เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบารอค ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่ามาแต่โบราณ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ The sound of Music และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองชายแดนก่อนจะข้ามไปบาวาเรียของเยอรมณี เรียกว่าเป็นระยะทางแค่ปาหินไปถึง
ป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเมืองซาลล์บวร์ก เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในเป็นพระราชวังเดิม ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน ประกอบไปด้วยรูปปั้นและน้ำพุ เป็นสวนแบบบารอค เป็นหนึ่งในฉากคลาสสิค หนังเรื่อง The sound of music ภายในมีวังมิราเบลอยู่ด้วย หลังจากโดนไฟไหม้ ปัจจุบันปรับเป็นสถานที่ราชการ และนิยมใช้ในการจัดงานแต่ง และ จัดคอนเสิร์ต
เป็นถนนการค้าชื่อดังที่สุดของซาลซ์บูร์ก ที่เป็นที่รู้จักด้วยอาคารบ้านเรือนหน้าแคบจากสมัยกลาง รวมถึงบ้านเกิดและพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ซึ่งถนนช้อปปิ้งนี้เป็นย่านการค้าสำคัญของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว จุดเด่นของร้านค้าบนถนนเส้นนี้คือป้ายเหล็กที่แสดงสัญลักษณ์ของร้านที่แขวนไว้เหนือทางเข้าแต่ละร้านจะมีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นบ้านเกิดของโมสาร์ทจริงๆ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจได้สัมผัสโลกของศิลปินเอกพร้อมทั้งสัมผัสรูปปั้นโมสาร์ทแบบใกล้ชิด
เป็นทะเลสาบในหุบเขา อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย เยอรมนี ใกล้ชายแดนประเทศ ออสเตรีย ทะเลสาบเคอหนิกเซ แปลตรงตัวว่า King's Lake น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ ถือว่าเป็นน้ำทะเลสาบที่ใสที่สุด และสะอาดที่สุดในเยอรมนี
ล่องเรือชมทะเลสาบโคนิกเซ่ ซึ่งป็นทะเลสาบในหุบเขา อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย เยอรมนี ใกล้ชายแดนประเทศออสเตรีย โดยทะเลสาบเคอหนิกเซ มีความหมายที่แปลตรงตัวว่า King's Lake หรือทะเลสาบกษัตริย์ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ ไดชื่อว่าว่าเป็นน้ำทะเลสาบที่ใส และสะอาดที่สุดในเยอรมนี
เป็นเมืองระดับเทศบาลบริเวณแนวเทือกเขาแอลป์จุดหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ Königssee ในเขต Berchtesgadener Land ในบาวาเรียตรงบริเวณทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติเบิร์ชเทชการ์เดน ใกล้ๆ กับชายแดนออสเตรีย เป็นเมืองตากอากาศอันงดงามแห่งหนึ่งของเยอรมีน ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ
เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในพื้นที่ใจกลางเมืองอาร์มเซาของเยอรมนี ใกล้ๆ กับชายแดนออสเตรีย ที่นี่มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นแลนมาร์คทางภูมิทัศน์ที่สวยงามของนักจิตรกรยุโรป ด้วยที่ตั้งอันสวยงามของพื้นที่ธรรมชาติ กับเมืองในภูเขาที่งดงามอย่างลงตัว
เป็นหนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน อินส์บรูคแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบๆ ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์
เป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรูก ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารที่หลังคาของระเบียงถูกประดับด้วยกระเบื้องทองแดงเคลือบทอง
เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ของอินส์บรุคประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ตรงข้ามกับหลังคาทองคำ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและบ่ร๊อคแบบเก่า การประดับประดาด้วยปูนปั้นแบบโรยโคโค่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 และชื่ออาคารในปัจจุบันนั้นมาจากการตั้งชื่อตามเจ้าของอาคารที่ชื่อเซบาสเตียน เฮลลิ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารตั้งแต่ปี 1800 ถึง 1827
เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของกรุงเวียนนา ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐ เป็นตำหนักที่เคยใช้เป็นสถานที่พักของราชวงศ์ต่างๆ มาก่อนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ.1300 และยังเป็นที่พักของผู้มีอิทธิพลต่างๆ มากมายในออสเตรียมาก่อน
เป็นโบสถ์แบบโกธิกตั้งอยู่ในย่าน Altstadt ของเมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นประมาณปี 1553 โดยจักรพรรดิพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ปู่ของเขาซึ่งก็คือจักรพรรดิแมกซีมีเลียนที่ 1 พื้นที่ภายในประติมากรรมเยอรมันยุคเรอเนซองส์ โบสถ์แห่งนี้ยังมีสุสานของ Andreas Hofer หนึ่งในวีรบุรุษแห่งชาติของแคว้นทีโรลด้วย
เป็นสวนสาธารณะที่ให้ความร่วมรื่น อยู่ตรงข้ามพระราชวังฮอฟบูรก์ ที่มีเอกลักษณ์ที่ยอดโดม สีเขียวอันสง่างาม เดิมเป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิ สร้างขึ้นครั้งแรกปีคศ1460 และใช้เป็นพระราชวังที่แปรพระราชฐานในช่วงฤดูหนาว มีอาคารเรอเนสซองส์ที่ยิ่งใหญ่ สร้างในคศ1563ตามพระประสงค์ของจักรพรรดิแมกซิมิเลี่ยนที่1
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางยอดเขาอัลไพน์ บริเวณหุบเขาตรงแม่น้ำ Isar ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ของบาวาเรียประเทศเยอรมนี เป็นที่รู้จักในเรื่องบ้านทาสีที่มีสีสันและประวัติศาสตร์การทำไวโอลินที่โดดเด่นของประเทศซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงประมาณกลางศตวรรษที่ 17
เป็นเมืองพักตากอากาศเล็กๆ ในแนวหุบเขาของเยอรมันใต้ มีบ้านเมืองสวยแบบบาวาเรียแท้ ตามผนังของตึกต่างๆ ยังเป็นรูปเขียนเรื่องราวในคริสต์ศาสนาที่น่าชมยิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวและยังเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
กระเช้าต่อไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาซุกสปิตเซ่ ณ ระดับความสูง 2,970 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในแต่ละปีจะมีนักท่องเทียวมาที่นี่ ราว 500,000 คน
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ด้วยความสูง 2,962 เมตร ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในวันที่อากาศดีสามารถเห็นยอดเขาต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์ได้ชัดเจน และยอดเขามากกว่า 400 ยอด เห็นวิวได้ถึง 4 ประเทศคือออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลีและเยอรมนี ถือว่าเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งของการเล่นกีฬาฤดูหนาวของเยอรมัน โดยเฉพาะการเล่นสกี
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้นบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งจะติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองฟุสเซ่นนั้น เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พักซึ่งแต่ล่ะแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
เมืองเก่าแก่สไตล์บาวาเรียนของประเทศเยอรมัน ที่มีลักษณะเป็นเกาะโอบล้อมด้วยทะเลสาบคอนสแตนซ์ และฉากหลังของเมืองยังมีเทือกเขาแอลป์ตั้งตะหง่าน ซึ่งทําให้เมืองลินเดาเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันงดงามติดอันดับต้นๆของประเทศเยอรมัน
เป็นเมืองอุตสาหกรรมบนแนวชายฝั่งทางเหนือของทะเลสาบโบเดน ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศเยอรมนีในรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทิมแบร์ค บริเวณชายแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับประเทศออสเตรีย ปัจจุบันเฟรดดริคฮาเฟินเป็นหนึ่งในฐานการผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนเครื่องบินของแอร์บัส และบริษัทผลิตเครื่องยนต์เจ็ตยี่ห้อโรลส์-รอยซ์
ป่าดำแบล็คฟอเรสท์ เป็นภูมิภาคที่มีภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี มีพื้นที่กว่า 12,000 ตารางกิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันดีในความเป็นป่าทึบดิบชื้น เหตุที่ได้ชื่อนี้ก้อเพราะป่านี้เต็มไปด้วยต้นสนซึ่งขึ้นอย่างหนาแน่น จนมองดูเป็นสีดำ
เป็นเมืองตากอากาศริมทะเลสาบอันโด่งดังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศอันงดงามของป่าดำของประเทศเยอรมนี
หมู่บ้ํานอองกีเชม (Eguisheim) หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนุ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย
เมืองกอลมาร์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส บน “เส้นทางไวน์ของอาลซัส” และได้ชื่อว่าเป็น “capitale des vins d'Alsace” (เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส) กอลมาร์จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส” ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นสถานที่ที่คู่รัก มักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่าง กันและกัน ให้ท่านเดินเล่นเที่ยวชมความโรแมนติกของเมือง
เป็นเมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาคที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมด
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศฝรั่งเศสที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณ ภายในหมู่บ้านยังคงกลิ่นอายของเมืองแบบยุโรปกลางได้เป็นอย่างดี มีบ้านกึ่งไม้ซุงเรียงรายตลอดเส้นทางเดิน ประดับไปด้วยดอกไม้หลากสี ป้ายเหล็กดัดตกแต่งหน้าร้านค้าให้ดูมีมนต์ขลัง อาคารบ้านเรือนแต่ละหลังทาด้วยสีแบบพาสเทลแลดูกลมกลืนงดงามเป็นที่น่าประทับใจ
เป็นเมืองในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ติดชายแดนประเทศเยอรมนี ทำให้ที่ประวัติศาสตร์อันยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศที่นี่
มหาวิหารประจ าเมืองสตราสบูร์ก คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1176 ถึง 1439 สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูงามระหงโดดเด่นเห็นแต่ไกลและถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนมากเมืองหนึ่งของรัฐบาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก ด้วยบรรยากาศอันแสนโรแมนติก เสน่ห์ของตัวเมืองเก่าสตไล์บาโรก รวมไปถึงปราสาทโบราณที่มีความงดงาม นั่นจึงทำให้เมืองไฮเดลเบิร์กได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มาเยือนได้เป็นจำนวนมาก
เป็นปราสาทยุคกลางที่แข็งแกร่งแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบสาม โครงสร้างป้อมส่วนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ แม้ว่าจะเผชิญกับไฟไหม้ ฟ้าผ่า และสงครามมายาวนานนับศตวรรษ ในอดีตที่นี่มีทั้งแขกผู้มาเยือน นักโทษ และผู้มีเกียรติ สวนของปราสาท สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่สิบหก มีความสวยงามอย่างยิ่ง และเป็นการจัดสวนขั้นสูงที่ได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก
เป็นเมืองเล็กๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่มอบให้โรเธนเบิร์กเป็นถนนสายโรแมนติกตามเส้นทางระหว่างเมือง แฟรงค์เฟิร์ต และ มิวนิค จุดเด่นของถนนสายนี้ก็คือความน่าอนุรักษ์ของเมืองเก่า บ้านไม้ ประตู หน้าต่าง ที่ทาสีสันได้อย่างน่ารักและมีสไตล์คลาสสิคเป็นของตนเองโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มากมายเหมือนกับเมืองอื่นๆ มนต์เสน่ห์เหล่านี้ล่ะที่มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส
เมืองเก่าของเมืองรอเธนเบิร์กซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการรักษาสถาพของเมืองที่มีอายุยาวนานได้เป้นอย่างดีและยังมีความสวยงาม
เป็นเมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลกเมืองนี้
สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่ องจากถูกท าลายจากสงครามโลกครั้งที่2
เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสใจกลางเมืองวูรซ์เบิร์ก ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โกธิคตอนปลายในศตวรรษที่ 14 สภาพที่เห็นในปัจจุบันมาจากการบูรณะและสถาปนาใหม่ในช่วงปี 1962 หลังจากได้รับความเสียหายหนักโดยการโจมตีทางอากาศช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดน่าสนใจคือตัวโบสถ์มียอดแหลมที่ตั้งเด่นบนเส้นขอบฟ้าของเมือง กับตรงประตูทางเข้าจะมีรูปสลักที่ตกแต่งไว้ที่จั่วเป็นรูปสาวกของพระเยซูผู้เผยแพร่ศาสนาจำนวน 12 คน และรูปสลักของอดัมและอีฟที่สรรค์สร้างโดยทิลมัน ไรน์มันชไนเดอร์ ศิลปินและช่างฝีมือเอกในยุคกลาง
เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเหมาะสมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันตะวันตกได้สบายๆ ด้วยความครบครันของสาธารณูปโภคและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยเฉพาะด้านการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ตถือเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก
จัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมืองเก่านครแฟรงเฟิร์ต ตรงกลางจัตุรัสเป็นน้ำพุแห่งความยุติธรรม ด้านหน้าจัตุรัสโรเมอร์เป็นบ้านโครงไม้สมัยกลางที่ได้รับการบูรณะแล้ว ปัจจุบัน จตุรัสโรเมอร์ ยังคงความงามสง่ารายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
ประติมากรรมหินที่ทำขึ้นเพื่อแสดงความเครพ แด่ Justitia สตรีที่ถือดาบและสามารถเอาชนะ และทรงความยุติธรรม มันถูกสร้างขึ้นด้วยบรอนซ์ ในปี 1887 ตั้งอยู่ด้านหน้าของตึก ของเมืองนี้ ประติมากรรมนี้มีบทบาทสำคัญในพืธี พิธีบรมราชาภิเษก
อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของมหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ตอันเก่าแก่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ในพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักด์สิทธิ์มานานหลายศตวรรษ
ถนนไซยน์ ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดค้าวัวควายขนาดใหญ่ และได้กลายมาเป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 ถึงกลางศตวรรษที่ 18 ถนนไซยน์ ค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อย จนในที่สุดเต็มไปด้วยที่พักและร้านค้า ทุกวันนี้ ถนนเส้นนี้เปิดให้คนเดินเท่านั้น ขนาบข้างด้วยแนวต้นไม้ คาเฟ่ และร้านฟาสฟู้ด กลายเป็นย่านการค้าที่มียอดขายสูงที่สุดในเยอรมัน และสูงเป็นอันดับสำคัญในยุโรป
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย