เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
ท่าอากาศยานมาดริดอยู่ห่างจากเมืองมาดริดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 12 กม. (8 ไมล์) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 รองรับการเป็นประตูสำคัญในการเข้าออกประเทศของสเปนและภูมิภาคยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของไอบีเรีย, แอร์นอสทรัม และแอร์ยูโรปา
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน กรุงมาดริดเป็นหนึ่งเมืองใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนของต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวต่อประชากรสูงที่สุด และถือได้ว่ายังเป็นเมืองสีเขียวอันดับสองของโลกรองจากโตเกียวอีกด้วย ชาวมาดริดส่วนใหญ่มักจะใช้สวนสาธารณะหรือพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ในการเดินโดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน ซึ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นไม้และสวนสาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16
สนามสู้วัวกระทิง PLAZA DE TOROS ที่ชาวสเปนนิยมชมชอบการสู้วัว เนื่องด้วยเป็นวิถีโบราณแห่งการเอนเตอร์เทนที่เร้าใจมาช้านาน
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส สวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง อุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล และมีอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
เมืองเซอโกเบีย (Segovia) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน องค์การ UNESCO ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985
เป็นสะพานโรมันที่สะท้อนมุมมองความเป็นโรมันของเมืองได้ดีที่สุด สะพานนี้ทอดข้ามแม่น้ำมัวตาลควิวีร์ Guadalquivir River รายล้อมด้วยสิ่งก่อสร้างในยุคโรมัน อาทิเช่นวิหาร โรงละคร สุสาน รวมทั้งพระราชวังจักรพรรดิแมกซิเมียน
เป็นมหาวิหารในนิกายโรมันคาทอลิก มีรูปแบบสถาปัตยกรรม เป็นสไตล์โกธิค มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเวีย ตั้งอยู่บนจัตุรัสกลางเมืองเซโกเวีย
หลายคนเรียนปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่เห็นภายนอก ตั้งอยู่บนผาสูง ที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 และได้เราการต่อเติมสมัยศตวรรษที่ 15 - 16 ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะเหมาะแก่การตั้งรับข้าศึก
เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นคาสตีลและเลออน ทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน ตรงบริเวณที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส เป็นเมืองที่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการค้าขายในสมัยโรมันเรืองอำนาจ ปัจจุบันเมืองนี้ได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1988
เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และแหล่งชุมชนเก่ากลางกรุงมาดริด มีอายุราว 300 กว่าปี ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างทหารนโบเลียน กับ ชาวบ้าน และที่แห่งนี้ยังใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เช่น ศาลสอบสวนทางศาสนา ราชาภิเษก แข่งกีฬา จุดขุมนุมทางการเมือง และอื่นๆ
เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสเปนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 700 กว่าปี นับว่ามีอายุเก่าแก่ไม่แพ้มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอื่นๆ ในยุโรป อย่างไรก็ตามสถาปัตยกรรมสำคัญของซาลามังกาคือ มหาวิหาร, พระราชวัง และตัวอาคารหลายแห่งของมหาวิทยาลัยยังคงมีสภาพสมบูรณ์ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1988 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เขตเมืองเก่าของซาลามังกาเป็นมรดกโลก และในปี ค.ศ. 2002 ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของยุโรปร่วมกับเมืองบรูจส์ของเบลเยียม
เป็นบ้านหอยที่ตั้งอยู่ระหว่างพลาซ่ามายอร์กับมหาวิหารใหม่ในเมืองซาลามังกา ตึกนี้มีชื่อตามเปลือกหอยที่ประดับบนกำแพงด้านนอก หอยที่ใช้ประดับนี้เป็นตราประทับของเจ้าของเก่าคืออัศวินซานติอาโก และที่นี่ก็คือบ้านของอัศวินผู้นี้ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้กลายเป็นหอสมุดสาธารณะ ซึ่งว่าไปก็น่าจะเป็นหอสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เมืองปอร์โต้ (Porto) ทางเหนือของประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงถึง “ไวน์ปอร์โต้” ซึ่งเป็นแหล่งไวน์ชั้นดีของคนที่มีรสนิยมในการดื่มไวน์ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองและตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดรู และเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ ในปี ค.ศ.1996 อีกด้วย นำท่านชมเมืองมรดกโลกปอร์โต้
ล่องชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำดูว์โร ผ่านชม Cais da Ribeira เรือขนไวน์โบราณ Rabelos ที่จอดเรียงรายให้ชื่นชมความเป็นมาของเมืองนี้และแม่น้ำดูว์โร สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองมากในสมัยที่เป็นท่าเรือโบราณและตลาดค้าขายมาตั้งแต่สองสามร้อยปีก่อน บริเวณนี้จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดก
เป็นจัตุรัสกลางเมืองปอร์โต้ ที่ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง
เป็นสถานีรถไฟอันสวยงาม ตั้งอยู่ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่คั่นด้วย Praha Almeida Garrett, Rua da Madeira และ Rua do Loureiro อาคารหินแกรนิตแบบสมมาตรสามชั้นมีรูปแบบ "U" พร้อมด้วยอาคารหลักซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีที่มีลวดลายสีน้ำเงิน ที่เล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกส
มีอีกชื่อว่ามหาวิหารแซ ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองปอร์โต้ มีอายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ João ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกส สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง
เป็นแหลมจุดที่ปลายด้านตะวันตกสุดของทวีปยุโรป อยู่ในเขตเทศบาลเมืองโปรตุเกสของซินตราใกล้ Azóia ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลิสบอน แหลมนี้มีแนวหน้าผาสูงกว่า 100 เมตรและตัดเป็นหินผลึกประกอบด้วยหน่วยตะกอนที่ดูแปลกตา ที่นี่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญที่ต้องมาเยือนหากได้มาเที่ยวโปรตุเกส
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของประเทศ ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของคาบสมุทรไอบีเรีย การที่ลิสบอนตั้งอยู่ทางใต้ของทวีปยุโรปและติดกับมหาสมุทร จึงได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม ทำให้ลิสบอนเป็นเมืองหลวงที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในยุโรป
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของประเทศ ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของคาบสมุทรไอบีเรีย การที่ลิสบอนตั้งอยู่ทางใต้ของทวีปยุโรปและติดกับมหาสมุทร จึงได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม ทำให้ลิสบอนเป็นเมืองหลวงที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในยุโรป
ที่นี่เป็นพระราชวังหลวงอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิกและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี
เป็นวิหารที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดากามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก
หอคอยนี้ตั้งอยู่ในเขตเบเล็ง กรุงลิสบอน เป็นแลนมาร์คของเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากที่มาท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกส หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1515 เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม รูปแบบของหอคอยเป็นศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งแต่ครั้งอดีต หอหอยแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นประภาคาร และป้อมปราการที่คอยปกป้องเขตเบเลม
สร้างขึ้นในปี 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ ผู้เป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับการยกย่องในฐานะบิดาแห่งการสำรวจและการค้าทางทะเล
สะพาน 25 เมษายน ของเมืองลิสบอน เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเทกัส มักจะถูกเอาไปเปรียบเทียบกับสะพานโกลเดนเกต
เป็นเมืองชายแดนทางตะวันตกของสเปน บาดาจอซเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในระดับหนึ่งเนื่องจากอยู่ติดกับซากเนินปราสาทมัวร์และยังสามารถมองเห็นแม่น้ำกวาเดียนาที่ไหลผ่านระหว่างตัวเนินปราสาทกับป้อมซานกริสโตบัลที่มีการเสริมกำลังอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย สถาปัตยกรรมในตัวเมืองเป็นตัวบ่งชี้ประวัติศาสตร์ที่วุ่นวายของเมืองเอง แม้แต่อาสนวิหารบาดาโคซที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1238 ก็ยังมีลักษณะเป็นป้อมปราการ
เป็นเมืองและเขตเทศบาลหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน โดยเป็นเมืองหลักของจังหวัดโทเลโดและของแคว้นคาสตีล-ลามันชา องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย
เป็นคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่สำคัญของเมืองโทเลโด้ โดยเป็นที่ทำการของอัครสังฆมณฑลประจำเมือง ที่นี่เป็นหนึ่งในสามมหาวิหารกอธิคระดับสูงในศตวรรษที่ 13 ในสเปนในช่วงภายใต้การปกครองของเฟอร์ดินานด์ที่ 3 ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อท้องถิ่นว่า Dives Toletana (หมายถึง The Rich Toledan ที่แปลว่า "โทเลโด้อันรุ่งโรจน์" ในภาษาละติน)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน กรุงมาดริดเป็นหนึ่งเมืองใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนของต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวต่อประชากรสูงที่สุด และถือได้ว่ายังเป็นเมืองสีเขียวอันดับสองของโลกรองจากโตเกียวอีกด้วย ชาวมาดริดส่วนใหญ่มักจะใช้สวนสาธารณะหรือพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ในการเดินโดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน ซึ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นไม้และสวนสาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16
สนามซานเตียโก เบร์นาเบว เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในกรุงมาดริดของประเทศสเปน เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดเริ่มเปิดใช้สนามเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1944 เดิมมีชื่อว่าเอสตาดีโอชามาร์ติน (ESTADIO CHAMARTÍN) ตามชื่อของสนามเดิมของสโมสร เปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 1947 เรอัลมาดริดได้ประกาศใช้ชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ เอสตาดีโอซานเตียโก เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 4 มกราคม 1955 เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสโมสรคือ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต
ที่นี่มีลักษณะโค้งครึ่งวงกลมหรือพระจันทร์เสี้ยว สร้างขึ้นเมื่อปี 1929 เพื่องาน Iberian-American Expo โดยเฉพาะ ตัวอาคารรวบรวมลักษณะเด่นทั้งหมดของสถาปัตยกรรมสเปนเอาไว้ โดยเฉพาะการประดับตกแต่งอาคารด้วยกระเบื้องเคลือบ ซึ่งทำให้ดูสวยงามและแปลกตากว่ายุโรปภูมิภาคอื่น
เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และแหล่งชุมชนเก่ากลางกรุงมาดริด มีอายุราว 300 กว่าปี ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างทหารนโบเลียน กับ ชาวบ้าน และที่แห่งนี้ยังใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เช่น ศาลสอบสวนทางศาสนา ราชาภิเษก แข่งกีฬา จุดขุมนุมทางการเมือง และอื่นๆ
ที่นี่เป็นลานกว้างค่อนข้างที่จะคึกคัก เพราะมีผู้คนสันจรเดินทางผ่านไปผ่านมามากมาย จุดสังเกตง่ายๆ เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็คือ รูปปั้นหมีตะกายต้นสตอว์เบอร์รี่ ซึ่งมักใช้เป็นจุดนัดพบของชุมชนคนเมืองแห่งนี้
ที่นี่เป็นลานกว้างค่อนข้างที่จะคึกคัก เพราะมีผู้คนสันจรเดินทางผ่านไปผ่านมามากมาย จุดสังเกตง่ายๆ เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็คือ รูปปั้นหมีตะกายต้นสตอว์เบอร์รี่ ซึ่งมักใช้เป็นจุดนัดพบของชุมชนคนเมืองแห่งนี้
ท่าอากาศยานมาดริดอยู่ห่างจากเมืองมาดริดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 12 กม. (8 ไมล์) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 รองรับการเป็นประตูสำคัญในการเข้าออกประเทศของสเปนและภูมิภาคยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของไอบีเรีย, แอร์นอสทรัม และแอร์ยูโรปา
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย