เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นเมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลกเมืองนี้
สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่ องจากถูกท าลายจากสงครามโลกครั้งที่2
เป็นเมืองเล็กๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่มอบให้โรเธนเบิร์กเป็นถนนสายโรแมนติกตามเส้นทางระหว่างเมือง แฟรงค์เฟิร์ต และ มิวนิค จุดเด่นของถนนสายนี้ก็คือความน่าอนุรักษ์ของเมืองเก่า บ้านไม้ ประตู หน้าต่าง ที่ทาสีสันได้อย่างน่ารักและมีสไตล์คลาสสิคเป็นของตนเองโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มากมายเหมือนกับเมืองอื่นๆ มนต์เสน่ห์เหล่านี้ล่ะที่มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส
เมืองเก่าของเมืองรอเธนเบิร์กซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการรักษาสถาพของเมืองที่มีอายุยาวนานได้เป้นอย่างดีและยังมีความสวยงาม
อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน อีกทั้งยังเป็นเมืองบ้านเกิดของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ทฤษฏีที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสตศตวรรษที่ 20
มหาวิหารวิหารอูล์มเมอร์ มืนสเตอร์ (Ulm Münster) ที่มีชื่อเสียง ถือว่าเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในโลกวัดได้ว่ามีความสูงถึง 161.53 เมตร เมืองอูล์มยังเป็นเมืองที่สำคัญระดับโลกเนื่องจากป็นเมืองเกิดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน-ยิว ชื่อก้องโลก เจ้าของผลงานทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General theory of relativity)
เป็นเมืองที่ตั้งของปราสาทแห่งเทพนิยายนอยชวานสไตน์ อยู่ใกล้เมืองฟุสเซ่นทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี
เป็นสะพานไกล้ปรสาทนอยชไวน์สไตน์ ในบาวาเรีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอกนิยมของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เพื่อไปถ่ายภาพวิว ซึ่งใช้ในการข้ามเหวที่ลึก และห่างจากตัวเมืองออกไป 30นาที
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
เป็นเมืองพักตากอากาศเล็กๆ ในแนวหุบเขาของเยอรมันใต้ มีบ้านเมืองสวยแบบบาวาเรียแท้ ตามผนังของตึกต่างๆ ยังเป็นรูปเขียนเรื่องราวในคริสต์ศาสนาที่น่าชมยิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวและยังเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
กระเช้าต่อไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาซุกสปิตเซ่ ณ ระดับความสูง 2,970 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในแต่ละปีจะมีนักท่องเทียวมาที่นี่ ราว 500,000 คน
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ด้วยความสูง 2,962 เมตร ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในวันที่อากาศดีสามารถเห็นยอดเขาต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์ได้ชัดเจน และยอดเขามากกว่า 400 ยอด เห็นวิวได้ถึง 4 ประเทศคือออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลีและเยอรมนี ถือว่าเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งของการเล่นกีฬาฤดูหนาวของเยอรมัน โดยเฉพาะการเล่นสกี
นูเรมเบิร์กได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูน ทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ในหน้าหนาวต้องที่นี่เลย
ที่นี่มีลักษณะเป็นบ้านขุนนางชั้นสูงในสมัยยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิค แม้จะเป็นชื่อคฤหาสน์ขุนนางนัสเซา แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าขุนนางเหล่านั้นเคยมาอยู่ที่นี่จริงๆ
มีประติมากรรมน้ำพุชื่อ The Beautiful Fountain หรือ Schoner Brunnen ในภาษาเยอรมัน (ซึ่งอ่านออกเสียงยากทีเดียว) เป็นประติมากรรมสมัยศตวรรษที่ 14 น้ำพุที่ว่าหาง่าย อยู่ตรงหัวมุมทางเดินของตัววิหาร ประดับเป็นประตูรั้ว ประติมากรรมน้ำพุนี้มีแหวนให้ไปหมุนรอบ 3 ครั้ง ระหว่างที่หมุนแหวนให้อธิษฐานไปด้วย อยากได้อะไร เขาว่าจะสมหวัง
ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมืองอันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนีด้านตะวันออกของตลาดมีโบสถ์พระแม่มาเรีย (FRAUENKIRCHE) จุดเด่นคือมีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรียตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปีค.ศ. 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356 ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามของน้ำพุเชินเนอร์บรุนเนน สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ 1389 – 1396 ด้วยหินรูปทรงปิรามิดยาว 19 เมตรมีลักษณะคล้ายยอดหอคอยสไตล์กอธิค
เป็นโบสถ์ในนูเรมเบิร์กเยอรมนี ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของตลาดหลักในเมือง มีลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ถูกสร้างขึ้นโดยพระราชดำริของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ในช่วงปี 1352 มีประติมากรรมหลายชิ้น รวมถึงงานศิลปะมากมายจากยุคกลางถูกเก็บไว้ในโบสถ์แห่งนี้
เดรสเดน มาจากภาษาซอร์เบียโบราณว่า Drežďany แปลว่าชนเผ่าแห่งป่าริมแม่น้ำ ทั้งนี้เพราะเมืองเดรสเดนตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเอลเบอ เป็นเมืองหลวงของรัฐซัคเซิน แต่เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐรองจากไลพ์ซิจ นอกจากนี้ บริเวณเมืองเก่าย่านใจกลางเมืองเดรสเดินยังได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมอีกด้วย
เป็นสถานที่อันโดดเด่นทางด้าน สถาปัตยกรรม และดนตรี ตั้งอยู่ ณ บริเวณจัตุรัสเธียเตอร์ใกล้กับพระราชวังสวิงเกอร์ เป็นโรงโอเปร่าที่ออกแบบในสไตล์บารอค บริเวณอาคารหลังใหม่ด้านหน้าโรงโอเปร่าจะมีรูปปั้นของกษัตริย์โจฮานทงอยู่บนหลังม้า
สวนสวิงเกอร์ (Zwinger) สวนสวยประจำวัง สวนสไตล์ยุโรปที่ได้วิวภูเขาที่สวยงามร่มรื่น
แม่น้ำเอลเบอ (Elbe River) เป็นหนึ่งในแม่น้ำสายหลักในยุโรปกลาง มีต้นน้ำมาจากทิวเขารีเซนเกเบียร์เกอ ในประเทศเช็กเกีย ไหลไปทางเหนือ ผ่านเข้าไปในประเทศเยอรมนี วกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ลงสู่ทะเลเหนือที่เมืองคุคส์ฮาเฟิน แม่น้ำมีความยาวรวม 1,094 กิโลเมตร
เป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมเยอรมัน โปแลนด์ และเชคฯ เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ติดพรมแดนและเป็นเส้นทางผ่านในการค้าขายของทั้งสาม ประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีแม่น้ำเนสส์ไหลผ่านกลางเมือง และมีทะเลสาบเบอร์ซโดร์เฟอร์อยู่ติดตัวเขตเมืองเก่าเสมือนถูกสต๊าฟมาเป็นพันปี ท่านจะรู้สึกเหมือนเดินเข้าสู่ยุคกลางของยุโรปอย่างแท้จริง
เป็นเมืองหลวงและรัฐหนึ่งในสิบหกรัฐสหพันธ์ของประเทศเยอรมนี มีประชากร 3.4 ล้านคนในเขตเมือง และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการคมนาคมทางอากาศและทางรางของทวีป
เป็นชื่อที่ฝ่านพันธมิตรตั้งให้กับทางผ่านกำแพงเบอร์ลิน ในช่วงสงครามเย็น
ประตูชัยบราเดนเบิร์ก เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน ก่อสร้างตามศิลปะแบบโรมัน สถานที่แห่งนี้ถือเป็นเครื่องหมายแห่งความสงบสุข และมีความสำคัญโดยเป็นจุดแบ่งกรุงเบอร์ลินออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ตะวันออกและตะวันตก ก่อนจะรวมกันใหม่ในภายหลัง
รัฐสภาที่งามสง่าโดมแก้วครอบตัวอาคารเป็นผลงานของสถาปนิกชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ เซอร์นอร์แมน ฟอสเตอร์
