เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นเมืองทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์อันโด่งดัง อยู่ถัดจากนอยเฮาเซินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือไม่กี่กิโลเมตร บางครั้งอาจเรียกว่าไรน์ฟัลล์ตัดท์ตามชื่อของน้ำตก หรือมูนอทชตัดท์ตามชื่อป้อมปราการมูนอท
เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินที่สวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตกโดยรอบที่โดดเด่น
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับรางวัลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอีกด้วย ซูริคมีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นศูนย์กลางการเงินของโลกรวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย แวดล้อมด้วยแม่น้ำและทะเลสาบที่มีน้ำใสสะอาดจนสามารถดื่มได้ เมืองที่งดงามแห่งนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเที่ยวชมและรื่นรมย์กับบรรยากาศและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังเป็นมหานครแห่งวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์นี้
หนึ่งในสี่โบสถ์หลักที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซูริก โดยโบสถ์ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาลินเดนฮอฟ เนินเขาที่ตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง โดยด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 8.7 เมตร
เป็นถนนเลียบริมแม่น้ำลิมแม็ท มีที่ตั้งของร้านขายของฝาก โรงแรม และร้านอาหารมากมาย ที่นี่เป็นที่รู้จักในฐานะเป็นหนึ่งสถานที่จัดกิจกรรมเดินพาเหรดฉลองวันหยุดฤดูใบไม้ผลิของสวิส
เป็นเมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้วเมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลก ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทางที่เมืองซุกจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
ล่องเรือชมทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ ตัวทะเลสาบมีรูปร่างที่โค้งงอแบบซับซ้อน รอบๆ ทะเลสาบมีเส้นทางการเดินป่ามากมาย รวมทั้งเส้นทางขี่จักรยานพื้นราบ และเส้นทางจักรยานภูเขา
เป็นเมืองเล็กในเขตุลูเซิร์นของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตั้งแต่ศตรวรรษที่ 19 เพราะ ความสวยงามของเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำริกิ
เป็นรถไฟที่นำพานักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขาริกิ หนึ่งในภูเขาขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ข้างบนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบด้าน 360 องศา
หนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ที่ได้รับการยกย่องเป็น ราชินีแห่งภูเขา เพราะสามารถมองเห็นยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ที่ระดับความสูง 1,797 เมตร (5,896 ft)
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิน และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในฝรั่งเศส
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่าง แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม
ช้อปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ,ช็อคโกแล็ต ,ของซูวีเนียร์ต่างๆ และที่ไม่ควรพลาดคือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆที่มีชื่อเสียงของสวิสเซอร์แลนด์ จากร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์, กือเบอลิน, เอ็มบาสซี่ ฯลฯ
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
นั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นเขาฮาร์เดอร์คุม ภูเขาที่มีระดับความสูง 1,322 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ดื่มดำกับทัศนียภาพ 3 ขุนเขา ซึ่งท่านสามารถชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาได้ที่สะพานชมวิวบนยอดเขาและยังเป็นจุดชมวิวเมืองอินเทอร์ลาเก้นที่ขนาบด้วยทะเลสาบเบรียน์และทูน
เป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเมืองอินเทอร์ลาเก้น ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของสวิส ด้วยความสูงถึง 1,322 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้มองเห็นเมืองอินเทอร์ลาเก้น ทะเลสาบธูน และทะเลสาบเบรียนซ์ นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นยอดเขาทั้ง 3 ยอดอีกด้วย นั่นคือ ไอเกอร์(Eiger) เมินช์(Monch) และจุงเฟรา(Jungfrau)
เป็นพื้นที่ชนบทที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางขึ้นยอดเขาจุงเฟราที่สำคัญจุดหนึ่ง มีโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศอยู่หลายแห่งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามไม่แพ้พื้นที่รอบๆ
เป็นสถานีจุดเปลี่ยนรถไฟ เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาจุงฟราวหรือ Top of Europe 1 ในมรดกโลกทางธรรมชาติ ที่องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้กับความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
เป็นเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในสี่รางรถไฟในโลกที่ยังใช้งานระบบไฟแบบโบราณ มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา
มีความหมายว่า สาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร และเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่
เป็นถ้ำน้ำแข็งบนยอดเขาจุงเฟรา ที่ขุดเจาะลงไปใต้ธารน้ําแข็งถึง 30 เมตร ซึ่งว่ากันว่าน้ำแข็งที่อยู่ในไอซ์พาเลซนี้ไม่เคยมีวันละลาย ภายในมีการตกแต่งติดไฟสีสันสวยงามและมีตุ๊กตาแกะสลักน้ําแข็งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่ด้วย
เป็นธารน้ำแข็งที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” มีความยาวถึง 22 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย วันที่อากาศดีจากบนยอดเขาจุงเฟราจะสามารถเห็นวิวธารน้ำแข็งนี้ได้อย่างชัดเจน
ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่น น้ำตกทรุมเมลบาค อยู่ในภูเขาวนวนเป็นเกลียว เกิดจากธารน้ำแข็งมี 10 ชั้น และน้ำตก Staubbach น้ำไหลแรงและเย็นมากๆ เห็นมีฝูงแกะที่เขาเลี้ยงอยู่รอบๆ ส่วนถนนในหมู่บ้านของเมืองมีเส้นดียวขนานไปกับช่องเขา
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นพื้นที่ชนบทที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางขึ้นยอดเขาจุงเฟราที่สำคัญจุดหนึ่ง มีโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศอยู่หลายแห่งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามไม่แพ้พื้นที่รอบๆ
เป็นยอดเขาที่อยู่สูง 2,168 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเขตกรินเดอวาลต์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่มีชื่อเสียงจากการเป็นภูเขาสำหรับทำกิจกรรมหน้าหนาวต่างๆ อย่างการเล่นสกี รถเลื่อน และอื่นๆ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ด้วยการนั่งกระเช้า
นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขากรินเดลวาลด์ เฟียสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่อยู่สูง 2,168 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเขตกรินเดอวาลต์ เป็นอีกภูเขาท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เป็นทางเดินลัดเลาะริมหน้าผาสูงที่อยู่บนยอดเขากรินเดอวาลด์ เฟียสต์ ทัศนียภาพตะการตาของไอเกอร์ บริเวณจุดชมวิวพาโนรามาที่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวเทือกเขาที่สุดงามที่หนึ่งแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์
เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์สำคัญๆจำนวนมาก ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก
เป็นย่านเมืองเก่าของกรุงเบิร์น ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านเสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยว
ถนนนี้เต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ และเป็นหนึงในทางผ่านของนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมอายุ 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง
หอนาฬิกาแห่งนี้มีความโดดเด่นในสถาปัตยกรรมการสร้างด้วยความสวยงาม หน้าปัดทำด้วยทองแดงขนาดใหญ่และยังมีหน้าปัดขนาดเล็กอีกหนึ่งเรือนอยู่ด้านล่างภายในหน้าปัดนาฬิกาขนาดเล็กจะ แสดงเวลา วัน เดือน ปี และจักรราศี สร้างเพื่อเป็นประตูเมือง ไฮไลท์ที่ต้องรอชมทุกๆ 5 นาทีก่อนจะครบรอบชั่วโมงคือจะมีตุ๊กกาออกมาเต้นระบำ
เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ของกรุงเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในสไตล์กอธิคเมื่อปี 1421. มีความสูงอยู่ที่ 100.6 เมตร มหาวิหารนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์จริงๆ ในปี 1893 ที่นี่เป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ
เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม และเป็นประตูสู่เทือกเขาแอลป์ มีนาฬิกาดอกไม้ริมทะเลสาบและน้ำพุเป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรปอีกด้วย
เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงชายแดนของฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ มีอีกชื่อเรียกว่าทะเลสาบเลอม็อง (Lac Leman) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป มีพื้นที่หลักอยู่แถบๆ เมืองเจนีวา โดยกินพื้นที่บางส่วนของประเทศฝรั่งเศส ไปถึงเมืองโลซานน์ และสุดขอบทะเลอีกฝั่งที่เมืองมองเทรอซ์ นอกจากนี้ยังเคยมีเรือดำน้ำมาสำรวจทะเลสาบนี้แล้วถึง 4 ครั้ง
เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทะเลสาบเจนีวา น้ำพุแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปโดยปริยาย เจ็ตโดมีความสูงกว่า 140 เมตร พุ่งสู่อากาศด้วยความเร็วกว่า 200 กม / ชม. ว่ากันว่าละอองน้ำที่กระจายไปโดยรอบน้ำพุนั้นมีมากกว่า 500 ลิตรต่อวินาทีเลยทีเดียว
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเจนีวาที่ตั้งอยู่ในเขตสวนอิงลิชการ์เดน ดอกไม้รอบๆก็จะเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆตามเทศกาลและฤดูกาล มีชนิด 2 เข็ม และ 3เข็ม ขนาดตั้งแต่ 100-1,000 ซ.ม.หรือมากกว่า และหน้าปัดนาฬิกามีความชันได้ไม่จำกัดองศา สามารถใช้กระแสไฟฟ้าหรือพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ไฟฟ้าดับยังสามารถใช้งานได้ นาฬิกาดอกไม้นี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมีชื่อเสียงของเมืองเจนีวาในเรื่องของอุตสาหกรรมนาฬิกานั่นเอง
เป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเมืองเจเนวา ซึ่งสวนนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตลิ่งไม้เก่าแก่ข้างๆนั้นมีจุดสวนใจเพิ่มขึ้น เพราะเคยเป็นป่ารกน่ากลัว
เป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา มีความสวยงามโดยธรรมชาติ กับทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศ
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่หญ้ากว้างขวางและต้นไม้อายุเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเมืองโลซานน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริเวณกลางสวนมีศาลาไทย ที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยในต่างแดนแห่งนี้ และยังมีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา ที่ถือเป็นอีกจุดแลนมาร์คของสวน
พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (Olympic Museum) ตั้งอยู่เมืองโลซานน์ เมืองโอลิมปิก สวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับโลก
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต Vaud บนชายฝั่งทางเหนือของทะเลสาบเจนีวาโดยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองโลซานน์ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่เคยมาเยือนต่างก็ขนานนามให้เมืองเวเว่ย์ เป็น "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera)"
เป็นเมืองเล็กๆ แสนน่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบแสนสวยที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ริมจุดตะวันออกของทะเลสาบเจเนวา ซึ่งเป็นปราสาทที่ล้อมด้วยน้ำ หรือเรียกได้ว่าเป็นเกาะเล็กซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งสวิสและยุโรป ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ล่องผ่านทะเลสาบเจนีวา ภายหลังปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ทำให้ Lord Byron เกิดแรงบันดาลใจในการประพันธ์บทกวีโรแมนติกเรื่อง "The Prisoner of Chillon" ซึ่งมาจากชีวิตจริงของ ฟรองซัว เดอ โบนีวาร์ นักเทศน์จากเจนีวา ที่ถูกจองจำอยู่ในปราสาทแห่งนี้และภายหลังได้ถูกปล่อยตัว
เมือนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ความสูง 1,620 เมตรจากระดับน้ำทะเล และสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของหมู่บ้านสวิสโบราณ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับสกีที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องความสวยงาม และในเรื่องราคาค่าครองชีพที่แพงทั้งๆ ที่เป็นเมืองเล็ก
เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ใช้เดินทางขึ้นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น เดินทางขึ้นสู่สถานีกระเช้าไฟฟ้าที่สูงที่สุดในยุโรป ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีซึ่งผู้เดินทางสามารถชมวิวของท้องฟ้า และยอดเขาที่ปกครุมไปด้วยหิมะ
เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในเทือกเขาแอลป์ มีรูปทรงปิรามิด ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4,478 เมตร เขาลูกนี้ด้านหนึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศสวิส อีกด้านหนึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศอิตาลี
เมือนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ความสูง 1,620 เมตรจากระดับน้ำทะเล และสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของหมู่บ้านสวิสโบราณ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับสกีที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องความสวยงาม และในเรื่องราคาค่าครองชีพที่แพงทั้งๆ ที่เป็นเมืองเล็ก
เป็นเส้นทางรถไฟที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาจากต่างประเทศมักจะมาใช้บริการรถไฟนี้ในการท่องเที่ยว โดยจะมีชั้นบริการ 2 ชั้น ซึ่งความแตกต่างของ 1st class กับ 2nd class ก็อยู่ที่ความสะบายของที่นั่ง โดยเฉพาะขนาดกระจกของ 1st class จะมีขนาดใหญ่กว่ามากทำให้เห็นทิวทัศน์ได้ชัดเจน นอกจากนั้นยังมีกระจกด้านบนเป็นแบบ Panorama ด้วย
จะเป็นทัศนียภาพของยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งในเส้นทาง Furka-Oberalp Bahn ที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์
เป็นเมืองแสนสวยเล็กๆ น่ารักๆ ในหุบเขา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ และเป็นเมืองพักผ่อนของนักสกีทั่วโลก ในยามหน้าสกี ที่นี่จะเต็มไปด้วยนักสกีที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ หากแต่หมดฤดูสกี เมืองที่นี่จะเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ภายในเมืองมีร้านค้า และที่พักต่างๆ มากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
เป็นเมืองรีสอร์ทหรูในหุบเขา Engadine ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1775 ม. เหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุดที่ระดับ 4049 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้เพียงไม่กี่กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับกลุ่มคนชั้นสูง และมีลานสกีที่ราคาแพงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
เส้นทางรถไฟเส้นนี้ข้ามเขตุแดนสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี เป็นเส้นทางที่เน้นเรื่องการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งหิมะ และทุ่งหญ้า
เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ในแคว้นเวทติน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี โดยทำหน้าที่เป็นเมืองชายแดนระหว่างประเทศอิตาลีและสวิส ภายในเมืองนี้มีบ้านเรือนสไตล์อิตาเลียนริมทะเลสาบ และวิลล่าเรียบหรูแสดงถึงฐานะของผู้ครอบครอง โดยเน้นความเรียบง่ายท่ามกลางบรรยากาศแห่งธรรมชาติ ทั้งมีทั้งต้นไม้ ดอกไม้ สวนน้ำ น้ำพุ ทะเลสาบ เนินเขาที่ล้อมรอบ ทำให้ดูโดดเด่น
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
ที่นี่มีสิ่งสะสมทางโบราณคดีและเงินเหรียญโบราณที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีบ้านส่วนตัวอีกสองหลัง (Palazzo Bagatti Valsecchi และ Poldi Pezzoli) ซึ่งอาจจะไม่ใช่ปราสาทขนาดใหญ่ แต่บ้านเหล่านี้ได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์โดยจัดแสดงสิ่งทอ เครื่องประดับตกแต่ง และภาพวาด ซึ่งมีคุณค่าแก่การเยี่ยมชม
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าแบบอาคารกระจกเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย มมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองจากที่นี่ก็ได้
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย