เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนานาชาติเกาสง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินเกาสง” เป็นสนามบินหลักของเมืองเกาสง (Kaohsiung) ประเทศสาธารณรัฐจีน (Republic of China) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ไต้หวัน (Taiwan) เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และถือเป็นสนามบินหลักของภูมิภาคทางฝั่งใต้ของเกาะไต้หวันอีกด้วย แต่เดิมสนามบินแห่งนี้เคยเป็นฐานทัพอากาศของจักรวรรดิญี่ปุ่น ก่อนจะถูกปรับมาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2508 และพัฒนาศักยภาพจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินหลักของประเทศในเวลาต่อมา
ไนท์มาร์เก็ตทีน่าสนใจทั้งแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้าที่ทันสมัยราคาไม่แพง อาหารทานเล่น ของกิน เนื่องจากอยู่ติดกับมหาวิทยาลัย ดังนั้นพวกแฟชั่นจะเน้นกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษา รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ต์ต่างๆ ก็มีให้เลือกมากมาย
พายสับปะรดถือเป็นของฝากห้ามพลาดเลย ที่ถ้าเราได้มาเยือนไต้หวันแล้วทุกคนเป็นต้องซื้อกลับบ้าน
มีต้นแบบมาจากพระราชวังโบราณในกรุงปักกิ่ง เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดิมชื่อว่า "พิพิธภัณฑ์จง ซาน" ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "พิพิธภัณฑ์กู้กงแห่งชาติ" ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บวัตถุและผลงานทางศิลปะของจีนโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 5000 ปี
มีลักษณะเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเล เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วยโขดหินที่มีรูปทรงแปลกตาและงดงาม ซึ่งเกิดจากการกัดกร่อนของน้ำทะเลลมทะเล ทำให้ทรายมีรูปร่างต่าง ๆ เช่น หินเศียรราชินี และรองเท้าเทพธิดา รูปเทียน ดอกเห็ด เต้าหู้ รังผึ้งซึ่งมีชื่อเสียงทั่วทั้งเกาะไต้หวัน และ ทั่วโลก
หมู่บ้านโบราณฉือเฟิ่น (Shifen Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองผิงซี เป็นหมู่บ้านที่มีทางรถไฟพาดผ่านกลางหมู่บ้าน ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งที่แห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการปล่อยโคมลอย หรือ โคมขงหมิง โดยทุกๆปี ที่แห่งมีจะมีการจัดเทศกาล PINGXI SKY LANTERN FESTIVAL ในวันหยวนเซียว หรือวันที่ 15 ของเดือน 1
ในไต้หวันจะมีเทศกาลโคมประจำปีซึ่งมีการปล่อยโคมลอยสู่ท้องฟ้าทั้งยามกลางวันและยามราตรี พร้อมใจเขียนคำอธิษฐาน และส่งความปรารถนาดีของพวกเขาสู่สวรรค์ โดยเฉพาะบริเวณหมู่บ้านโบราณฉื่อเฟิ่นกับสถานีรถไฟผิงซีที่ถือเป็นจุดไฮไลท์ในการจุดโคมลอยสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อกันว่าโคมลอย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โคมขงหมิง” ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยขงเบ้ง ที่ปรึกษาด้านการทหารคนสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารของกองทัพ
แวะช้อปที่ร้านเครื่องสำอางยอดนิยม COSMETIC OUTLET สวรรค์ของนักช้อปชาวไทย เพื่อเลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ ROJUKISS มีราคาถูกกว่าที่เมืองไทยเกือบเท่าตัว และบางผลิตภัณฑ์ยังไม่มีขายในไทย เป็นแหล่งรวมเครื่องสำอางขนาดใหญ่ที่มีเครื่องสำอางให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างจุใจทุกชนิด และทุกแบรนด์
อีกหนึ่งย่านช็อปปิ้ง ชื่อดังแห่งไทเป พอๆ กันกับสยามสแควร์บ้านเรา เรียกว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งของวัยรุ่น เป็นที่รวมแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับต่างๆ รวมกันอยู่ที่นี่
วัดหลงซาน หรือบางที เราจะได้ยินว่า หลงซานซื่อ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในไทเป ชื่อไทย จะชื่อว่าวัดเขามังกร วัดหลงซานถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1738 เมื่อสงครามโลก วัดเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดพลาดเป้า พอสงครามยุติ ทางการก็เลยได้ทำการซ่อมแซมวัด บูรณะขึ้นมาใหม่
เป็นสร้อยที่มีพลังพิเศษช่วยในการปรับสมดุลในร่างกาย ซึ่งสามารถปรับสภาพประจุลบ-บวกในร่างกายให้สมดุลระบบไหลเวียนโลหิตดีช่วยให้ร่างกายสดชื่นลดอาการปวด ซึ่งสินค้านี้เป็นสินค้าส่งออกชื่อดังของไต้หวัน
ตลาดปลาไทเป เป็นตลาดขายปลาและอาหารทะเลสดๆ และเป็นตลาดติดแอร์ มีขายอาหารทะเลทั้งแบบสดๆ และแบบสำเร็จที่พร้อมรับประทานได้ทันที ท่านสามารถเลือกซื้อ ชิมและลิ้มลอง ทั้งซูชิ ซาเซมิ ปลาแซลมอนสดๆ ปูอลาสก้า หอยนางรมสด กุ้ง หอยเซลล์ ข้าวปั้นหน้าต่างๆ ขนม ผลไม้ ที่พร้อมรับประทานได้เลย
ชาอู่หลงมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายในหลายด้านนอกเหนือจากชาอู่หลงลดความอ้วน เช่น แก้กระหาย เพิ่มความสดชื่น ต่อต้านแบคทีเรียในช่องปาก ป้องกันฟันผุ ป้องกันโรคหัวใจ ลดอาการหอบหืด ขับสารพิษในร่างกาย และอีกมากมายนานัปการ แต่ประโยชน์ที่เรียกว่าเด่นชัดที่สุดน่าจะเป็นการที่ชาอู่หลงมีส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยในการควบคุมความอ้วน ลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด และลดระดับคลอเรสเตอรอลได้เป็นอย่างดี
อาคารไทเป 101 เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกอยู่ช่วงหนึ่ง จนกระทั่งถึงวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 จึงถูกเบิร์จดูไบแซงขึ้นสูงกว่า ตั้งอยู่ที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน มีความสูง 509.2 เมตรจากพื้นดิน มีจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น โดยรูปแบบของอาคารเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีลดอันตรายจากแรงลม อันทันสมัยตามหลักวิทยาศาสตร์ กับการตกแต่งด้วยรูปหัวมังกรที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้านทุกปล้องเพื่อขับไล่ภูติผีปิศาจ ตามหลักความเชื่อทางไสยศาสตร์จากคำบอกเล่าของซินแส
หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่ในฮอตสปอตสำหรับการท่องเที่ยวประเทศไต้หวัน โดยชื่อเสียงของหมู่บ้านสายรุ้งแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ หวง หยุง ฝู (Huang Yung-fu) ทหารผ่านศึกที่ได้สร้างภาพวาดที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่สวยงาม และสร้างความมีชีวิตชีวาจากสีสันของภาพวาดที่เริ่มจากบ้านหลังหนึ่งไปสู่บ้านอีกหลายๆหลังในเขตหมู่บ้านสายรุ้ง โดยภาพวาดส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับบุคคลที่มีชื่อเสียงในทีวี, พืชสัตว์ และรายการอื่น ๆ เช่นนก, กระบือ และคนพื้นเมือง เป็นต้น
ตลาดฝงเจี่ยไนท์มาเก็ต เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทจง เป็นตลาดที่สามารถเลือกหาซื้อสินค้าคุณภาพดี อาทิเช่น รองเท้า เสื้อผ้าของแบรนด์ดังๆ ได้ในราคาถูกที่ตลาดแห่งนี้
หรือมูลนิธิแสงพุทธธรรมเมืองเกาสยง ปัจจุบันวัดฝอกวงซันมีพระสงฆ์มากกว่า ๑,๔๐๐ รูป (นับรวมทั้งชาย-หญิง) วัดแห่งนี้มีอาณาเขตกว้างขวางปกคลุมภูเขาทั้งลูก นอกจากมีอาณาบริเวณมากมายแล้วภายในตัววัดยังมีการก่อสร้างโบถส์ที่สวยงามและรูปปั้นพระอรหันต์หลายร้ององค์ และยังมี อนุสรณ์สถานพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนที่เปิดใหม่ ซึ่งเป็นกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้
เจดีย์เสือมังกร (Dragon and Tiger Pagodas) ตั้งอยู่ที่เกาสง เมืองทางใต้ของไต้หวัน เจดีย์เสือและมังกรมีความสูง7ชั้น มีการสร้างมังกรและเสือสำหรับเป็นทางเข้าออก เชื่อกันว่าหากได้เดินลอดเข้าประตู ออกประตูเสือ จะทำให้เกิดความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ลอด ภายในเจดีย์จะมีบันไดวน 2 อันสำหรับขึ้นและลง เมื่อเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดจะเป็นจุดชมวิวบริเวณรอบๆสระบัวที่สวยงามมาก นอกจากนี้ก็จะมีรูปปั้นและภาพวาดเรื่องราวต่างๆตามความเชื่อของลัทธิเต๋า เช่น นรก สวรรค์ ฯลฯ
ท่าอากาศยานนานาชาติเกาสง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินเกาสง” เป็นสนามบินหลักของเมืองเกาสง (Kaohsiung) ประเทศสาธารณรัฐจีน (Republic of China) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ไต้หวัน (Taiwan) เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และถือเป็นสนามบินหลักของภูมิภาคทางฝั่งใต้ของเกาะไต้หวันอีกด้วย แต่เดิมสนามบินแห่งนี้เคยเป็นฐานทัพอากาศของจักรวรรดิญี่ปุ่น ก่อนจะถูกปรับมาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2508 และพัฒนาศักยภาพจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินหลักของประเทศในเวลาต่อมา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย