เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นปราสาทยุคกลางที่แข็งแกร่งแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบสาม โครงสร้างป้อมส่วนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ แม้ว่าจะเผชิญกับไฟไหม้ ฟ้าผ่า และสงครามมายาวนานนับศตวรรษ ในอดีตที่นี่มีทั้งแขกผู้มาเยือน นักโทษ และผู้มีเกียรติ สวนของปราสาท สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่สิบหก มีความสวยงามอย่างยิ่ง และเป็นการจัดสวนขั้นสูงที่ได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก
เป็นเมืองหลวงของราชรัฐลักเซมเบิร์ก ตั้งอยู่ใจกลางของยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่ห่างจากกรุงบรัสเซลส์ 188 กม., กรุงปารีส 289 กม., และโคโลญ 190 กม
ที่นี่ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี 1613 การก่อสร้างเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์โกธิกผสมเรอเนซองส์ โดยมีจุดเด่นคือยอดแหลมสูง 3 ยอดที่มองเห็นได้แต่ไกล ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น โบสถ์คริสต์คาทอลิก ได้มีการก่อสร้างต่อเติมและบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง จนมีขนาดใหญ่ขึ้น และในปี 1870 ได้รับการยกระดับเป็นมหาวิหาร Cathedral of Notre – Dame ซึ่งถือเป็นมหาวิหารแห่งเดียวในประเทศลักเซมเบิร์ก
เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของสหภาพยุโรป เมืองหลวงของกรุงเบลเยี่ยมแห่งนี้ถือได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบเหมาะแก่การเป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดสำหรับนักเดินทางที่ปรารถนาจะได้สัมผัสกับอารยธรรมตะวันตกที่มีความเป็นสากล
เป็นน้ำพุขนาดเล็กหล่อด้วยทองแดงเป็นรูปเด็กชายยืนเปลือยกายกำลังปัสสาวะใส่อ่าง มีความสูงประมาณ 61 ซ.ม. ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงบรัสเซลส์
เป็นจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโร้ค โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก้ ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983
เป็นสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศ ถือกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1958 ในงาน World Expo โครงสร้างเป็นเหล็ก มีความสูง 102 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 2,400 ตัน ในแต่ละอะตอมทำเป็นทรงกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 18 เมตร ห่อหุ้มด้วยอลูมิเนียม ที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย เมื่อยามต้องกับแสงอาทิตย์ ทรงกลมแต่ละทรงกลมจัดแบ่งเป็นสองชั้น
เมืองบรูจจ์ เป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลที่โด่งดังเมืองหนึ่งของประเทศเบลเยียม เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยคูเมืองถึงสองชั้น ซึ่งน่าจะเป็นการป้องกันข้าศึกศัตรูในสมัยก่อนวิธีหนึ่ง ในปัจจุบัน บ้านเรือน อาคาร และโบสถ์ ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดิม คือเฟลมมิชและเรเนซอง ที่ดูวิจิตรสวยงามดุจดั่งมนต์ขลัง
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลานเดอร์ตะวันออกในบริเวณเฟลมมิชของประเทศเบลเยียม เดิมตัวเมืองเริ่มจากการตั้งถิ่นฐานที่ปากแม่น้ำสเกลต์และแม่น้ำลูส ในยุคกลางเกนต์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในตอนเหนือของยุโรป ในปัจจุบันเป็นเมืองท่าและเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเกนต์
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีตำแหน่งที่ตั้งที่แม่น้ำ Rhine-Meuse-Scheldt delta ไหลผ่าน และเป็นใจกลางของการเดินทางทั้งรถไฟ, ถนน, เครื่องบิน และการเดินทางทางน้ำจึงถูกเรียกกันว่า “Gateway to Europe” มีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์
1 ในสัญลักษณ์ของเมืองมีถึง 40 หลัง ตั้งต่อเรียงกัน 45 องศา ใจกลางเมืองรอทเทอดัม Cube Houses การออกแบบของเขาต้องการนำเสนอถึงบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งบ้าน และเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ได้
เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากกรุงอัมสเตอร์ดัม และรอตเทอร์ดาม โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและการพิมพ์ เป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ "ศาลโลก"
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นศูนย์กลางการค้าดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัม 29 กม. ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์สามารถเพาะพันธุ์ดอกทิวลิปได้มากกว่า 3,000 ชนิด มีสีมากว่า 400 สี ปัจจุบันมีการส่งออกดอกไม้มีมากไปกว่าร้อยประเทศทั่วโลก เมืองลิซเซยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมดอกไม้
เป็นสวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยทิวลิปที่มีมากกว่า 7 ล้านต้นในแต่ละปี รวมทั้งไม้หัวอื่นๆ เช่น ลิลลี่ แดฟโฟดิล นาซิสซัส และไฮยาซินธ์ จะออกดอกบานสะพรั่งดูละลานตา สวนได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อันเก่าแก่ มีทางเดินอันร่มรื่น มีงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำและน้ำพุ มีศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีตำแหน่งที่ตั้งที่แม่น้ำ Rhine-Meuse-Scheldt delta ไหลผ่าน และเป็นใจกลางของการเดินทางทั้งรถไฟ, ถนน, เครื่องบิน และการเดินทางทางน้ำจึงถูกเรียกกันว่า “Gateway to Europe” มีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์
เป็นหมู่บ้านกังหันลมที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือห่างจากอัมสเตอร์ดัม มีการอนุรักษ์กังหันลม และบ้านเรือนดั้งเดิมของฮอลแลนด์ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษงานไม้
โรงงานรองเท้าไม้ เป็นโรงงานที่ผลิตรองเท้าจากไม้พลับเพลา ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะว่าประเทศเนเธอร์แลนด์(ฮอลแลนด์)เป็นประเทศอยู่ในเขตที่จัดได้ว่ามีความชื้นสูง ชาวดัสต์จึงคิดประดิษฐ์รองเท้าที่มีประสิทธิภาพกันความชื้นได้สูง และรองเท้าไม้นี่ยังมีอายุการใช้งานที่นานอีกด้วย ที่นี่ยังมีรองเท้าที่ทำขายหากท่านใดต้องการซื้อเป็นที่ระลึกก้อสามารถซื้อได้ มีหลายสี หลายลวดลาย และหลายขนาด หากท่านใดประสงค์อยากได้พวงกุญแจเป็นที่ระลึกหรือของฝากแก่ญาติที่บ้านก็มีอีกเช่นกัน
บางครั้งมักถูกเรียกว่า "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองประมงทางทะเลที่มีความโดดเด่นในเรื่องของท่า เรือและหมู่บ้านชาวประมงอันแสนคึกคัก รวมไปถึงลักษณะการแต่งกายในแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีตำแหน่งที่ตั้งที่แม่น้ำ Rhine-Meuse-Scheldt delta ไหลผ่าน และเป็นใจกลางของการเดินทางทั้งรถไฟ, ถนน, เครื่องบิน และการเดินทางทางน้ำจึงถูกเรียกกันว่า “Gateway to Europe” มีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์
เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่พื้นที่ใจกลางเมือง และชื่อของจัตุรัสมีความเกี่ยวพันอย่างมากกับชื่อของอัมสเตอร์ดัม ซึ่งมีที่มาจาก ‘เขื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำอัมสเตล โดยเขื่อนแห่งแรกถูกก่อสร้างขึ้นในบริเวณจัตุรัสเมื่อปีคริสตศักราช 1200 และปัจจุบันจัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง
เป็นเรือหลังคากระจก ที่จะล่องไปตามลำคลองของแม่น้ำอัมสเทล ให้ได้เห็นบ้านเรือนแบบชาวดัชต์ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 มีเอกลักษณ์พิเศษจะเป็นอาคารทรงแคบ ที่มีตะขออยู่ชั้นบนสุดของอาคารเอาไว้ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ซึ่งระหว่างเส้นทางล่องเรือผ่านบ้านเรือที่จอดอยู่ริมคลองที่มีอยู่มากถึง 2,500 หลัง
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหพันธรัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลียและเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์โคโลญจน์ เมืองโคโลญจน์เป็นที่มาของน้ำหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าออดิโคโลญจน์ ทั้งนี้เพราะผู้ผลิตน้ำหอมชนิดนี้ตั้งอยู่ในเมืองนี้
เป็นมหาวิหารคริสต์โรมันคาทอลิกที่สำคัญในเมืองโคโลญจน์ เป็นสถานที่ประทับของอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญจน์ สถานที่นี้มีชื่อเสียงในฐานะเป็นที่ศาสนสถานนิกายเยอรมันคาทอลิก เพื่อเป็นสถานที่ประพิธีกรรมของสามมหากษัตริย์แห่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่เก็บหีบสามกษัตริย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้
ย่านถนนชิลเดอร์กัซเซ่เลือกซื้อสินค้า เสื้อผ้า รวมทั้งกระเป๋า สินค้าแบรนด์เนม และของฝากและที่ระลึก ในย่านถนนช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อของเมืองโคโลญจน์
เป็นเมืองริมแม่น้ำไรน์ที่ถือเป็นท่าเรือจุดขึ้นลงสำคัญที่หนึ่ง และเป็นเมืองริมแม่น้ำที่มีมนต์เสน่ห์อันงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ
เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเหมาะสมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันตะวันตกได้สบายๆ ด้วยความครบครันของสาธารณูปโภคและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยเฉพาะด้านการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ตถือเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก
เมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีขนาดใหญ่และทันสมัยแห่งหนึ่งในยุโรป ใช้ เงินทุนกว่า 4 พันล้านเหรียญยูโร
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย