เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคุนหมิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 25 กม. เปิดให้บริการแก่พี่น้องชาวเมืองคุนหมิงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา เป็นศูนย์กลางการบินขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติการก่อสร้างในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 11 (ปี 2549 - 2553) และเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน รองจากท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง
เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ต้าหลี่ มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาชางซานทางด้านตะวันตก และทะเลสาบเอ๋อไห่ทางด้านตะวันออก เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวไบ๋และชาวอี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ที่นี่เป็นเมืองโบราณทางตะวันตกของคุนหมิง ห่างมา 400 กิโลเมตร มีกำแพงล้อมรอบ และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของจีน ด้านหนึ่งติดเทือกเขาชางซานที่สูง 4,000 เมตร อีกด้านติดบึงเอ๋อไห่ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของจีน ถือเป็นชัยภูมิที่หาเมืองอื่นใดมาเทียบได้ยาก และด้วยความสูง 1,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดทั้งปี.
เป็นหนึ่งในวัดใหญ่ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ให้ท่านได้ขอพร เรื่องการเงิน เพื่อให้เงินทองไหลมาเทมา สำหรับคนปีชงขอพรไม่ให้เกิดการขัดสนเรื่องเงินทอง เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ภาย ในวัดสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และมนต์ขลังอันเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมของ ชาวจีนที่ดูมีเสน่ห์ในแบบฉบับของชาวจีน ซึ่งภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่ชาวมาเก๊าเคารพนับถืออยู่หลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 3 ยุค ที่มีประดิษฐานอยู่ด้วยกัน 3 องค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาทางพระพุทธศาสนาที่ว่า มี อดีต ปัจจุบัน และอนาคตมีพระยูไล ที่คนมาเก๊าให้ความเคารพนับถือมากราบไหว้ขอพรกันเยอะ และองค์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษเห็นจะเป็น องค์เจ้าแม่กวนอิม ที่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดเจ้าสาวของจีนที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างงดงาม
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าลี่ที่โดดเด่นงดงาม ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อไห่ ประกอบด้วยเจดีย์สีขาวสวยงาม 3 องค์โดยองค์กลางมีความสูงถึง 70 เมตรซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีลักษณะเหมือนกับเจดีย์ในเมืองซีอาน ส่วนองค์เล็กอีก 2 องค์ สร้างเพิ่มเติมทีหลังในสมัยราชวงศ์หยวน ซึ่งเป็นช่วงที่พุทธศาสนากำลังได้รับความนิยมสูงสุด ในประเทศจีน มีอายุกว่า 1,000 ปี และได้มีการบูรณะเรื่อยมา
หมู่บ้านซีโจว เป็นหมู่บ้านของชาวไป๋ ให้ท่านได้ชมประเพณีและวัฒนธรรมของระบำพื้นเมืองชาวไป๋ ชมวิธีการชงน้ำชา 3 ถ้วย 3 รส ที่มีรสชาติแปลกและแตกต่างกันไป นำท่านเดินทางสู่ เมืองลี่เจียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาทางตอนเหนือของต้าลี่ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนานซึ่งมีพรมแดนติดกับอาณาเขตหนาซี ของเมืองลี่เจียง และอาณาจักรหยี ของเมืองหนิงหลาง ซึ่งอยู่ห่างจากนครคุนหมิงถึง 700 กิโลเมตร เมืองนี้อุดมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามของป่าไม้, ทุ่งหญ้า, ภูเขา, ทะเลสาบและสัตว์นานาชนิด ด้วยภูมิประเทศรวมกับทัศนีย์ภาพที่งดงาม สถานที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ ดินแดนแห่งความฝัน ”
เป็นวัดที่ใหญ่และสำคัญของเมืองแชงกรีล่า โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือไปประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นวัดนิกายลามะแบบธิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี วัดนี้สร้างในสมัยทะไลลามะองค์ที่ 5 ช่วงศตวรรษที่ 18 ในสมัยจักรพรรดิ์คังซี แห่งราชวงศ์ชิง โดยสร้างจำลองแบบจากพระราชวังโปตาลาในกรุงลาซาเอามาไว้ในวัดนี้
ช่องแคบเสือกระโดด เป็นช่องแคบช่วงแม่น้ำแยงซีไหลลงมาจากจินซาเจียง (แม่น้ำทรายทอง) เป็นช่องแคบที่มีน้ำไหลเชี่ยวมาก ช่วงที่แคบที่สุดประมาณ 30 เมตร ตามตำนานเล่าว่า ในอดีตช่องแคบเสือนี้สามารกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ จึงเป็นที่มาของ “ ช่องแคบเสือกระโดด ”
เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาทางตอนเหนือของต้าลี่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนานกว่า 800 ปี และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าหน่าซี (Naxi) ที่อพยพมาจากทิเบต มีเสน่ห์อันงดงาม ไม่ว่าจะด้วยเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมเฉพาะถิ่นอันมีเอกลักษณ์ โดยมีโครงสร้างทางสังคมที่ผู้หญิงมีความเป็นใหญ่
สระมังกรดำนี้มีที่มาจากตำนานเล่าขานกันว่าในอดีตมีคนพบเห็นมังกรดำปรากฏกายใต้น้ำบ้าง ผุดขึ้นมาจากสระน้ำบ้าง บรรยากาศภายในสวนนั้นเงียบสงบและงดงามด้วยบึงน้ำใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกได้อย่างชัดเจน ว่ากันว่าทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกที่มองจากบริเวณสระมังกรดำเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน
เมืองโบราณลี่เจียงหรือเมืองโบราณต้าเหยียนเจิ้ง เป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาในสมัยต้นราชวงศ์ถัง ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ตัวเมืองตั้งอยู่ท่ามกลางการโอบล้อมด้วยสายนํ้าน้อยใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงามจนได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยองค์การยูเนสโก
ภูเขานี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลี่เจียง เป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี ทิวเขาแห่งนี้ประกอบไปด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งหุบห้วย ธารน้ำ แนวผา และทุ่งหญ้าน่าซี ทิวเขาแห่งนี้เมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายมังกรกำลังเลื้อย สีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นดูราวกับหยกขาว ที่ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้า คล้ายมังกรขาวบนฟากฟ้า มีจุดชมวิวบนยอดเขาที่สามารถชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติบนจุดที่สวยงามที่สุดของที่นี่
เป็นกระเช้าที่นำพาท่านขึ้นสู่บริเวณจุดชมวิวบนเขาหิมะมังกรหยก ที่ความสูงระดับ 4,506 เมตร ระหว่างทางจะได้ชมวิวของภูเขาหิมะอันงดงามสุดบรรยาย ให้ท่านได้สัมผัสความหนาวเย็นและยิ่งใหญ่ของภูเขาแห่งนี้
เป็นธารน้ำที่มีลักษณะเป็นเชิงชั้นหินปูนสีขาวลดหลั่นลงมางดงาม ดุลจำลองความงดงามของอุทยานธารขาวกับหลวงหลงมารวมกัน ในลักษณะของน้ำตกหินปูนขนาดเล็กและภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นพื้นหลัง น้ำที่ไหลผ่านหุบเขานี้คือน้ำที่ละลายจากหิมะบนยอดเขาหิมะมังกรหยก เนื่องจากจุดนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามที่มีฉากหลังคือภูเขาหิมะมังกรหยกมีน้ำตก และแม่น้ำกึ่งทะเลสาบจึงเป็นที่นิยมของศิลปินนักวาดภาพและคู่รักที่มักจะมาถ่ายภาพที่น่าประทับใจ
เป็นโชว์ที่ผู้กำกับชื่อก้องโลก จำง อวี้ โหมว ได้เนรมิตให้ภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลังและบริเวณทุ่งหญ้าเป็นเวทีการแสดง โดยใช้นักแสดงกว่า 600 ชีวิต ในการประสานการประกอบท่วงท่าต่างๆ ที่ดูสนุกและเร้าใจ
เป็นเมืองเอกในมณฑลยูนนานในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวนประชากรประมาณ 3,740,000 คน โดยมีประมาณ 1,055,000 คนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบเตียนฉือด้านทิศเหนือ เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี จึงถูกขนานนามว่า "นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ"
ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางเมืองคุนหมิง ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อได้เปิดตัวขึ้น เพราะสวนสาธารณะแห่งนี้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 3 ปี ซึ่งภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ก็มีไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ น้ำตก และ ทะเลสาบที่มีถึง 2 แห่ง ถือว่าเป็นธรรมชาติที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกอย่างหนึ่ง สวนน้ำตกแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มีความกว้างกว่า 400 เมตร และมีความสูงถึง 12.5 เมตร จึงทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดของเอเชียเลยก็ว่าได้
ตั้งอยู่บนภูเขาหมิงฟ่งซาน ด้านทิศตะวันออกจองตัวเมืองคุนหมิง ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะโดยอ๋อง หวูซันกุ้ย ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ในสมัยราชวงศ์ชิง ตำหนักหลังนี้มีความสูง 6.7 เมตร กว้างและยาว 6.2 เมตร สร้างขึ้นด้วยทองเหลืองทั้งหลัง น้ำหนัก กว่า 250 ตัน เป็นสิ่งปลูกสร้างทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีกำแพงและป้อมล้อมรอบตำหนักเสมือนกำแพงที่ล้อมรอบเมือง มีกระบี่เจ็ดดาวน้ำหนัก 12 กิโลกรัม และดาบกายสิทธ์น้ำหนัก 20 กิโลกรัมถูกเก็บรักษาไว้ในศาลา
ถนนคนเดินจินปี้ลู่ ถนนที่เก่าแก่ที่สุดใจกลางนครคุนหมิง ซี่งสัญลักษณ์ของถนนคนเดินแห่งนี้ก็คือซุ้มประตูม้าทอง และซุ้มประตูไก่มรกต ตั้งอยู่ตอนกลางของถนน ซึ่งภาษาจีนเรียกว่าจินหม่าและปี้จีจึงเอาคำย่อ “จินปี้” มาขนานนามถนนว่าจินปี้ลู่ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย ในถนนย่านถนนจินปี้ลู่แห่งนี้เป็นแหล่งเสื้อผ้าแบรนด์เนม ทั้งของจีนและต่างประเทศ เครื่องประดับอัญมณีชั้นเยี่ยม ร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารพื้นเมือง ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายของที่ระลึกต่างๆมากมาย
เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อที่หนึ่งในคุนหมิง มีจุดเด่นคือซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่หยกด้านหน้าถนน ซึ่งภาษาจีนเรียกว่าจินหม่าและปี้จีจนเป็นที่มาของชื่อถนนแห่งนี้ ซุ้มของถนนนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุร่วม 400 ปี
เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคุนหมิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 25 กม. เปิดให้บริการแก่พี่น้องชาวเมืองคุนหมิงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา เป็นศูนย์กลางการบินขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติการก่อสร้างในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 11 (ปี 2549 - 2553) และเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน รองจากท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี