เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักที่ให้บริการเมืองชิงเต่าในมณฑลซานตงจองประเทศจีน ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทาทิศเหนือประมาณ 31 กิโลเมตร ท่าอากาศยานนี้เป็นศูนย์กลางสำหรับสายการบินชานตง, ปักกิ่งแคปิตอลแอร์ไลน์ และชิงเต่าแอร์ไลน์
ศูนย์เรือใบโอลิมปิกชิงเต่า ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเมืองชิงเต่า มีเนื้อที่ประมาณ 45 เฮกตาร์ นอกจากจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือใบงานกีฬาโอลิมปิกแล้ว ยังรวมถึงหมู่บ้านนักกีฬา ศูนย์บริหาร ศูนย์ข่าว เป็นต้น
เป็นจัตุรัสที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิงเต่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในเหตุการเรียกร้องเมืองชิงเต่าคืนจากญี่ปุ่นในวันที่ 4 พ.ค. ปี ค.ศ. 1919 หลังจากที่เยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งพรคคคอมมิวนิสต์จีน
เป็นถนนอันสวยงามที่อยู่ในเขตหุยเฉวียน จุดชมวิวที่สามารถพบเห็นสถาปัตยกรรม สไตล์ยุโรปได้อย่างหลากหลายกว่า 200 หลัง เนื่องจากเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเยอรมันมาก่อน เมื่อครั้งที่ชิงเต่าถูกยึดเป็นอาณานิคม นอกจากนี้ ปาต้ากวนยังเป็นสถานที่สุดแสนโรแมนติก ที่คู่รักหลายคู่เลือกมาถ่ายภาพแต่งงาน
สะพานไม้ม่านปู้ ให้ท่านเดินชมวิวธรรมชาติทางทะเลของชิงเต่าถือเป็นแหล่งพักผ่อนที่น่าสนใจเป็นยิ่งนักและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
สะพานจ้านเฉียว สร้างในสมัยจักรพรรดิ์กวงสู่ราชวงศ์ชิง (ราวปี ค.ศ.1819) ตัวสะพานยาว 440 เมตร กว้าง 8 เมตร ยื่นลงไปในทะเล
อิสระเลือกซื้อสินค้าของฝาก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เบียร์ขึ้นชื่อของเมืองชิงเต่า หรืออาหารทะเลอบแห้งราคาย่อมเยา นอกจากนั้นยังมีสินค้าของฝากขึ้นชื่ออีกมากมายให้ท่านได้เลือกชม
ชมแหล่งผลิตเบียร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน โรงงานเบียร์ชิงเต่า เริ่มตั้งแต่การก่อตั้งโรงงาน กระบวนการพัฒนาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบันรู้จักกรรมวิธีในการกลั่นเบียร์ของโรงงานเบียร์แห่งแรกของประเทศจีนรวมทั้งกรรมวิธีการกลั่นเบียร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกปัจจุบัน"ชมขบวนการบรรจุเบียร์ใส่ขวด และกระป๋อง เพื่อจำหน่ายสู่ตลาดโลกอีกทั้งยังให้ท่านได้ลิ้มรสชิมเบียร์ชิงเต่าที่มีชื่อเสียง
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางมณฑลซานตงในสาธารณรัฐประชาชนจีน ยู่กึ่งกลางระหว่างจี่หนานและชิงเต่า มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์มากมาย เช่น สวน Shihu อุทยานแห่งชาติ Mount Yi , ภูเขา Qingyun และ Old Dragon Spring
หมู่บ้านศิลปะตระกูลหยาง หรือ หยางเจียปู้ ได้ก่อเกิดฃึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ 960-1279) สืบจนถึงปัจจุบัน เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะสิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่ทำจากมือ อีกทั้งลักษณะเด่นจะมีการออกแบบสื่อถึงทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งคงความละเอียดอ่อนช้อย
เป็นเมืองระดับจังหวัดในมณฑลซานตงของจีน ไม่ไกลจากเมืองเว่ยฝาง เป็นอีกเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของมณฑลซานตง
เขตเมืองโบราณโจวชุน เป็นย่านการค้าสมัยราชวงศ์หมิง และในปีกานหลง การค้าเจริญรุ่งเรือนเป็นอย่างมาก จนกษัตริย์ทรงเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยตนเอง และแต่งตั้งให้เป็นย่านการค้า1ในใต้หล้า จากนั้นนำท่านเดินชม ย่านการค้าโบราณหมู่บ้านโจวชุน ซึงจะมีการค้าขนมปังที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านแห่งนี้
พิพิธภัฑณ์ขนมปัง โจวชุน จัดแสดงการหุ่นขี้ผึ้งที่มีกริยาใช้ชีวิตตลอด1800ปี ของหมู่บ้านหมู่บ้านโจวชุน และมีอุปกรณ์โบราณต่างๆในสมัยโบราณ ท่านสามารถดูความเป็นมาของหมู่บ้านแห่งนี้ได้จากพิพิธภัฑณ์แห่งนี้ และความเป็นมาของขนมปังที่เป็นเรื่องเล่าของหมู่บ้านนนี้
เมืองไท่ซาน เป็นเมืองสำหรับผู้ที่ต้องการไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาไท่ซาน สถานที่ที่ชาวจีนส่วนใหญ่จะต้องหาโอกาสสักครั้งในชีวิต เพื่อมาเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นภูเขาที่ใหญ่มากและได้ชื่อว่าเป็นอันดับ 1 ใน 5 เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศจีน
นั่งกระเช้าขึ้นสู่ เขาไท่ซาน ซึ่งมีความสูงถึง 1,532.7 เมตร เนื่องจากเขาตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของจีนจึงมีชื่อเรียกอื่นๆอีก เช่น “ภูผาตะวันออก”หรือ “ภูผาศักดิ์สิทธิ์” บนเขาไท่ซานยังมียอดเขาสูงสุด คือ ยวี่หวางติ่ง (ยอดพระอินทร์) โดยมีคำพังเพยกล่าวไว้ว่า “เมื่อขึ้นสู่ยอดเขาไท่ซานจะรู้สึกว่าโลกนี้แคบลงทันที”ซึ่งจะเห็นได้จากการแกะสลักชื่อบนหินที่ตั้งอยู่บนภูเขาแห่งนี้อย่างมากมายระหว่างทางท่านสามารถเลือกซื้อของพื้นเมืองทั้งสองข้างทางของถนนเทียนเจี่ย
เมืองจี่หนาน เป็นเมืองเอกของมณฑลซานตง เป็นที่ยอมรับของชาวจีนว่าเป็น "เมืองแห่งน้ำพุอันดับหนึ่งในใต้หล้า" โดยมีน้ำพุธรรมชาติ 733 แห่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวเมือง
ทะเลสาบต้าหมิงหู มีเนื้อที่ประมาณ 5 แสนตร.กม. และพื้นที่ภายในจะเป็นทะเลสาบครึ่งหนึ่ง อีกทั้งในอาณาบริเวณรอบทะเลสาบจะ มีดอกบัวและต้นหลิวรายล้อม ชวนให้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพและอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น
เมืองจี่หนาน เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับของชาวจีนว่าเป็น "เมืองแห่งน้ำพุอันดับหนึ่งในใต้หล้า" โดยมีน้ำพุธรรมชาติ 733 แห่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวเมือง บ่อน้ำพุเสือดำ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองจี่หนาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลซานตง สมัยก่อนซึ่งเป็นเมืองขึ้นชื่อที่อุดมไปด้วยน้ำพุร้อนกว่า 100 แห่ง ล้วนเป็นน้ำแร่ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย
ช้อปปิ้ง ณ ถนนโบราณควางโหวหลี ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เป็นแหล่งอารยธรรมที่มีประวัติยาวนานกว่า 400ปี ถนนเส้นนี้ถูกสร้างเป็นสิ่งก่อสร้าง เป็นบ้านเรือนโบราณในสไตล์ของเมืองจี่หนานขึ้นมาใหม่
เป็นสนามบินที่ให้บริการเมืองจี่หนาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลซานตง ประเทศจีน ตั้งอยู่ห่างประมาณ 33 กิโลเมตร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของใจกลางเมือง
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย