อียิปต์ มีเรื่องลี้ลับมากมายให้เราได้ไปเที่ยวพิสูจน์กัน แต่ภายใต้การน่าค้นหานั้นก็มีความสวยงามอยู่ด้วย ใครยังไม่เคยไปเที่ยวอียิปต์ ไปเถอะสวยและน่าประทับใจมาก
ถ้ามีโอกาสไปอียิปต์ ต่อให้กลัวผี ไม่กล้าลงหลุมฝังศพ ก็ต้องทำเป็นลืมกลัวไปก่อน เพราะ 10 พิกัดสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึงและเห็นด้วยตาในอียิปต์ หนีไม่พ้นเรื่องความเก่าแก่และยิ่งใหญ่จากอดีต โดยเฉพาะพีระมิด สุสานฟาโรห์ และมัมมี่ ที่ซ่อนเร้นความลับให้โลกศึกษาค้นหากันไม่หยุดตลอดประวัติศาสตร์กว่า 5,000 ปี แต่บอกได้เลยว่าความรู้เมื่อได้สัมผัสบรรยากาศจริง ๆ ตรงหน้าตื่นตากว่าภาพจินตนาการแน่นอน
ไปเที่ยวอียิปต์แบบไม่ต้องวางแพลน เที่ยวสนุก ถ่ายรูปสวยๆ ได้สบาย สามารถเข้าไปดูแพ็กเกจทัวร์อียิปต์ กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) ได้เลย >> กดตรงนี้
เริ่มต้นจากเมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandeia) หลังเครื่องลงจอดที่กรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ หลายคนเลือกแวะมาที่นี่ก่อน ซึ่งจะต้องขึ้นไปทางเหนือประมาณ 242 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ประมาณจากกรุงเทพฯไปโคราช
ความสำคัญของอเล็กซานเดรีย คือเป็นเมืองที่ซ้อนทับกันถึง 3 อาณาจักรใหญ่ที่ทิ้งความโดดเด่นด้านศิลปินไว้ให้เห็น ทั้งอียิปต์ กรีก-โรมัน และอิสลาม เมืองนี้อยู่ติดทะเลเมดิเตอเรเนียน ใกล้ปากแม่น้ำไนล์ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญตั้งแต่อดีต เคยเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ชื่อ ราคอนดาห์ พออเล็กซานเดอร์มหาราชจากกรุงโรมเข้ามาปกครองก็มาเมืองสร้างไว้แล้วเปลี่ยนชื่อให้ครองกับชื่อตัวเอง เมืองนี้ยังเป็นเมืองตำนานรักระหว่างพระนางคลีโอพัตราริชินีผู้เลอโฉมแห่งราชวงศ์ปโตเลมี กับ มาร์ค แอนโทนี่ นายทหารโรมันอันโด่งดัง
การเลือกมาอเล็กซานเดรีย เพราะที่นี่ยังมีสถานที่ประวัติศาสตร์มากมายที่ควรแวะไป ได้แก่ ป้อมปราการไควท์เบย์ (Qaitbay Citadel) เสาปอมเปย์ (Pompay’s Pillar) อเล็กซานเดรีย คาตาคอมป์ (Alexandria Catacombs) หรือ หลุมฟังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เป็นสุสานของชาวโรมันในอดีตใช้เก็บศพกว่า 5 หมื่นศพ มี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 สำหรับลำเลียงโลงและศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตายที่จะมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน เล่ากันว่าตอนนักโบราณคดีขุดเจอที่นี่ครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่เต็มไปหมด น่าสะพรึ่งมั้ยล่ะ!!
แค่วันเดียวหรืออาจจะครึ่งวันก็เที่ยวอเล็กซานเดรียได้ทั่ว หาโรงแรมริมทะเลเมดิเตอเรเนียนนอนพักสักคืนเช้าค่อยกลับไปลุยเที่ยวต่อที่ไคโร
จะเที่ยวไคโรให้สนุก ต้องเริ่มจากศึกษาประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไคโร รวมศิลปวัตถุโบราณไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่การจัดเก็บ จัดแสดงอาจจะไม่ดีเท่าพิพิธภัณฑ์ฝั่งยุโรป เอาเป็นว่าอย่างไรของทุกชิ้นที่เห็นก็ของแท้ดั้งเดิมและเป็นของในประเทศตัวเองทั้งนั้น แม้กระทั่งห้องแสดงมัมมี่ที่นำมัมมี่ฟาโรห์ที่มีสภาพสมบูรณ์มาจัดแสดงพร้อมกันหลายองค์
ไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์นอกจากห้องมัมมี่ ก็คือห้องจัดแสดงโลงศพทองคำ พร้อมหน้ากากทองคำแท้ของฟาโรห์ตุตันคามุนที่มีชื่อเสียงก้องโลก พร้อมสมบัติส่วนตัวที่ขุดพบในสุสานของพระองค์
ดูอดีตแล้วต้องชมภาพความจริง และตลาดคือจุดที่ดีที่สุด แถมใครที่ชมสมบัติฟาโรห์มาแล้วติดใจอยากได้ชิ้นไหนเป็นที่ระลึก ต้องไม่พลาดแวะไปที่ตลาดข่าน เอล คาลีลี ที่นี่เป็นตลาดค้าขายของพื้นเมืองและแหล่งสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร มีของทำเลียนแบบของโบราณ เช่น ต่างหู สอย แหวน โดยเฉพาะที่เป็นสัญลักษณ์หรืออักษรไฮโรกลิฟฟิก และของที่คนชอบตามหาในอียิปต์ก็หาได้ที่นี่ ตั้งแต่ขวดน้ำหอมทำมือ สินค้าเครื่องทองรูปพรรณ เพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ อียิปต์โบราณ พรหม ผ้าพันคอ ไปจนถึงของที่ระลึกยุคใหม่
เที่ยวหนักขนาดนี้กว่าจะได้เข้าที่พักก็ค่ำพอดี เลยขอกระซิบก่อนว่า ให้หาโรงแรมวิวดีๆ เพราะหลายโรงแรมที่นี่เด็ดตรงมีวิวพีระมิดที่หาไม่ได้จากโรงแรมที่ไหนในโลก เหมือนที่เราเลือกพักที่ โรงแรม แมริออท มีนา เฮาส์ (Marriott Mena House) ตอนเข้าโรงแรมดึก ๆ ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ตื่นเช้ามานี่ว้าวเลย เพราะแค่ออกจากตัวห้องพักก็เห็นพีระมิดมาอยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะวิวจากห้องอาหารที่แขกที่เข้าพักทุกคนเห็นได้เหมือนๆ กัน เรียกว่าเด็ดสุด นี่แหละความใหญ่ของพีระมิด แม้จะอยู่ห่างกันมาก แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ไม่ไกล กินอาหารเช้าเอาแรง แล้วก็ออกไปตะลุยชมพีระมิดแห่งกีซ่าและเมืองซัคคารา (Saqqara) กันเลย
จากไคโร นั่งรถประมาณ 45 นาที ไปเมืองซัคคารา (Saqqara) จะเที่ยวสนุกต้องมีความรู้ ฉะนั้นมาเริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์กันอีกรอบกับพิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป เทียบกับที่ไคโรแล้วเล็กกว่าเยอะ แต่การจัดแสดงทันสมัยกว่า ที่นี่จัดโชว์สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอัจฉริยะบุคคลของอียิปต์โบราณ ชื่อ อิมโฮเทป ที่ปรึกษาของฟาโรห์โจเซอร์ ที่โดดเด่นทั้งด้านการปกครอง สถาปนิก และตำราแพทย์จนถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ของในพิพิธภัณฑ์เป็นการแสดงวัตถุโบราณที่ขุดพบในเมืองซัคคารา รวมถึงมัมมี่ของฟาโรห์เบเรนเร (Merenre) ซึ่งเป็นมัมฟาโรห์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกค้นพบ รวมทั้งการแสดงประวัติความเป็นมาและวิธีสร้างพีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์โจเซอร์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
จากพิพิธภัณฑ์ไปดูของจริง พีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์โจเซอร์แห่งซัคคารา พีระมิดแห่งแรกของชาวอียิปต์ มีอายุไม่น้อยกว่า 4,500 ปี ออกแบบโดยอิมโฮเทป สถาปนิกประจำราชสำนัก จุดที่น่าสนใจของที่นี่คือประตูทางเดินเข้าไปยังลานกว้างหน้าพีระมิด ซึ่งเหลือเพียงประตูเดียวจากที่คาดว่าเคยมีถึง 12 ประตู ที่ทำด้วยหินที่สกัดผิวผนังจนเรียบ และเสาขนาดใหญ่เรียงรายที่ทำเป็นรูปคลื่นรอบตัวเสาที่เรียบสวยเช่นกัน มันน่าทึ่งตรงที่เกือบ 5,000 ปีก่อน คนอียิปต์โบราณใช้อะไรสร้างสิ่งขนาดใหญ่เกินมนุษย์และทำให้หินเรียบสวยทั้งที่ที่ไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยไฮเทคเหมือนปัจจุบัน
และแล้วก็ถึงเวลาที่ภาพที่คุ้นตาและอยากเห็นด้วยตาเปล่าของใครหลายคนในการฝันมาเยือนอียิปต์ปรากฏจริงตรงหน้าสักที กับภาพพีระมิดเรียงตัวกันเป็นหมู่ 3 องค์ในภาพเดียว ของพีระมิดคูฟู พีระมิดคาแฟร (พีระมิดองค์กลาง) ที่สร้างโดยฟาโรห์คาแฟร และโอรสของฟาโรห์คูฟู และพีระมิดเมนคูเร พีระมิดองค์เล็กสุด เลือกถ่ายภาพกันให้จุดใจ ถ้าพอมีเวลาไม่ต้องรีบใจเย็นๆ ถ่ายแล้วเช็ครูป เพื่อให้ได้ภาพประทับใจที่สุดกลับไป ในบริเวณไม่ไกลกันหนัก มีวิหารประกอบพิธีพระบรมศพของฟาโรห์คาเฟร เจ้าของพีระมิดองค์กลางที่ควรแวะไปชม รวมทั้งอีกจุดเล็กๆ แต่ใหญ่รองๆ แค่พีระมิดอย่างสฟิงซ์แห่งกีซ่า ก็ห้ามพลาดเช่นกัน
ฟิงซ์แห่งกีซ่า โด่งดังในฐานะสฟิงซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แกะสลักจากหินก้อนขนาดมหึมาก้อนเดียว ส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์ลำตัวเป็นสิงโต ความยาว 73.5 เมตร สูง 21 เมตร เฉพาะจมูกที่หายไปยาว 2 เมตร ปัจจุบันถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ British Museum กรุงลอนดอน ที่นี่กลางคืนมีการจัดแสดงแสงสีเสียงให้ชมแบบขายบัตร แต่ถ้าเที่ยวเหนื่อยแนะนำให้นอนพักผ่อนจะดีกว่า โดยเฉพาะถ้าใครอยากไปเก็บที่เที่ยวเด็ดๆ ของอียิปต์ที่ลักซอร์อีกเมือง
เช้าวันต่อมาหาเครื่องบินในประเทศบินไปเมืองลักซอร์ (Luxor) ที่มีสถานที่สำคัญหลายแห่งรออยู่ เริ่มจากวิหารคาร์นัก (Karnuk Temple) อยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ตามหลักความเชื่อเป็นฝั่งของคนที่มีชีวิตเป็นวิหารใหญ่และสวยที่สุดของอียิปต์ สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้า อามุนรา หรือสุริยเทพ โดยฟาโรห์เซซอสตริสที่ 1 และฟาโรห์อีกหลายองค์ต่อมมาหลังจากนั้น ทำให้วิหารนี้มีการต่อเติมหลายยุคหลายสมัย ที่นี่ตอนกลางคืนมีการจัดแสดงแสงสีให้ชมแบบผู้ชมต้องเดินชมเรื่องราวไปตามส่วนต่าง ๆ ของวิหารที่จะเล่าเรื่องไปโดยใช้ฉากจริงของสถานที่ ก่อนจะไปสิ้นสุดที่จุดนั่งชมริมสระน้ำด้านในวิหาร เป็นรูปแบบการแสดงที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วมที่ได้ประสบการณ์แปลกใหม่กว่าการนั่งชมการแสดงอยู่กับที่ที่ดีทีเดียว
นอกจากวิฟารคานัค ยังมีวิหารลักซอร์อยู่ในตัวเมืองที่ควรแวะไปชมอีกแห่ง ความน่าสนใจคือเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ปัจจุบันมีมัสยิดตั้งอยู่ชั้นบน เพราะความบังเอิญที่มีการก่อสร้างมัสยิดก่อนที่จะมารู้ภายหลังว่าพื้นด้านล่างของมัสยิดมีวิหารโบราณซ่อนตัวอยู่ เลยเป็นจุดท่องเที่ยวที่บางเวลาเราอาจจะเดินชมพร้อมกับได้ยินเสียงละมาดจากชาวมุสลิมไปพร้อมกัน
อย่าเพิ่งเบื่อที่จะเรียนรู้ เพราะทุกอย่างที่ผ่านตาคือของจริงทั้งนั้น ที่พิพิธภัณฑ์นี้แสดงศิลปะโบราณของอียิปต์ ที่เป็นไฮไลต์ก็ห้อง Cachette Hall ห้องแรกที่เห็น เป็นรูปปั้นที่ขุดพบในวิหารลักซอร์ สฟิงซ์รูปทรงต่าง ๆ และสมัติมากมายของฟาโรห์ที่ได้จากหลุมศพของฟาโรห์ตุตันคามุน
ลักซอร์มีสถานที่เที่ยวหลายแห่ง ใช้เวลาแค่วันเดียวไม่พอ ควรหาที่พักอย่างน้อยสักคืนสองคืน เราเลือกพักกันที่โรงแรม Hilton Luxor ที่นี่บรรยากาศดีติดริมแม่น้ำไนล์ มีวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยมาก แถมเดินออกมาไม่ไกลก็มีย่านชุมชน
ทิ้งทวนกันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ของอียิปต์ ที่เปรียบเหมือนสมบัติล้ำค่าจากอดีตที่มีค่าไม่แพ้ทรัพยากรอย่างเหมืองเพชรเหมืองทองของประเทศอื่น กับบรรดาหลุมศพของฟาโรห์ ราชินี ในหุบผากษัตริย์ และหุบผาราชินี ที่ปัจจุบันนอกจากเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็ยังมีการสำรวจขุดค้นอย่างต่อเนื่อง และสิ่งพบก็คือความน่าทึ่ง ที่หลายคนต้องทึ่งกับโลกหลังความตายจากความเชื่อของอียิปต์โบราณ ที่ทิ้งไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าไม่เพียงทางวัตถุแต่ยังรวมถึงด้านศิลปะอียิปต์โบราณ ไปจนถึงเทคนิคที่แม้แต่ยุคดิจิทัลก็ยังหาคำตอบไม่ได้อีกหลายเรื่อง
หลุมไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกชมที่หุบผากษัตริย์โดยมากก็หนีไม่พ้น หลุมศพของฟาโรห์ตุตันคาเมนคนดัง ฟาโรห์รามเสสที่ 3 ที่มีความยาวถึง 188 เมตร ฟาโรห์รามเสสที่ 5 และ 6 ซึ่งมีขนาดใหญ่ เป็นต้น ส่วนที่หุบผาราชินี ถ้ามีเวลาน้อยจริง ๆ ให้เลือกชมสุสานของพระนางเนเฟอตารี พระมเหสีของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่มีภาพวาดสมบูรณ์งดงามสีสันสดเหมือนเพิ่งลงสีทั้งที่ผ่านมานับพัน ๆ ปี และมีค่าตั๋วแพงที่สุดถึง 1200 ปอนด์อียิปต์ จากหลุมอื่นๆ ที่ราคาตั๋วประมาณ 100-300 ปอนด์ฯเท่านั้น แถมให้อยู่ชมภายในได้แค่คนละ 10 นาที และจำกัดจำนวนคนเพราะมีอากาศจำกัดที่ต้องใช้เครื่องช่วยดูดอากาศจากภายนอกเข้าไป ทั้งหมดก็เพื่อพยายามรักษาความสวยงามให้คงสภาพเดิมไว้ได้นานที่สุด
ขนาดสุสานยังล้ำค่าขนาดนี้ ในบริเวณเดียวกันยังมีหลักฐานอย่าวิหารแฮตเซปซุต ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีศพของฟาโรห์หญิงแฮตเซปซุต ที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ที่สร้างมาแล้วกว่า 3,500 ปี เป็นนหลักฐานทางโบราณสถานที่สอดคล้องกันเป็นอย่างดีอีกด้วย
กว่าจะจบทริปอียิปต์ บอกได้เลยว่า ยิ่งเห็นอดีตไกลเท่าไร ยิ่งรู้สึกตัวเล็กลง เพราะความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ต้องวัดจากสิ่งที่เหลือทิ้งไว้มากกว่าว่าจะมีอะไรเหลือไว้ให้คนชื่นชมได้แค่ไหน ส่วนเนื้อหนังก็มีแต่จะสูญสลายไปในช่วงเวลาเฉลี่ยแค่ไม่เกิน 100 ปีเท่านั้นเอง
เรื่องและภาพถ่ายโดย Kumkum
คุณชอบบทความนี้
อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย