เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเหมาะสมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันตะวันตกได้สบายๆ ด้วยความครบครันของสาธารณูปโภคและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยเฉพาะด้านการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ตถือเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก
จัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมืองเก่านครแฟรงเฟิร์ต ตรงกลางจัตุรัสเป็นน้ำพุแห่งความยุติธรรม ด้านหน้าจัตุรัสโรเมอร์เป็นบ้านโครงไม้สมัยกลางที่ได้รับการบูรณะแล้ว ปัจจุบัน จตุรัสโรเมอร์ ยังคงความงามสง่ารายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
เป็นมหาวิหารคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นอาคารทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ตัวมหาวิหารมีประวัติศาสตร์ที่ย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 7 ซึ่งมีบทบาทที่เกี่ยวข้องในฐานะคู่ทางศาสนาของพระบรมมหาราชวังในแฟรงค์เฟิร์ต สภาพในปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เมืองริมแม่น้ำไรน์ มีความยาวอันดับสามของทวีปยุโรป ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และทางด้านจิตใจของชาวเยอรมัน และเป็นเมืองสำคัญสำหรับจัดงานเทศกาลการจุดพลุประจำปีริมฝั่งแม่น้ำสามารถลงเรืองทัศนาจร ล่องชมความงดงามของแม่น้ำไรน์ โดยเส้นทาง เซ็นต์กอร์ - บ๊อบพาร์ด จะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะเป็นช่วงที่แม่น้ำแคบและคดเคี้ยวไปมาในหุบเขา ที่มีสถาปัตย์ที่งดงามและไร่องุ่น เรือลำนี้จะพาทุกท่านนั่งชมความงามของแม่น้ำไรน์ ที่เป็นแม่น้ำที่ยาวและสำคัญที่สุดในทวีปยุโรป
เป็นเมืองริมแม่น้ำไรน์ที่ถือเป็นท่าเรือจุดขึ้นลงสำคัญที่หนึ่ง และเป็นเมืองริมแม่น้ำที่มีมนต์เสน่ห์อันงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ
เป็นแม่น้ำที่ยาวและสำคัญที่สุดในทวีปยุโรป ยาวทั้งสิ้น 1,230 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเทือกเขาแอลป์ ไหลผ่านประเทศอิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ลิกเตนสไตน์, ออสเตรีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ลักเซมเบิร์ก, เบลเยี่ยม, และเนเธอร์แลนด์ ไปออกที่ทะเลเหนือ
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนมากเมืองหนึ่งของรัฐบาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก ด้วยบรรยากาศอันแสนโรแมนติก เสน่ห์ของตัวเมืองเก่าสตไล์บาโรก รวมไปถึงปราสาทโบราณที่มีความงดงาม นั่นจึงทำให้เมืองไฮเดลเบิร์กได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มาเยือนได้เป็นจำนวนมาก
เป็นปราสาทยุคกลางที่แข็งแกร่งแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบสาม โครงสร้างป้อมส่วนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ แม้ว่าจะเผชิญกับไฟไหม้ ฟ้าผ่า และสงครามมายาวนานนับศตวรรษ ในอดีตที่นี่มีทั้งแขกผู้มาเยือน นักโทษ และผู้มีเกียรติ สวนของปราสาท สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่สิบหก มีความสวยงามอย่างยิ่ง และเป็นการจัดสวนขั้นสูงที่ได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก
เป็นเมืองเล็กๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่มอบให้โรเธนเบิร์กเป็นถนนสายโรแมนติกตามเส้นทางระหว่างเมือง แฟรงค์เฟิร์ต และ มิวนิค จุดเด่นของถนนสายนี้ก็คือความน่าอนุรักษ์ของเมืองเก่า บ้านไม้ ประตู หน้าต่าง ที่ทาสีสันได้อย่างน่ารักและมีสไตล์คลาสสิคเป็นของตนเองโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มากมายเหมือนกับเมืองอื่นๆ มนต์เสน่ห์เหล่านี้ล่ะที่มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส
เป็นจัตุรัสบริเวณใจกลางย่านเมืองเก่าโรเรนเบิร์ก
เป้นสวนขนาดใหญ่ ที่มีทั้งสนามกีฬา Indoor และOutdoor สวนสวยแกลอรี พิพิธภัณฑ์ ประติมากรรม ฯลฯ รวมอยู่ในที่เดียว และยังเพลิดเพลินกับวิวสวยๆได้อีกมาก
ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ และเป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว
เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์เยอรมัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมนี เป็นจุดเริ่มต้นและจุดศูนย์กลางของการเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆในยุโรป
ตั้งอยู่ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี นึมเฟนบูร์กเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระราชวงศ์ผู้ปกครองรัฐบาวาเรีย ผู้ริเริ่มสร้างปราสาทคือเฟอร์ดินานด์ มาเรีย เจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรีย และ เจ้าหญิงเฮนเรียตตา อเดลเลดแห่งซาวอย ตามแบบของสถาปนิกอากอสติโน บาเรลลิในปี ค.ศ. 1664 หลังจากมีพระโอรสองค์แรก ส่วนกลางของวังสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1675
เป็นนิทรรศการถาวรของรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 120 คันและเครื่องยนต์ต่างๆที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ BMW
ที่พักผ่อนยามออกล่าสัตว์ของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 มีต้นแบบมาจากมาพระราชวังแวร์ซายส์ ภายในตกแต่งด้วยศิลปะแบบรอคโคโค ซึ่งภายในพระราชวังสะท้อนถึงจินตนาการของกษัตริย์นักฝันและเทคนิคล้ำยุคในสมัยนั้น เช่น บัลลังก์เปลือกหอย เครื่องปั่นไฟในถ้ำเพื่อจุดประกายใต้น้ำ หรือเรือพายไว้ทรงนั่งเล่นในทะเลสาบภายในถ้ำ
เป็นอารามเบเนดิกตินในหมู่บ้านเอททัล ใกล้กับ Oberammergau และ Garmisch-Partenkirchen ในแคว้นบาวาเรียเยอรมนี ที่นี่เป็นหนึ่งในบ้านเบเนดิกตินที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้นบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งจะติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองฟุสเซ่นนั้น เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พักซึ่งแต่ล่ะแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตเทศบาลเมืองของ Schwangau รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน โดยอยู่บริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมันและออสเตรีย
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
เป็นเมืองตากอากาศริมทะเลสาบอันโด่งดังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศอันงดงามของป่าดำของประเทศเยอรมนี
ป่าดำแบล็คฟอเรสท์ เป็นภูมิภาคที่มีภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี มีพื้นที่กว่า 12,000 ตารางกิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันดีในความเป็นป่าทึบดิบชื้น เหตุที่ได้ชื่อนี้ก้อเพราะป่านี้เต็มไปด้วยต้นสนซึ่งขึ้นอย่างหนาแน่น จนมองดูเป็นสีดำ
เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินที่สวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตกโดยรอบที่โดดเด่น
เป็นเมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้วเมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลก ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทางที่เมืองซุกจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิน และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในฝรั่งเศส
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่าง แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม
เป็นพื้นที่ชนบทที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางขึ้นยอดเขาจุงเฟราที่สำคัญจุดหนึ่ง มีโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศอยู่หลายแห่งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามไม่แพ้พื้นที่รอบๆ
มีความหมายว่า สาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร และเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่
สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ตั้งอยู่ด้านบน ยอดเขาจุงเฟราไม่ได้สูงที่สุดในยุโรป แต่เป็นจุดที่สามารถขึ้นไปได้สูงที่สุดของยุโรปโดยไม่ต้องปีนเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป
เป็นลานหอดูดาวซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่ได้รับการตั้งชื่อตามสฟิงซ์ซึ่งเป็นยอดหินที่ตั้งอยู่ จากตรงนี้นักท่อเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเทือกเขาอันงดงงามได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส
เป็นถ้ำน้ำแข็งบนยอดเขาจุงเฟรา ที่ขุดเจาะลงไปใต้ธารน้ําแข็งถึง 30 เมตร ซึ่งว่ากันว่าน้ำแข็งที่อยู่ในไอซ์พาเลซนี้ไม่เคยมีวันละลาย ภายในมีการตกแต่งติดไฟสีสันสวยงามและมีตุ๊กตาแกะสลักน้ําแข็งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่ด้วย
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย