ประเทศพม่า หนึ่งในประเทศที่คนไทยคุ้นหูกันดี เรามาดูกันดีกว่าทริป 4 วัน 3 คืนนี้เราไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง มาดูกันเลย !
ประเทศพม่า หนึ่งในประเทศที่คนไทยคุ้นหูกันดี และพม่าก็กำลังกลายเป็นประเทศที่ยอดนิยมอีกแห่ง ที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันไปเที่ยว ทั้งไหว้พระ ชมเจดีย์สถาปัตยกรรมอันงดงามของประวัติศาสตร์พม่า ในแต่ละทริปการเดินทางส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวกันประมาณ 4-5 วัน เพื่อสามารถเที่ยวชมเมือง ไหว้พระ และเก็บภาพถ่ายกันให้อิ่มอกสำราญใจ เรามาดูกันดีกว่าทริป 4 วัน 3 คืนนี้เราไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง มาดูกันเลย !
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี อดีตเมืองหลวงที่สำคัญของประเทศพม่า ก่อตั้งโดยกษัตริย์มินดง นอกจากจะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากของพม่า เพราะเป็นราชธานีสุดท้ายก่อนพม่าจะตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษในยุคล่าอาณานิคม ปัจจุบัน เมืองมัณฑะเลย์ได้รับการปรับปรุงจนกลายเป็นเมืองศูนย์กลางที่สำคัญเมืองหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศพม่า โดยมีขนาดประชากรที่มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และมีความสำคัญทั้งในแง่ของศิลปะ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
ไฮไลด์ของการท่องเที่ยวเมืองมัณฑะเลย์ คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก พระราชวังเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอย่าง “พระราชวังมัณฑะเลย์” นั่นเอง เนื่องจากความสวยงามของพระราชวังและบรรยากาศความขลังอันเก่าแก่ของที่นี่ เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและเก็บภาพบรรยากาศอันงดงามนี้ไว้ พระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ได้ชื่อว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชียเลยก็ว่าได้
เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับแรกที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางไปทัวร์พม่าจะต้องเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะให้ได้สักครั้งในชีวิต เจดีย์ชเวดากองที่แปลว่า พระเจดีย์ทองคำแห่งเมืองตะเกิง เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความโดดเด่นมากในย่างกุ้ง ความศรัทธาในองค์พระเจดีย์ของชาวพม่าทำให้ชาวพม่านิยมการบริจาคเพชรพลอยของมีค่าต่างๆให้กับพระเจดีย์ ทำให้เจดีย์องค์นี้มีเครื่องประดับมีค่าเป็นจำนวนมากหลายพันชิ้น โดยเฉพาะเพชรที่ประดับอยู่บนยอดเจดีย์นั้น เขาว่ากันว่าขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือคนเลยทีเดียว และส่วนด้านล่างรอบๆ เจดีย์จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำนวนมาก และมีไม้แกะสลักประดับอยู่อย่างสวยงาม เจดีย์ชเวดากองเปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 04.00-21.00 น. การเปิดให้เข้าชมเป็นช้าวงเวลายาวขนาดนี้ ก็เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปก่อนอรุณรุ่งและกลับออกมาหลังตะวันยอแสง
เป็นสถูปดั้งเดิมของพม่าโดยแท้ มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ สร้างขึ้นหลังพระเจ้าอโนรธาขึ้นครองราชย์ เพื่อใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากพระสรีระหลายส่วน มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ ใช้เป็นทั้งที่ประชุมสวดมนต์ และศูนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในพุกาม ชมสิ่งของขึ้นชื่อของพุกามก็คือ เครื่องเขิน (Lacquer Ware) ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในพม่า เช่น ถ้วยน้ำ จานรอง โถใส่ของตั้งแต่ขนาดเล็กถึงใหญ่ หีบใส่ของต่างๆ สิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ โถใส่ของทำจากขนหางม้าสานกับโครงไม้ไผ่ มีขนาดเบาบางและบีบให้ยุบ แล้วกับไปคืนรูปได้ดังเดิม และในเมืองพุกามนั้นก็มีวัดอีกมากมาย โดยระยะทางไม่ห่างกันมากนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ชอบทำบุญไหว้พระ ได้ไหว้สักการะได้อย่างอิ่มอกอิ่มใจกันเลยทีเดียว
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจนสร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้านซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของหมู่บ้านมยินกะบา สร้างเมื่อปี 1059 โดยพระเจ้ามนูหะกษัตริย์แห่งมอญ เพื่อสั่งสมบุญไว้สำหรับชาติหน้า จึงได้นำอัญมณีบางส่วนไปขายมาสร้างวัดนี้ โครงสร้างวิหารค่อนข้างแคบ มีพระนอนหนึ่งองค์ กับ พระพุทธรูปอีกสามองค์นั่งเบียดเสียดอยู่ภายใน สะท้อนถึงความคับแค้นพระทัยของกษัตริย์เชลยพระองค์นี้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งความใหญ่โตอลังกาลงานสร้างในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกเสียจาก เจดีย์ที่มีนามว่า “มิงกุน” เมืองมิงกุน แต่ความใหญ่โตนี้สร้างไม่เสร็จ ปัจจุบันเหลือไว้แค่เพียงหลักฐานเศษซากไว้ให้เราได้เที่ยวชมกัน
ระฆังที่เชื่อกันว่าเป็นระฆังยักษ์ที่สามารถส่งเสียงก้องกังวานได้จริงๆที่เหลืออยู่บนโลก ตั้งอยู่ห่างจากเจดีย์มิงกุนไปไม่ไกลนัก ระหว่างทางจะผ่านร้านขายของที่ระลึกตั้งเรียงรายอยู่มากมาย
เจดีย์ชินพิวเม เจดีย์ของพม่าที่ได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาล แห่งลุ่มน้ำเอยาวดี” ที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง ทรงสร้างไว้แด่พระมหาเทวีชินพิวมิน การเดินทางจากท่าเรือมายังสถานที่แห่งนี้สามารถใช้บริการ เกวียน สามล้อ หรือถ้าใครไม่รีบก็เดินชมวิวกันได้ตามสะดวก หากนั่งรถหรือเกวียน จะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
คุณชอบบทความนี้
อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย