื้น คอนซีลเลอร์ อะไรพวกนี้จะปกปิดดี แล้วเกลี่ยง่ายใช้แล้วดูเป็นธรรมชาติ อีกอย่างที่เริดก็คือ ลิปกลอส เติมความชุ่มชื่นให้กับริมฝีปากและเพิ่มสีสันให้คาวาอิแบบสาวญี่ปุ่นกันไปเลย ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น MAQuillAGE กับ Lazada >> คลิกที่นี่ 10.เครื่องสำอางญี่ปุ่น -CEZANNE ขอบคุณรูปภาพจาก >> www.facebook.com/cezannefan/ ปิดท้ายเครื่องสำอางญี่ปุ่นด้วย CEZANNE เป็นอีกแบรนด์ที่สาวไทยรักในตัวนางมาก เพราะนอกจากพรีเมี่ยมแล้ว ราคายังไม่แพงด้วยนะ คือถ้าไปญี่ปุ่นแล้วซื้อกลับมาราคาถูกเลย แป้งพัฟของเขาคือ ดีมาก เนื้อละเอียดเข้ากับสีผิวของสาวๆ เอเชียได้ดีเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ที่ไทยก็มีแล้วตามช้อปต่างๆ หรือร้านสโตร์บิวตี้ชื่อดัง ซึ่งราคาก็ไม่หนีกันมาก แต่ยังไงไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อยากให้ซื้อกลับมาเพราะใช้ดี และราคาก็ถูกกว่านิดหน่อยนะๆ ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่น CEZANNE กับ Lazada >> คลิกที่นี่ ใครไปเที่ยวญี่ปุ่น ครั้งหน้าก็อย่าลืม ซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่นกลับมาใช้เอง หรือซื้อฝากก็ได้ รับรองว่า คนได้ประทับใจแน่นอน จองทัวร์ ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับ ทัวร์ครับ >>https://tourkrub.co/japan-tour
บุกร้าน 100 เยนในตำนาน แหล่งของฝากญี่ปุ่นราคาประหยัด!
พาช้อป
ญี่ปุ่น
บุกร้าน 100 เยนในตำนาน แหล่งของฝากญี่ปุ่นราคาประหยัด!
เที่ยวญี่ปุ่น...เรื่องที่พลาดไม่ได้ก็คงต้องเป็นเรื่องช้อปปิ้ง เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่ของน่าซื้อเต็มไปหมด อดใจไม่ไหวสักที ช้อปไป ช้อปมาเงินเยนในกระเป๋าที่ตอนนี้เริ่มจะร้อนแล้ว เพราะเหลือน้อยลงทุกที เชื่อว่าขาช้อปตัวจริงต้องเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ หรือเคยมีประสบการณ์กันบ้างแล้วอย่างแน่นอนค่ะ วันนี้ทัวร์ครับจะพาทุกคนไปรู้จักกับร้าน 100 เยนของญี่ปุ่น ร้านที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ แถมยังมุ้งมิ้งสุดๆ และที่สำคัญคือทุกชิ้นราคา 100 เยน หรือ 30 บาทเท่านั้น!! ราคาน่าคบขนาดนี้ จะพลาดได้ไง ตามไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะมีร้านไหนบ้าง ? จองทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 1. ของฝากญี่ปุ่น - ไดโซะ (Daiso) ร้านที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเปิดสาขาอย่างแพร่หลายในเมืองไทยเช่นกัน แต่ในเมืองไทยจะราคา 60 บาททุกอย่าง แต่ในญี่ปุ่นนั้นราคาเพียง 100 เยน หรือ 30 บาทเท่านั้นค่ะ โดยร้านไดโซะญี่ปุ่นก็ยังคงเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย หลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องครัว ขนม เครื่องสำอางค์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องเขียน และสินค้าบางอย่างที่ยังไม่นำเข้ามายังสาขาในประเทศไทย ซึ่งบางทีจะมีสินค้าลิขสิทธิ์อย่าง Mickey Mouse, Hello Kitty, ไข่ขี้เกียจ Gudetama โดยจะเปลี่ยนประเภทสินค้าไปตามช่วงเวลาค่ะ ไม่ว่าใครที่ได้เดินเข้าร้านไดโซะญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ เหมือนโดนดูดอยู่ในเขาวงกต กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เต็มตระกร้าแล้วค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่เหมาะกับการหาของฝากญี่ปุ่นราคาประหยัด แถมยังน่ารักอีกด้วย ซื้อของ Daiso Thailand กับ ลาซาด้า 2. ของฝากญี่ปุ่น - แคน ดู (Can Do) แคน ดู อีกหนึ่งร้าน 100 เยนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีสาขาอยู่ตามห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟหลักๆของญี่ปุ่น โดยร้านนี้จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวอยู่ตรงกลางระหว่างคำว่า Can และ Do มองหาได้ไม่ยากเลย ซึ่งตามคอนเซ็ปของร้านคือทุกอย่างราคา 100 เยน และมีสินค้าที่หลากหลายให้เลือกซื้อ แต่จะเป็นสไตล์วัยรุ่นกว่าไดโซะนิดหน่อย ซึ่งร้านแคนดูนี้ก็มีสินค้าที่มีลายการ์ตูนลิขสิทธิ์เช่นกันค่ะ อย่าง Hello Kitty, Thomas And Friends หรือคุณโทมัสยอดหัวรถจักร แต่ละอย่างน่าซื้อทั้งนั้นเลยค่ะ เป็นอีกร้านที่บอกเลยว่าต้องช้อปเพลินแน่นอน แถมไม่ต้องคิดราคาให้ปวดหัว เพราะทุกอย่างราคา 100 เยนเท่านั้นเองค่ะ 3. ของฝากญี่ปุ่น - ซีเรีย (Seria) อีกร้าน 100 เยนสุดเด็ดของญี่ปุ่น ที่มีสาขาอยู่ตามแหล่งช้อปหลักของเมือง หาได้ไม่ยากเลยค่ะ ภายในร้านตกแต่งง่ายๆ ดูสบายตา ส่วนสินค้าก็มีให้เลือกมากมาย ไม่แพ้ 2 ร้านด้านบน แต่จะเป็นสไตล์มินิมอล เหมาะกับคนที่ชอบของแบบชิคๆ แต่ก็มีสินค้าลายการ์ตูนลิขสิทธิ์จำหน่ายเช่นกัน เป็นอีกร้าน 100 เยนที่เต็มไปด้วของน่ารักๆ เต็มไปหมด ทั้งของใช้ ขนมกรุบกรอบ เครื่องเขียน เป็นอีกหนึ่งร้านที่คุณจะได้ของฝากจากญี่ปุ่น ราคาไม่แพง แถมยังถูกใจทั้งคนให้และคนรับแน่นอน 4. ของฝากจากญี่ปุ่น - ทรีคอยส์ (3 Coins) มาถึงร้านสุดท้ายที่แม้จะไม่ใช่ร้าน 100 เยน แต่เป็นร้านราคา 300 เยน หรือประมาณ 90 บาท แต่ทัวร์ครับคอนเฟิร์มว่าคุณจะได้เจอแต่สินค้าญี่ปุ่นน่ารักๆ จนอดใจไม่ไหวต้องซื้อกลับมาเป็นของฝากจากญี่ปุ่นกันสักหน่อย ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่มีสินค้าหลากหลายทั้งของตกแต่งบ้าน ของใช้ส่วนตัวและ เสื้อผ้า ว่ากันว่า ร้าน ทรีคอยส์ เป็นร้านยอดนิยมของเหล่าสาวๆชาวญี่ปุ่น เพราะมีสินค้าที่น่ารักถูกใจ แถมราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย หากใครไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็อย่าลืมมองป้ายร้านทรีคอยส์นะคะ รับรองว่าคุณจะได้ของฝากจากญี่ปุ่นสุดน่ารัก ในราคาไม่แพงแน่นอน ทัวร์ครับหวังว่าจะถูกใจขาช้อปทั้งหลายนะคะ ใครที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมจดร้าน 100 เยน ทั้ง 3 ร้านนี้ไว้เลยนะคะ จะได้ช้อปของฝากจากญีปุ่่นได้อย่างสบายใจ แถมราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย แต่ถ้าหากเป็นทัวร์ญี่ปุ่น ราคาสบายกระเป๋าล่ะก็ ต้องทัวร์ครับเลย >>>>ทัวร์ญี่ปุ่นคุณภาพ ราคาสบายกระเป๋า<<<<
5 สุดยอด!  ครีมกันแดดญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ต้องไปเหมา!
พาช้อป
ญี่ปุ่น
5 สุดยอด! ครีมกันแดดญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ต้องไปเหมา!
ครีม กันแดด (Sunscreen) ไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ของสาวและหนุ่มๆ ก็อยู่เมืองร้อนก็ต้องดูแลตัวเองกันหน่อย โดยเฉพาะแดดเมืองไทยร้อนขนาดนี้หากขาดครีมกันแดดไป ผิวหน้าคงจะแย่ ไหม้เกรียมเอาง่ายๆดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น คนไทยเราจึงไม่ควรพลาดหอบเครื่องสำอาง และครีมกันแดดญี่ปุ่นกลับมาด้วยทุกครั้ง ก็ครีมกันแดดของญี่ปุ่นเขาดี มีหลายแบรนด์ที่ทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทยเองการันตีว่า ใช้แล้วเริด ดีกับผิวคนไทย อีกทั้งยังคุ้มค่าในราคาและคุณภาพ และเพื่อไม่ให้เสียเวลาสำหรับมือใหม่ที่อยากใช้ครีมกันแดดทัวร์ครับจึงรวมมาให้ 5 สุดยอด ครีมกันแดดญี่ปุ่น ที่สาวๆ และหนุ่มชาวญี่ปุ่น การันตีว่าเด็ดจริงๆ จะมีอันไหนน่าโดนบ้าง ไปดูกันเลย จองทัวร์ญี่ปุ่นกับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 5 ครีม กันแดดญี่ปุ่น 1. ANESSA Perfect UV Sunscreen Aqua Booster เริ่มต้นกับครีมกันแดดญี่ปุ่นในตำนานอย่าง ANESSA ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปี ก็ไม่มีอำนาจมาลบล้างได้ เป็นอีกหนึ่งของฝาก และของฝากซื้อกันมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ความดีงามของครีมกันแดดตัวนี้คงไม่ต้องพูดถึงค่ะ เพราะคือที่สุดของครีมกันแดดญี่ปุ่นแล้ว การันตีด้วย รางวัล Cosme ญี่ปุ่นให้เป็นที่สุดของครีมกันแดดมายาวนานถึง 3 ปีซ้อน ส่วนในเรื่องราคาอาจจะแรงกว่ายี่ห้ออื่นนิดหน่อย แต่มั่นใจได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นANESSA กับ ลาซาด้า 2. Biore UV Aqua Rich Waterly Essence Sunscreen มาต่อกันที่อีกหนึ่งครีมกันแดดญี่ปุ่นยี่ห้อ Biore สูตร Aqua Rich ที่นอกจากจะเป็นครีมกันแดดแล้ว ยังมีส่วนผสมของสารบำรุงให้ความชุ่มชื้น พร้อมเนื้อสัมผัสที่แสนจะบางเบา ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ทา แต่ปกป้องแดดระดับเทพ จะทาทับเมคอัพก็ไม่ทิ้งคราบ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งครีมกันแดดที่ใครๆก็ยกนิ้วให้เลยค่ะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นBiore Aqua Richกับ ลาซาด้า 3. ALLIE Extra UV Gel หากใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น อาจจะเคยเห็นยี่ห้อ ALLIE ผ่านตากันมาบ้างตามร้าน Drug Store ในญี่ปุ่น เพราะว่าแบรนด์ ALLIE เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางค์ยอดนิยมของสาวชาวญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ลูกในเครือของบริษัท Kanebo จึงมั่นใจเรื่องคุณภาพได้เลยค่ะ ซึ่งหลายเสียงการันตีว่า ครีมกันแดดรุ่นนี้นั้น โดดเด่นในเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อ เพราะเป็นเนื้อเจล ที่มีส่วนผสมของน้ำ จึงให้ความชุ่มชื่นตลอดวัน พร้อมป้องกันแสงแดดได้ยาวนาน เนื้อบางเบาสุดๆ จึงเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยบ้านเรามากๆเลยค่ะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นALLIE กับ ลาซาด้า 4. Decorte Sun Shelter Multi-Protection เห็นชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นตากันเท่าไหร่ แต่ขอบอกว่าครีมกันแดดญี่ปุนตัวนี้ เพิ่งจะได้รับรางวัล Cosme The Best Sunscreen อันดับที่ 2 ประจำปี 2017 มาเลยนะคะ ดังนั้นต้องมีดีแน่ๆ ไม่งั้นสาวญี่ปุ่นคงไม่เทใจโหวตจนได้รับรางวัลแน่ๆ ความโดดเด่นของครีมกันแดด Decorte รุ่นนี้ก็คือความบางเบาของเนื้อครีม ที่มีเป็นเนื้อครีมแบบน้ำนม (Sunscreen Milk) แต่บางเบา ทนน้ำและเหงื่อสุด พร้อมสารบำรุงผิวที่จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี จะทาก่อนแต่งหน้า หรือจะทาทับระหว่างวัน ก็ไม่ต้องกลัวเป็นคราบ ดีขนาดนี้ จะไม่โดนได้ยังไงกันคะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นDecorte กับ ลาซาด้า 5. NIVEA Sun creme care UV cream ปิดท้ายด้วยครีมกันแดดที่ไม่ใช่แบรนด์ญี่ปุ่น แต่มีรางวัล Cosme The Best Sunscreen รางวัลที่ 3 ประจำปี 2017 การันตี ซึ่งสาเหตุที่สาวๆญี่ปุ่นโหวตให้กับครีมดันแดด NIVEA รุ่นนี้ก็เพราะว่าถึงแม้จะเป็นเนื้อครีม แต่กลับบางเบาเหมือนไม่ได้ทาครีมกันแดด พร้อมด้วยสารบำรุงผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดี ควบคุมความมันได้ดี ไม่ต้องกลัวหน้ามันระหว่างวันค่ะ ป้องกันแดดได้ดีสุดๆ ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมสาวๆญี่ปุ่นถึงหลงรักครีมกันแดด NIVEA รุ่นนี้ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นNIVEA Sun กับ ลาซาด้า อย่าลืมจดลิส 5 ครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ทัวร์ครับรวบรวมมาให้ในวันนี้ให้แม่นเลยหากใครกลัวลืม ก็กดแชร์ไว้กันกันลืมกันได้พอถึงร้านก็โชว์รูปให้พนักงานดูเลย รับรองว่าได้ครีมกันแดดญี่ปุ่นกลับมาใช้ หน้าใส ไม่กลัวแดดเมืองไทยแน่นอนค่ะ ส่วนครั้งหน้าทัวร์ครับจะมีไอเทมเด็ดๆอะไรมาแนะนำอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดี จองทัวร์ญี่ปุ่นกับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)
5 แบรนด์กระเป๋าญี่ปุ่นที่ต้องซื้อกลับ เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น
พาช้อป
ญี่ปุ่น
5 แบรนด์กระเป๋าญี่ปุ่นที่ต้องซื้อกลับ เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น
ไปเที่ยวญี่ปุ่นของฝากมีเยอะ แต่อีกสิ่งที่สาวๆ ชอบมากคือกระเป๋า ซึ่งกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นมีหลายแบรนด์แต่ครั้งนี้ทัวร์ครับเลือกแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคย มาพร้อมด้วยคุณภาพของสินค้าบวกกับราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อในเมืองไทย สาวๆ ที่ชอบกระเป๋า ห้ามพลาดเด็ดขาด ไปแล้วซื้อกลับมาเลย คุ้มมากจริงๆ ว่าแล้วก็ลองมาดูกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์ไหนที่ไม่ควรพลาดโดยเฉพาะสาวๆ เมื่อเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ซื้อทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 5 แบรนด์กระเป๋าญี่ปุ่น ขอบคุณรูปภาพจากhttps://www.yoshidakaban.com/index.html 1. กระเป๋าญี่ปุ่น - Yoshida & Co.,Ltd. Porter เริ่มต้นกันด้วยกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี เป็นการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ในอดีตแบรนด์นี้ได้รับความนิยมสูงมากญี่ปุ่นกระทั่งค่อยๆ เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทุกใบที่ผลิตออกมาจะผ่านกรรมวิธีอันแสนพิถีพิถัน รับรองว่าใครได้ใช้งานต่างก็ต้องชื่นชอบ ซื้อกระเป๋าYoshida PORTERคลิกตรงนี้ 2. กระเป๋าญี่ปุ่น - Issey Miyake Bao Bao ขอบคุณรูปภาพจากhttps://www.isseymiyake.com/ กระเป๋าญี่ปุ่นที่คนไทยค่อนข้างคุ้นเคยกันดี ซึ่งถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังของพวกเขาจนโด่งดังไปทั่วโลก เป็นการผสมผสานแฟชั่นระหว่างซีกโลกตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เป็นกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นที่เรามักเห็นบ่อยๆ ในเมืองไทยและแน่นอนการมายังประเทศแห่งนี้ต้องไม่ควรพลาดซื้อ ซื้อกระเป๋าIssey Miyake Bao Baoคลิกตรงนี้ 3. กระเป๋าญี่ปุ่น - Legato Largo ขอบคุณรูปภาพจากhttps://anello.co.th/ แม้จะพึ่งถือกำเนิดมาเมื่อราว 10 กว่าปีที่แล้วทว่ากระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Legato Largo ได้ออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ เน้นดีไซน์แสนเรียบง่ายภายใต้วัตถุประสงค์อยากให้สาวๆ ใช้กระเป๋าใบโปรดได้บ่อยโดยไม่ต้องซื้อหลายใบ ดังนั้นการออกแบบของกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์นี้จะเน้นการใช้งานแบบครบวงจร เป็นกระเป๋าที่เหมาะกับสาวไทยอย่างยิ่ง ซื้อกระเป๋าLegato Largoคลิกตรงนี้ 4.กระเป๋าญี่ปุ่น - Anello ขอบคุณรูปภาพจากhttps://anello.co.th/ เป็นกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นสุดฮิตมากๆ ในยุคนี้ เอาง่ายๆ ว่าจะเดินที่เมืองไทยหรือในเมืองนอกก็ต้องเห็นคนสะพายใบนี้กันบ้างไม่มากก็น้อย เป็นกระเป๋าญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2005 เน้นการออกแบบเพื่อใช้งานและความสวยงามไปพร้อมๆ กัน มีทั้งรุ่นยอดนิยมและรุ่นเน้นความน่ารักสดใส ไม่แปลกใจที่เวลาเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นจะต้องแวะเอากลับมาซักใบ 2 ใบ ซื้อกระเป๋าAnelloคลิกตรงนี้ 5.กระเป๋าญี่ปุ่น - Rootote Ceoroo สำหรับกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์สุดท้ายที่จะแนะนำนี้อาจดูแตกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ หน่อยนั่นเพราะพวกเขาเน้นขายกระเป่าผ้าลายน่ารัก มองเผินๆ อาจดูธรรมดาแต่ไอเดียการออกแบบมาจากกระเป๋าหน้าท้องจิงโจ้จนคนเรียกกันเล่นๆ ว่า กระเป๋ารู เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันที่สำคัญช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย สาวๆ หลายคนคงรีบนับเงินในกระเป๋าแน่ๆ ว่าปีนี้ถ้าได้มีโอกาสบินไปเที่ยวญี่ปุ่นอยากจะเลือกซื้อกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์ไหนดี แต่ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็การันตีด้วยงานคุณภาพ คุ้มค่าราคาเงินที่จ่ายไปแน่นอน ซื้อกระเป๋าRootote Ceorooคลิกตรงนี้ ไปเที่ยวญี่ปุ่น คราวหน้า อย่าลืมเด็ดขาด ตามไปช้อปปิ้งกระเป๋า แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นซื้อกลับเป็นของฝาก หรือใช้เองก็ได้ ราคาไม่แรง ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที่ต้องซื้อกลับมาด้วย รับรองว่าซื้อที่ญี่ปุ่นราคาคุ้มค่าจริงๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นจองทัวร์ญี่ปุ่น ช้อปมันส์ เที่ยวสนุกกับ ทัวร์ครับ คลิกเลย >>https://tourkrub.co/japan-tour<<
 ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี?? 7 ไอเท็มเด็ด ไม่ควรพลาดเมื่อมาช้อปที่ญี่ปุ่น
พาช้อป
ญี่ปุ่น
ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี?? 7 ไอเท็มเด็ด ไม่ควรพลาดเมื่อมาช้อปที่ญี่ปุ่น
ไปเที่ยวญี่ปุ่นซื้ออะไรดี?ไปเที่ยวญี่ปุ่น ทีไรไม่อยากให้พลาด ของช้อปของฝากมีให้เลือกซื้อกันแบบจุกๆ กันไปเลย ของฝากมีเยอะมาก แต่ไม่รู้ว่าไปญี่ปุ่นจะซื้ออะไรดี ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องคิดมาก ทัวร์ครับ คัดมาให้แล้วแบบเน้นๆ กับ 7 ไอเท็มเด็ด ซื้อใช้เองก็ได้ ซื้อฝากคนที่บ้านก็ดี มีอะไรบ้างก็เตรียมจดลิสต์กันได้เลย จองทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 1. ครีมกันแดด Biore ครีมกันแดดญี่ปุ่น อาจเป็น 1 ตัวเลือกของคำถามที่ว่าไปญี่ปุ่นควรซื้ออะไรดีที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่มายาวนานสุดๆ เห็นมาตั้งแต่เด็กๆเลย ที่มีหลายสูตรมากที่เพื่อนๆ มักรีวิวกันว่าใช้ดี เยอะแยะมากมายไปหมด มีผลิตภัณฑ์ครบทุกอย่าง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่สำหรับบางตัวก็มีแอลกอฮอล์ค่อนข้างเยอะ แต่ความสามารถในการป้องกันแดดได้ดีมาก แถมบางตัวกลิ่นค่อนข้างแรงเลยทีเดียว เป็น 1 ไอเท็มที่ซื้อที่ญี่ปุ่นถูกกว่าที่ไทยแน่นอน ซื้อครีมกันแดด Biore กับ ลาซาด้า 2. วิตามินซี DHC วิตามินซี เป็นที่นิยมกับคนไทยเป็นอย่างมาก ใครคิดไม่ออกว่าไปญี่ปุ่นควรซื้ออะไร นี่เลย ใครไปต้องได้กลับมาทุกรอบ ได้ผลเรื่องหวัดเป็นอย่างดี ไฮไลท์ของ DHC ก็คือวิตามินซี นั่นเอง หลายเสียงบอกว่ารับประทานแล้วผิวสดใส กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินอีกหลายชนิด มากมาย ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ซึ่งเมื่อซื้อที่ญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่า ราคาถูกกว่าที่ไทยมาก ยิ่งถ้าจัดโปรโมชั่น จะยิ่งถูกมาก ประมาณ 100 บาท แต่ต้องดูดีดี เพราะแต่ละร้านก็ราคาไม่เท่ากัน ซื้อ วิตามินซี DHC กับ ลาซาด้า 3. รองเท้า ที่ญี่ปุ่นมีร้านขายรองเท้ามากมาย ตามแหล่งช้อปปิ้งหรือท้องถนน มีลักษณะเป็นช็อปแบรนด์เนม หรือ ร้านที่เอารองเท้ามาวางๆลดราคาไว้มากมาย หลายคนเคยไปครั้งแรกอาจจะงงว่า ทำไมมันถูกอย่างนี้ ของปลอมรึเปล่า? แต่เราก็สามารถเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง เพราะญี่ปุ่นนั้นไม่นิยมของ copy มากนัก (อาจจะมี แต่น้อยมากๆต้องเช็คกันดีดี) แต่จะนิยมเป็นของมือสองแทน ซึ่งของมือสองของญี่ปุ่นนั้นก็เป็นของที่คุณภาพดีมากๆเลยทีเดียว หากใครเดินทางไปกับทัวร์ก็สามารถสอบถามแหล่งขายของมือถือกับไกด์ท้องถิ่นได้เลย ฉะนั้น ส่วนใหญ่ของแท้แน่นอน แต่ทำไมถึงถูกนั้น อาจเพราะไม่ได้ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็น จีน หรือเวียดนาม ซึ่งจากหลายแหล่งเสียงที่ไปเที่ยวมาหลายครั้ง ได้ให้ความเห็นตรงกันมากที่สุด คือไปเที่ยวญี่ปุ่น ต้องนี่เลย ร้องเท้า Onisuka Tiger Nippon made เพราะที่ไทยราคาค่อนข้างแพงมาก แถมมีแบบให้เลือกเยอะ และค่อนข้างรุ่นใหม่กว่า ส่วนสำหรับร้านช้อป ก็แนะนำ ABC Mart ร้านนี้สินค้าค่อนข้างหลากหลายรูปแบบ ลดราคาค่อนข้างเยอะ แต่ไซต์อาจจะมีจำกัด หรือ ร้าน Step ที่มีรองเท้าจากหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังหรือแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่นเอง ทั้งสองร้านนี้จะไม่ต่างกันมาก ในเรื่องราคา ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของรูปแบบและขนาดมากกว่า อาจจะต้องเดินย้ายร้านไปมา กันสนุกเลยทีเดียว ถ้าไปญี่ปุ่นไม่รู้จะซื้ออะไรดี รองเท้านี่แหละ เด็ด มีเงินเท่าไหร่เปย์ให้หมดไปเลยจ้ะ 4. ฮาดะ ลาโบะ จัดเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่ มีชื่อเสียงที่สุด ของประเทศญี่ปุ่น ที่ค่อนข้างโด่งดังมากในประเทศไทย มีออกมาหลากหลายสูตรมากมาย ที่ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว ซึ่งที่ดังๆ มามีอยู่ 5 สี ตอนนี้คือสีขาว น้ำเงิน แดง เขียว และทอง ซึ่งแต่ละสีก็จะมีหน้าที่บำรุงสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีขาว ให้ความชุ่มชื้นกับผิวโดยตรง ,สีน้ำเงิน ช่วยในเรื่องเพิ่มความขาวให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำดูสดใสมากขึ้น ,สีแดง ช่วยในเรื่องลดริ้วรอย ยกกระชับผิวให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น ช่วยลดริ้วรอยจากสิว และริ้วรอยจากวัยได้ดี, สีเขียว ช่วยลดสิว ควบคุมความมัน ให้ผิวนุ่ม เนียนใส และสีทอง ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งเสียที่ขาดการดูแล ผิวที่อ่อนล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือถูกทำร้ายจากสภาพอากาศ ซื้อ ฮาดะ ลาโบะ กับ ลาซาด้า 5. ขนมญี่ปุ่น แน่นอน ว่าไปญี่ปุ่นทั้งที ต้องขาดไม่ได้อยู่แล้ว สำหรับขนมต่างๆที่ทำออกมา น่ารักน่ารับประทานเสียเหลือเกิน หลายครั้งอดใจไม่ไหวต้องซื้อกลับมาฝากเพื่อนๆทุกที เป็นแหลงช้อปปิ้งที่ถลุงกระเป๋าเงินพอสมควร และแน่อนว่าซื้อที่ญี่ปุ่นราคาต้องถูกกว่าที่ไทยอยู่แล้ว เราก็มีสองร้านมาแนะนำ คือร้านดองกี้และมัตสึโมโต้ นั่นเอง ที่ภายในที่ขายของหลากหลายมากๆ ตั้งแต่ขนม จนไปถึงของใช้ต่างๆ เหมือนห้างบ้านเรานี่เอง มีแทบทุกอย่าง แอบกระซิบว่าดูราคากันดีดี เพราะขนาดร้านเดียวกัน แต่คนละซอยยังราคาแตกต่างกันเลย แอดมินเจอมาแล้ว ฮืออ 6. ฟิกเกอร์ นึกถึงญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงตัวการ์ตูน ตัวโปรด อยู่ในใจ สวรรค์ของนักสะสมตัวการ์ตูน หรือ นักออกแบบ ฟิกเกอร์ เป็นอีก 1 สินค้ายอดนิยม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่ง แน่นอนว่ามาเที่ยวทั้งทีก็ต้องมาหาแหล่งซื้อสักหน่อย ทัวร์ครับขอแนะนำ ย่านอากิบะ และ ชิบูย่า เลย หรือจะเป็นร้าน mandarake ทีี่มีสินค้าค่อนข้างเก่าแก่ ที่เหมาะสำหรับนักสะสมตัวยง 7. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ที่ญี่ปุ่น หลายคนรู้จักกันดีเรื่องสินค้าที่ค่อนข้างมีคุณภาพสูง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิค จึงเป็นอีก 1 อย่างที่ หลายคนมาช้อปปิ้งญี่ปุ่น ละต้องมาสอยไปใช้งานเอง หรือซื้อเป็นของฝากก็ตาม เพราะแน่นอนว่าถูกกว่าที่ไทยชัวร์ๆ สำหรับสถานที่ชื่อดัง คงหนีไม่พ้น Akihabara ที่เป็นแหล่งรวมทั้งของเล่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถนนเส้นหลักของย่านนี้นั่นก็คือ ชุโอะ โดริ ที่มีร้านเล็กๆที่ขายของเฉพาะทางไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ เช่น โยโดบาชิ และตัวสินค้ามักจะมีรุ่นใหม่อยู่เสมอ เหมาะมากๆ สำหรับนักล่าสายเทคโนโลยี ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้า ของฝากทั้ง 7 อย่างนี้ อย่าให้พลาดเลย ซื้อกลับมาคุ้มมาก ได้ของดีมีคุณภาพในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์
5 อันดับของฝากจากญี่ปุ่น ไม่ซื้อถือว่าพลาด!!
พาช้อป
ญี่ปุ่น
5 อันดับของฝากจากญี่ปุ่น ไม่ซื้อถือว่าพลาด!!
วันนี้ทัวร์ครับมาแนะนำ สำหรับของฝากจากญี่ปุ่นสุดฮิตสำหรับคนไทย ที่นิยมฝากซื้อกัน หมดห่วงกับคำถามว่า “ ไปญี่ปุ่นจะซื้ออะไรดี ” ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องลุ้นกับรสชาติกันอีกต่อไป แต่สำหรับใครที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ ก็มาลองดูกันได้ อะไรที่ยังไม่เคยลอง เพราะสินค้าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นของฝากจากญี่ปุ่น ขนมจากญี่ปุ่น ของฝากจากญี่ปุ่นเครื่องสำอาง ของใช้ ขนม นม เนย คัดสรรมาอย่างดีเรื่องความนิยม แต่ความคิดเห็นส่วนตัวจะเป็นอย่างไร คงต้องตัดสินใจกันเองเนอะ มาดูกันเลยดีกว่า ของฝากสุดฮิตจากญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง? 1. ของฝากญี่ปุ่น - น้ำเปล่า กลิ่นต่างๆ ของฝากชิ้นนี้ เป็นกระแสอยู่ค่อนข้างนาน มีด้วยกันหลากหลายรสชาติ อันที่มาแรงที่สุดก็คงจะเป็นชานม แต่ก็ยังมีรสชาติอื่นๆอีก เช่น ชามะนาว พีช สตอเบอร์รี่ เป็นต้น ด้วยความแปลกใหม่ที่ประเทศไทยไม่มี ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบน้ำหวานเป็นชีวิตจิตใจ แต่กลัวอ้วน หรือด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ของฝากชิ้นนี้เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก แต่ ใช่ว่าจะมีคุณสมบัติเหมือนน้ำเปล่าทุกประการนะ ของฝากชิ้นนี้ยังมีปริมาณของแคลลอรี่อยู่ ถึงแม้จะน้อยกว่าปกติทั่วไป แต่กินมากๆก็ไม่ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตามของฝากชนิดนี้ก็ยังคงเป็น ของฝากสุดฮิตอันดับหนึ่งของการไปเที่ยวญี่ปุ่น ดูโปรโมชั่นและเช็คราคาสินค้า 2. ของฝากญี่ปุ่น - เยลลี่ เยลลี่ ขนมของฝากจากญี่ปุ่น อันนี้เราเห็นได้ทั่วไปเลยว่าเยลลี่ญี่ปุ่นนั้นอร่อยขนาดไหน บางตัวก็มีขายในไทยแล้ว แม้ราคาจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่าได้รับประทานเหมือนกัน วันนี้เราจะมาแนะนำ 1 ยี่ห้อ ที่อร่อยไม่แพ้กัน และยังไม่ค่อยมีวางขายในประเทศไทย เป็นเยลลี่ที่มีรสชาติหลากหลายแตกต่างกันไป อร่อยทุกรสชาติแล้วแต่ความชอบ แถมราคาก็ไม่แพงมาก ประมาณ 188 เยนเท่านั้นเอง อาจมีราคาสูงหรือต่ำกว่านั้นนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ซื้อ แต่ความอร่อยนั้นเกินคุ้มสุดๆไปเลย ดูโปรโมชั่นและเช็คราคาสินค้า 3. ของฝากญี่ปุ่น - กาชาปอง ของฝากอันดับต้นๆที่เมื่อใครไปเที่ยวญี่ปุ่น เป็นต้องซื้อฝาก เป็นของเล่นญี่ปุ่น ที่มีลักษณะทรงกลมใสๆ มองเห็นทะลุถึงของข้างใน ราคาจะแตกต่างกันไป เริ่มต้นตั้งแต่ 100 เยน จนถึง 500 เยนขึ้นไป เท่าที่แอดมินเคยเจอ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ด้วยความน่ารักและไม่เหมือนใคร กาชาปองเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความมุ้งมิ้งของญี่ปุ่น ทั้งน่ารักและน่าสะสมในเวลาเดียวกัน แถมยังมีให้ลุ้นกันอีกหลากหลายรูปแบบ หลายสไตล์ตามความชอบ เป็นของเล่นชื่อดังของญี่ปุ่นที่ฮิตกันสุดๆ ไปเลย ดูโปรโมชั่นและเช็คราคาสินค้า 4. ของฝากจากญี่ปุ่น - กาชาปอง 18+ เป็นของเล่นญี่ปุ่น ที่ไม่ต่างจากอันข้างบนเท่าไหร่ สำหรับวิธีการเล่น แต่ความสนุกของมันอยู่ที่ตัวลูกบอลจะเป็นสีดำ มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างในกันแน่ และที่สำคัญราคาค่อนข้างสูงกว่ากาชาปองทั่วไป คือเริ่มต้นที่ 500 เยน เอาไว้เป็นของฝากเพื่อนสนิทสุดฮา เอามาให้ลุ้นกันขำขำว่าใครจะได้อะไรกัน มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเช่นกัน แล้วแต่ตู้แตกต่างกันออกไป ซึ่งแอดมินเองก็ไปกดเล่น เพื่อให้รู้ว่าของในมีอะไรบ้าง กดมา 2 อัน ได้ของเหมือนกันเลยทั้งสองอัน ก็ได้ของที่ค่อนข้างเซอร์ไพส์เหมือนกัน ก็สนุกๆไปอีกแบบ เอาเป็นว่าก็คอยไปลุ้นเอาเองละกันนะจ้ะ 5. ของฝากจากญี่ปุ่น - เบียร์ญี่ปุ่น อันนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติเลย สำหรับคอเบียร์ชาวไทย ที่หลายคนว่ากันว่าเบียร์ญี่ปุ่นนั้นอร่อย เป็นอันต้องซื้อกลับมาฝากคนที่บ้าน แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นเองแท้ๆ เขาก็จะมองว่าเบียร์ไทยนั้นอร่อยเหมือนกัน อันนี้คงแล้วแต่ความชอบจริงๆ นั่นละ เป็นไงกันบ้าง กับของฝากญี่ปุ่นสุดฮิตที่ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วต้องหาซื้อกลับมาฝากเพื่อนๆกัน ส่วนใครที่มีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นละก็อย่าลืมวางแผนให้รอบคอบนะคะ เพื่อการเที่ยวญี่ปุ่นของคุณจะได้ไม่พลาด ส่วนใครที่ไม่สะดวกไปเองก็ลองมาดูทัวร์ญี่ปุ่นกับ ทัวร์ครับ ก่อนได้นะคะ >> ทัวร์ญี่ปุ่น คลิกเลย <<