เมืองเควดลินบวร์ก ตั้งอยู่ในเขตซัคเซน-อันฮัลท์ ประเทศเยอรมนี และเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของชนชาติเยอรมัน มาตั้งแต่ ค.ศ.919 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบโรมัน มีอาคารลักษณะกรอบไม้ซุง (Timber-framed) ที่มีความสวยงามมากกว่า 1,300 หลัง เมืองเควดลินบวร์กได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1994
เป็นจัตุรัสประจำเมืองเควดลินบวร์ก เมืองมรดกโลกของรัฐแซกโซนี - อันฮัลต์ เป็นที่ตั้งของตลาดกลางแจ้ง ตัวจัตุรัสล้อมรอบไปด้วยบ้านไม้ที่มีลักษณะเป็นเมืองเก่า และที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้าเยี่ยมชมเมืองมรดกโลกนี้ในทุกๆ ปี
เป็นศาลาว่าการประจำเมืองเควดลินบวร์ก มีกลุ่มไม้พุ่มขึ้นสวยงามตามพนังอาคาร ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1320 ตั้งเด่นอยู่ที่จัตุรัสประจำเมือง ศาลาว่าการนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง
รู้จักกันในนามโบสถ์เซนต์เซอร์ติ เป็นโบสถ์ประจำเมืองเควดลินบวร์ก ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1070 - 1129 เพื่อที่อุทิศให้กับนักบุญไดโอนิซิอัสและเซอร์ทาเทียส ออกแบบขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ด้วยโบสถ์วิหารแบบสามชั้น มีหลังคาผิวเรียบ โดยบริเวณใต้ถุนโบสถ์ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับฝังศพของกษัตริย์ Heinrich I และพระชายาของพระองค์ โบสถ์นี้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของยูเนสโก และยังเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญากรุงเฮกอีกด้วย
เป็นหนึ่งในโบสถ์ประจำเมืองเควดลินบวร์ก ที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่มากแห่งหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นในสไตล์ฮอลล์ โดยตัวโบสถ์ประกอบไปด้วยสองอาคารขนาดใหญ่ที่มียอดแหลมสีเขียวอ่อนตั้งสูงเป็นจุดเด่นของขอบฟ้า ภายในโบสถ์มีแท่นบูชาแบบบาร็อค โบสถ์แห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า "คริสตจักรคนเลี้ยงแกะ" อีกด้วย
ตัวเมืองตั้งอยู่ในแคว้นโลว์เวอร์ แซคโซนี ร่ำรวยจากการทำเหมืองแร่ ตั้งแต่ปี ค.ศ.968 ที่มีการพบแร่เงินเป็นครั้งแรกเมื่อจักรพรรดิออโต้ มหาราชออกล่าสัตว์ มาในบรเวณนี้ และพบแหล่งแร่โดยไม่ตั้งใจ แร่ที่พบในบริเวณนี้มีแร่สังกะสี (Zinc) ตะกั่ว(lead) ทองแดง(Copper) ทอง (Gold) และแร่เงิน (Silver) และได้ดำเนินงานเหมืองแร่มาถึงปี ค.ศ.1988 ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่เชิงเขาฮาร์ซ (Harz) มีแนวป่าไม้ล้อมรอบ บ้านเรือนส่วนใหญ่ใช้หินกะเทาะมาตกแต่งรอบๆตัวอาคาร จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมือง
เป็นเมืองๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย ประเทศเยอรมนีฝั่งตะวันตก เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองตากอากาศบนที่ราบสูง เป็นเมืองสีเขียวด้วยพื้นป่าไม้มากว่า 2 ใน 3 มีสวนสาธารณะ และทางรถไฟเชิร์ชที่ Wuppertal Schwebebahn ในอดีตช่วประมาณศตวรรษที่ 18 เมืองนี้เป็นเมืองอุตสาหรกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งของภูมิภาคยุโรป
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหพันธรัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลียและเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์โคโลญจน์ เมืองโคโลญจน์เป็นที่มาของน้ำหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าออดิโคโลญจน์ ทั้งนี้เพราะผู้ผลิตน้ำหอมชนิดนี้ตั้งอยู่ในเมืองนี้
เป็นมหาวิหารคริสต์โรมันคาทอลิกที่สำคัญในเมืองโคโลญจน์ เป็นสถานที่ประทับของอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญจน์ สถานที่นี้มีชื่อเสียงในฐานะเป็นที่ศาสนสถานนิกายเยอรมันคาทอลิก เพื่อเป็นสถานที่ประพิธีกรรมของสามมหากษัตริย์แห่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่เก็บหีบสามกษัตริย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้
เมืองริมแม่น้ำไรน์ มีความยาวอันดับสามของทวีปยุโรป ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และทางด้านจิตใจของชาวเยอรมัน และเป็นเมืองสำคัญสำหรับจัดงานเทศกาลการจุดพลุประจำปีริมฝั่งแม่น้ำสามารถลงเรืองทัศนาจร ล่องชมความงดงามของแม่น้ำไรน์ โดยเส้นทาง เซ็นต์กอร์ - บ๊อบพาร์ด จะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะเป็นช่วงที่แม่น้ำแคบและคดเคี้ยวไปมาในหุบเขา ที่มีสถาปัตย์ที่งดงามและไร่องุ่น เรือลำนี้จะพาทุกท่านนั่งชมความงามของแม่น้ำไรน์ ที่เป็นแม่น้ำที่ยาวและสำคัญที่สุดในทวีปยุโรป
ล่องเรือแม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวและสำคัญที่สุดในทวีปยุโรป มีความยาวทั้งสิ้น 1,230 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเทือกเขาแอลป์ ไหลผ่านประเทศอิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ลิกเตนสไตน์, ออสเตรีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ลักเซมเบิร์ก, เบลเยี่ยม, และเนเธอร์แลนด์ ไปออกที่ทะเลเหนือ
เมือง ค็อกเค่ม “Cochem”เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ในหุบเขาในมลรัฐไรน์แลนด์ ฟาลซ์ (Rheinland Pfalz) ริมฝั่งแม่น้ำ Mosel (โมเซล) ที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส ไหลผ่านเมืองน้อยใหญ่ในประเทศลักเซมเบิร์ก และมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ ในเมืองโคเบลนซ์ประเทศเยอรมนี
เป็นเมืองตากอากาศเมืองหนึ่งในเยอรมนี เป็นที่ตั้งของศูนย์ผลิตไวน์ที่รู้จักกันดีในนาม Middle Moselle
เป็นอาคารที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของเมืองเบิร์นคาสเทล-ครูส อาคารอันโดดเด่นแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1416 มีอายุมากกว่า 600 ปี มีลักษณะเป็นอาคารที่มีฐานส่วนล่างเล็กกว่าช่วงบน แต่เดิมบ้านสร้างขึ้นด้วยวิธีนี้เพื่อให้รถต่างๆ เดินทางผ่านตรอกแคบๆ ที่วิ่งขนานไปกับตัวอาคารได้ อาคารแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของบาร์ไวน์มาตั้งแต่ปี 1970 และยังคงเปิดให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน
เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเหมาะสมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันตะวันตกได้สบายๆ ด้วยความครบครันของสาธารณูปโภคและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยเฉพาะด้านการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ตถือเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก
จัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมืองเก่านครแฟรงเฟิร์ต ตรงกลางจัตุรัสเป็นน้ำพุแห่งความยุติธรรม ด้านหน้าจัตุรัสโรเมอร์เป็นบ้านโครงไม้สมัยกลางที่ได้รับการบูรณะแล้ว ปัจจุบัน จตุรัสโรเมอร์ ยังคงความงามสง่ารายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
ถนนไซยน์ ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดค้าวัวควายขนาดใหญ่ และได้กลายมาเป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 ถึงกลางศตวรรษที่ 18 ถนนไซยน์ ค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อย จนในที่สุดเต็มไปด้วยที่พักและร้านค้า ทุกวันนี้ ถนนเส้นนี้เปิดให้คนเดินเท่านั้น ขนาบข้างด้วยแนวต้นไม้ คาเฟ่ และร้านฟาสฟู้ด กลายเป็นย่านการค้าที่มียอดขายสูงที่สุดในเยอรมัน และสูงเป็นอันดับสำคัญในยุโรป
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย