Tourkrub Logo
ใส่ชุดยูกาตะ ไปเดินเล่นที่ เมืองเอโดะ คาวาโกเอะ (Kawagoe)

ใส่ชุดยูกาตะ ไปเดินเล่นที่ เมืองเอโดะ คาวาโอเกะ (Kawagoe)

ไปเที่ยวญี่ปุ่น ถ่ายรูปสวยได้ไม่เหมือนใคร ทัวร์ครับ แนะนำทีเที่ยว เมืองเอโดะ เสน่ห์โบราณของญี่ปุ่น ณ คาวาโอเกะ (Kawagoe)

ใส่ชุดยูกาตะ ไปเดินเล่นที่ เมืองเอโดะ คาวาโอเกะ (Kawagoe)
tk-icon
26 ต.ค. 2023
พาเที่ยว
9,857
views
ยูกาตะ-เมืองเอโดะ

คาวาโกเอะ (Kawagoe) เมืองเก่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเกียวโตน้อย โดยในเขตเมืองเก่าเรียกว่า โคเอโดะ (Koedo) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ห่างจากโตเกียวประมาณ 30 นาที เมืองคาวาโกเอะ หรือ ลิตเติ้ลเอโดะ (Little Edo) ที่ยังคงสภาพ มีเสน่ห์แบบโบราณ ให้เราได้เห็นจนถึงทุกวันนี้ ในสมัยก่อนสองข้างทางเต็มไปด้วยโกดังที่ใช้เก็บรักษาข้าว ปัจจุบันได้กลายเป็นร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังคงอนุรักษ์ให้มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อไป มาเที่ยวเมืองย้อยยุคสมัยเอโดะ ก็ต้องแต่งตัวให้เข้ากับเมือง คราวนี้เรามาแต่งชุด ยูกาตะ เดินชมเมืองย้อนยุคถ่ยรูปสวยๆ กัน

 

 

วิธีเดินทางไปเที่ยวเมืองเอโดะ

ง่ายมากจากสถานี Ikebukuro แล้วต่อรถไฟสาย Tobu-Tojo Line (Rapid หรือ Express) มาลงที่สถานี Kawagoe หรือ Kawagoeshi ก็ได้ทั้งสองสถานี ใช้เวลาเพียง 30 นาที โดยก่อนต่อรถไฟสาย Tobu-Tojo Line สามรถเข้าไปซื้อบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวที่ Information counter มีบัตรให้เลือก 2 แบบ คือ แบบบัตรรถไฟไป Kawagoe ธรรมดา ราคา 710 เยน และแบบพรีเมี่ยม ที่รวมทั้งตั๋วรถไฟ + ตั๋วรถบัสที่ขึ้นได้ไม่จำกัดในเมือง Kawagoe ราคา 970 เยน 

มาถึง Kawagoe ก่อนอื่นเลยต้องไปหาร้านเช่าชุด ยูกาตะ ใส่ตามความตั้งใจก่อน เล่าให้ฟังคร่าว ๆ นิดนึง ถึงความแตกต่างระหว่าง ยูกาตะ กับ กิโมโน โดยทั่วไปรูปแบบคล้าย ๆ กัน แต่ กิโมโนจะเป็นทางการ มากกว่า ส่วนชุดยูกาตะ จะลำรองมากกว่า และมักจะเอาไว้ใส่ช่วงหน้าร้อน เพราะทำจากผ้าฝ้ายเป็นส่วนใหญ่ เหมือนกิโมโนที่ส่วนมากทำจากผ้าไหม ในสมัยก่อนชุดยูกาตะเอาไว้ใส่อยู่บ้าน ส่วนกิโมโนเอาไว้ใส่ออกงานซึ่งราคาจะแพงกว่ามาก ส่วนชุดที่อยู่ตามร้านเช่าหรือร้านขายตามแหล่งท่องเที่ยวมีไว้ให้บริการก็มักจะเป็นชุดยูกาตะเช่นกัน ครั้งนี้เจอร้านที่คนไทยชอบไปใช้บริการชื่อว่า ร้านวิเวียน ไปตามแผนที่เลยหาไม่ยากไม่ไกลจากร้านสตาร์บัคเท่าไหร่ หน้าร้านจะมีหุ่นใส่ชุดยูกาตะตั้งโชว์ไว้แบบเห็นแล้วรู้เลย ร้านเล็ก ๆ ไม่ใหญ่แต่เจ้าของร้านใจดี บอกขอบคุณมาก คนไทยมาใช้บริการเยอะเลย ร้านมีผ้าให้เลือกมากด้วยเช่นกัน เราเลือกลายตามที่ชอบแล้วให้เขาใส่ชุดเลือกเครื่องประดับ ทำผม กระเป๋าญี่ปุ่น มีให้พร้อม ถ้ามาเที่ยวช่วงอากาศหนาวก็มีขนเฟอร์ให้ใส่พันคอด้วยนะ พร้อมแล้วไปตะลุยเมืองเอโดะน้อยกัน 

 

หลังจากเคลียร์เรื่องเช่าชุดยูกาตะ ก็ไปร้านของกินเติมพลังก่อนเลย และแน่นอนก่อนมาเราหาข้อมูลมาพบว่ามีร้านข้าวหน้าปลาไหลอร่อยมากที่เปิดมา 200 กว่าปีแล้ว ร้านที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยว Kawagoe ใครไม่เคยกินก็ต้องกินแล้วหละ ร้าน Ichinoya เดินหาไม่ยาก ร้านคนเข้าตลอดเวลา ยอดนิยมจริง ๆ ทุกเมนูเป็นปลาไหลหมด ที่นี่ใช้ปลาไหลจากแหล่งน้ำสะอาดตามธรรมชาติ คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าจะเพิ่มพลัง คลายความอ่อนล้า และจะช่วยชำระล้างร่างกายให้สะอาดด้วย โดยเฉพาะหน้าร้อนต้องมีวันหนึ่งที่จะต้องได้ทานปลาไหลด้วย 

 

ร้านนี้มีวิธีกินแนะนำมาให้ด้วย จะกินแบบที่เสิร์ฟมาตักเข้าปากได้เลย หรือใส่เครื่องเคียงวาซาบิสาหร่ายลงไปทานพร้อมกัน หรือ ใส่น้ำซุปลงไปทานแบบข้าวราดน้ำก็ได้เช่นกันแล้วแต่ชอบแบบไหน เราสั่งแบบเป็นเซทมาลองกัน เนื้อปลามีความนุ่มมาก เนื้อฟู ไม่มีกลิ่นคาวเลย กัดเข้าไปแล้วละลายเลย ย่างมาพอดีมาก เนื้อไม่เละ ไม่แข็งเลยอร่อยมากมายบรรยายไม่ถูกจริง ๆ แต่ต้องมาเขียนบอกต่อกันนี่แหละว่าอย่าพลาดนะถ้ามาเที่ยวที่นี่ 

 

อิ่มแล้วเราพร้อมเดินตะลุยเมือง Little  Edo กัน เราไปเริ่มกันที่สัญญาลักษณ์เมืองที่เห็นได้แทบทุกภาพโปรโมทของเมือง Kawagoe กันนั่นก็คือ หอระฆัง เก่าของเมือง หอระฆัง Bell of Time หรือเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Toki no kane 時の鐘 เป็นหอระฆังที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยเอโดะ ตามคำสั่งของ Sakai Tadakatsu ระหว่างปี 1624 และ 1644 โครงสร้างปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี 1894 หนึ่งปีให้หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ของคาวาโกเอะ เป็นอาคารสามชั้นสูง 16 เมตร หอระฆังนี้ทำหน้าที่บอกเวลามายาวนานกว่า 350 ปี และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง จะสามารถได้ยินเสียงระฆังสี่ครั้งต่อวัน (เวลา 06:00, 12:00, 15:00, และ 18:00) นอกจากนี้เรายังสามารถแวะเข้าไปชมศาลเจ้าขนาดเล็กในหอระฆังได้ด้วยเช่นกัน

 

ออกจากหอระฆัง เราก็เดินผ่านร้านค้ามากมาย ในสไตล์แบบย้อนยุค ไม่เว้นแม้กระทั่งร้านกาแฟสตาร์บัค สาขานี้ยังออกแบบมาให้กลมกลืนไปกับเมืองด้วยเช่นกัน จนเราอดแวะไปเข้าจิบกาแฟด้วยไม่ได้จริง ๆ 

จากนั้นเราก็เดินเสาะหาของกินที่เขาว่าต้องลองกันต่อ เพราะเมือง Kawagoe ขึ้นชื่อเรื่องขนมหวานที่ทำจากมันเทศ เจอร้านะไรที่เกี่ยวกับมัน เราลองหมด ไม่ว่าจะขนมมันเทศหวานอบ มีให้ชิมจุใจก่อนตัดสินใจซื้อ มาเที่ยวญี่ปุ่นถ้าคุณชอบ หรือถูกใจอะไรเจอแล้วแนะนำให้ซื้อเลย เพราะไอ้ประเภทเดี๋ยวกลับมาซื้อ อดทั้งนั้น ส่วนตัวอันที่เป็น ขนม ไอศกรีม คือดีทั้งนั้นเลย แต่อาจจะไม่ถูกปากตัวมันทอดแบบแผ่น ๆ ที่เขาว่า มาแล้วต้องกินกันเท่าไหร่นัก เพราะลงความเห็นกับเพื่อน ๆ แล้วรู้สึกถึงการใช้น้ำมันซ้ำหลายครั้งแน่นอน เลยไม่ถูกจริตพวกเรานัก แต่ถ้ามาแล้วใครอยากจะลองก็ลองเถอะแต่แนะนำว่าซื้ออันเดียวก่อน ชอบค่อยซื้อเพิ่มนะ หลังจากเดินชิม เดินชม เดินช็อป แทบทุกร้านแล้ว 

 

เราก็ไปต่อที่ วัดคิตะ-อิน Kitain Temple เพราะเรามา Kawagoe ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี จุดที่เราพอจะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีได้ก็คือที่วัด วัดคิตะ-อิน นีเอง วัดคิตะ-อิน นับว่าเป็นวัดเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง Kawagoe เคยเป็นวัดหลักของนิกายเทนไดในภูมิภาคคันโต ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้เริ่มมาจากการถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 830 ภายหลังเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อค.ศ. 1638 โชกุนตระกูลโตกุงาว่า รุ่นที่ 3 มีคำสั่งให้ย้ายอาคารต้อนรับของปราสาทเอโดะมาไว้ที่วัดนี้ หลังจากนั้นปราสาทเอโดะก็ถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ชิ้นส่วนของปราสาทที่หลงเหลืออยู่มีเพียงในวัดคิตะอินเท่านั้น และยังมีสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่เลียนแบบภูเขาโมมิจิยาม่า ภายในปราสาทเอโดะ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยงามที่สุด ที่เราตั้งใจมาชมให้ได้ ส่วนตรงนี้ ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 400 เยน และไม่สามารถถ่ายรูปในห้องต่าง ๆ ได้ ยกเว้นถ่ายออกไปที่สวน แต่ลงไปในสวนไม่ได้เช่นกัน เราได้เจอใบไม้เปลี่ยนสีบ้าง ก็ยังสวยงามจับใจเช่นกันแม้จะไม่แดงหมดทั้งสวน เราเอ้อละเหยกันจนไม่ทันไปดู พระพุทธรูป 538 องค์ โกะเฮียคุราคัง ห้าร้อยอรหันต์ 500 Statues of Rakan ซึ่งแต่ละองค์มีใบหน้าและท่าทางที่แตกต่างกัน เพราะต้องรีบไปคืนชุดให้ตรงตามเวลา และหน้าหนาวมืดไวมากเช่นกันนะ อย่าลืม วัดคิตะ-อินเปิดทุกวัน 8.50 – 16.30 น. (ฤดูหนาว พ.ย. – ก.พ. 9.00 – 16.00 น.) จะปิดทำการ : 25 ธ.ค. – 8 ม.ค., 2-3 ก.พ., 2-5 เม.ย. และ 16 ส.ค. ของทุกปี

 

หลังจากไปคืนชุดเรียบร้อย เราก็นั่งรถบัสไปลงสถานี Kawagoe เพื่อกลับเข้าโตเกียวก่อนจะมืดไปมากกว่านี้ มาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวอย่าลืมวางแผนกันดี ๆ นะ 4โมงก็เริ่มมืดแล้ว แล้วหวังว่า Kawagoe จะเป็นไอเดียให้คนมาเที่ยวโตเกียว แวะออกมาหากันนะ มาย้อนยุคเมือง Little Edo ที่ Kawagoe  กัน

คุณชอบบทความนี้

อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย

บทความแนะนำ
Happy New Year ปีใหม่นี้ เที่ยวประเทศไหนดีนะ ?
Happy New Year ปีใหม่นี้ เที่ยวประเทศไหนดีนะ ?
ปีใหม่นี้เที่ยวประเทศไหนกันดีนะ.. พาชมประเทศสุดฮิตที่ช่วงปลายปีนี้ห้ามพลาดที่จะไปชมแสงสีเสียงการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่สุดอลังการ
17 ต.ค. 202310,732
เที่ยวฮาร์บิน - ตะลุยแดนมังกร เที่ยวฮาร์บินช่วงไหนดี ช่วงไหนโดน
เที่ยวฮาร์บิน - ตะลุยแดนมังกร เที่ยวฮาร์บินช่วงไหนดี ช่วงไหนโดน
หากต้องการไปเที่ยวหน้าหนาวช่วงปลายปีคงหนีไม่พ้น ฮาร์บิน เมืองจีน แน่ๆ แต่รู้หรือไม่ฮาร์บินเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ส่วนช่วงไหนจะเจออากาศแบบไหนบ้าง ทัวร์ครับ จัดการมาให้คุณแล้วครับ
18 ต.ค. 202345,124
ตามล่าหาแสงเหนือใน 11 ประเทศทั่วโลก
ตามล่าหาแสงเหนือใน 11 ประเทศทั่วโลก
แสงเหนือ ไม่ได้มีแค่ที่ไอซ์แลนด์นะครับ วันนี้ทัวร์ครับ รวมมาให้ 11 ประเทศที่ไปเที่ยวแล้วได้ชมแสงเหนือสวยๆ ด้วย ใครพร้อมไปล่าแสงเหนือแล้วก็ตามทัวร์ครับมาได้เลย
18 ต.ค. 202313,834
แจกแพลนเที่ยวไต้หวัน 4 วัน 3 คืน กินเที่ยวแบบจุกๆ
แจกแพลนเที่ยวไต้หวัน 4 วัน 3 คืน กินเที่ยวแบบจุกๆ
เที่ยวไต้หวัน นอกจากกินแล้วก็เที่ยวชิลล์ๆ นี่แหละ ทริปไต้หวันครั้งนี้ ทัวร์ครับ จัดให้เลย แพลนเที่ยวไต้หวัน4วัน ทั้งกิน เที่ยวสนุกครบจบที่ไต้หวันได้แน่นอน
17 ต.ค. 202337,853
พิชิตเที่ยวเกาหลี 24 ชั่วโมง เช้ายันเช้าของอีกวัน ถึกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
พิชิตเที่ยวเกาหลี 24 ชั่วโมง เช้ายันเช้าของอีกวัน ถึกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เที่ยวเกาหลีจุกๆ แบบเที่ยวไม่หยุด 24 ชั่วโมง เที่ยวเช้ายันเช้าอีกวัน แพลนเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามไปเที่ยวเกาหลีใต้กันได้เลย
17 ต.ค. 20236,802
5 จุดเที่ยวห้ามพลาดที่ แลนด์มาร์คแห่ง จางเจียเจี้ย
5 จุดเที่ยวห้ามพลาดที่ แลนด์มาร์คแห่ง จางเจียเจี้ย
จางเจียเจี้ย ที่เที่ยวจีน ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวไทยก็ต่างแห่กันไปเที่ยวจำนวนมาก เพราะเต็มไปด้วยภูเขาและธรรมชาติอันสวยงามมากมาย และทัวร์ครับก็เก็บแลนด์มาร์คสำคัญมาให้แล้ว กับ 5 พิกัดห้ามพลาดต่อไปนี้
17 ต.ค. 202320,368
LINE@ Tourkrubคุยกับทัวร์ครับ