
Japan winter !! หนาวนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ
ร้อนมาทั้งปีแล้วหนีหนาวไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเถ้อะ ><" ไปเที่ยวญี่ปุ่นประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ บินแค่ 5 - 6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว มีอากาศเย็นๆ
"ญี่ปุ่น" ประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ บินแค่ 5 - 6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว มีอากาศเย็นๆ ให้เราได้ชื่นใจ ใส่เสื้อโค้ช ได้ถ่ายรูปกันสวยๆ แล้วก็มีหิมะปุยๆอีกด้วย แล้วจะมีที่ไหนมีหิมะให้ได้เห็นกับแบบฉ่ำปอดบ้างไปดูกันเล้ยยย
1. Shirakawa-go
แผนที่ : Shirakawa-go
หมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาเป็นเส้นทางระหว่างทาคายาม่า และ คานาซาว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับการเลือกให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลกที่ยังคงรักษาเอกลักษ์ที่โดดเด่นความสวยงามเก่าแก่ของหมู่บ้าน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะนิยมไปในช่วงฤดูหนาว และเป็นช่วงที่สวยทสุด ได้เป็นหิมะที่ขาวโพลนที่เกาะบนหลังคา นอกจากนี้ก็จะมีเทศกาล light-up ในแต่ละปีก็จะมีแค่ไม่กี่ครั้ง สำหรับปีหน้าก็มีกำหนดการออกมาแล้ว คือ วันวันอาทิตย์ที่ 21 และวันอาทิตย์ 28 มกราคม 2018 วันอาทิตย์ที่ 4 และวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018
2. Otaru
แผนที่ : Otaru
เมืองที่มีเสน่ห์และความน่ารักในตัวเอง สามารถเดินทางจากเมืองซัปโปโรเพื่อมาเที่ยวที่นี่ได้แบบเช้าเย็นกลับเพราะใช้เวลาในการเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง เอกลักษณ์ของที่นี่อยู่ที่คลองขนาดเล็กที่อยู่เลียบไประหว่างโกดังสินค้าเก่า ในช่วงหน้าหนาวจะมีการจัดเทศกาล Otaru Snow and Light Path Festival โดยจะจัดในวันที่ 9 - 18 กุมภาพันธ์ 2018 บอกเลยว่าโรแมนติกมากๆ และใครมีโอกาสได้ไปก็อย่าลืมไปแวะร้านขนมหวานที่เปิดเรียกนักท่องเที่ยวแบบสุดๆ
3. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) เมืองอะซะฮิกะวะ
แผนที่ : Asahiyama Zoo
สวนสัตว์ที่ไม่ธรรมดา เพราะสัตว์ต่าง ๆ ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรง แต่สัตว์ที่นี่จะได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ “พาเหรด เพนกวิ้น” เป็นพฤติกรรมทางธรรมชาติของมัน ที่จะเดินไปทะเล เป็นหมู่เพื่อหาอาหาร เอามาประยุกต์ใช้ในสวนสัตว์ บวกกับ ความต้องการที่ อยากให้นกเพนกวิน ได้ออกกำลังกายในฤดูหนาว จึงกลายมาเป็นอีเว้นท์น่ารักๆแบบนี้ ในทุกๆปีโชว์นี้จะมีประมาณกลางเดือนธันวาคม - มีนาคม มีโชว์วันละ 2 รอบ ตอน 11:00 น. และรอบ 14:30 น. แต่ถ้าเข้าเดือนมีนาแล้ว จะเหลือเพียงรอบเดียว ความยาวของระยะทางเดินประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที อันนี้แล้วแต่น้องกวิ้น ><”
4.Sapporo snow festival
แผนที่ : Sapporo snow festival
เทศกาลสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีของญี่ปุ่น เราจะได้เพลิดเพลินไปกับประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งแกะสลักสวย ๆ เล่นหิมะแบบหนำใจ ต้องไม่พลาดงานเทศกาลหิมะแห่งเมืองซัปโปโร เทศกาลยิ่งใหญ่ในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมมากที่สุดแห่งหนึ่งจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับปีหน้าที่กำลังจะมาถึงก็มีกำหนดการออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยจะขึ้นวันที่5-12 กุมภาพันธ์ 2018 เป็นระยะเวลาทั้งหมด 8 วัน โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงโชว์ผลงานแกะสลักน้ำเเข็งมากกว่า 200 ชิ้น และประดับด้วยแสงไฟหลากสีสันอลังการสุดๆ
5. Niseko
แผนที่ : Niseko
แหล่งสกีที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่ใหญ่และดีที่สุดแห่ง Niseko นั่นก็คือรีสอร์ท Grand Hirafu หิมะที่นี่เป็นหิมะชั้นดี ละเอียดเหมาะกับการเล่นสกี จุดเด่นของที่นี่ก็คือการเดินเล่นในป่าช่วงฤดูหนาวที่จะทำให้เราได้เห็นทิวทัศน์ของป่าที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ โดยกิจกรรมนี้เหมาะกับการมาเป็นครอบครัวเพราะทุกคนจะได้เดินชมความงามจากป่าในฤดูหนาวไปด้วยกัน นอกจากนี้แล้วยังมีบริการที่พัก และบ่อแช่น้ำร้อนออนเซ็นและสระว่ายน้ำให้ได้ใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจกันอย่างเต็มที่ในสกีรีสอร์ทแห่งนี้ด้วย เปิดช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม.
6. Mt.fuji
แผนที่ : Mt.fuji
ไปดูภูเขาไฟฟูจิในช่วงหน้าหนาวจะได้เห็นฟูจิที่สวยที่สุดเพราะจะมีหิมะปกคลุมเยอะที่สุด และนอกจากนี้ท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาวก็ยังโปร่ง ใส มีโอกาสได้เห็นฟูจิชัดอีกด้วย
7. Jigokudani Monkey Park
แผนที่ : Jigokudani Monkey Park
ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าลิงภูเขาหรือลิงหิมะจำนวนกว่า 200 ตัว เป็นลิงที่อยู่ตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมลิงแช่ออนเซ็นได้ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่มักจะนิยมเที่ยวในช่วงฤดูหนาว(เดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์) เพราะเราจะได้เห็นภาพลิงภูเขาแช่ออนเซ็น จะได้ใบหน้าแดงก่ำเมื่อมันแช่ตัวอยู่ในน้ำร้อน ดูมีความสุขมากๆ และเราก็จะมีโอกาสได้ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะสีขาวโพลน และสองข้างทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ ตลอดทาง โดยมีเจ้าลิงป่าลงแช่ออนเซนกลางแจ้ง
8.Snow Monster Yamagata Zao Onsen Ski Resort ,Yamagata
ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตในการเล่นสกีไฮไลต์หลักของที่นี่คือการเล่นสกีและชม “ ปีศาจหิมะ ” (Snow Monster) หรือจูเฮียว (Juhyou) เกิดจากน้ำค้างและหิมะที่เกาะอยู่ตามป่าสนบนยอดเขา เมื่อเจอกับความหนาวต่ำกว่า 0 องศา ก็แปรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งเกาะคลุมต้นสนอย่างหนาแน่น จนรูปร่างคล้ายปีศาจ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่าจูเฮียว ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ทุกปี ที่ป่าแห่งนี้จะมีการเปิดไฟส่องสว่างไปยังผืนป่าเป็นสีสันต่างๆสร้างความสวยงามเป็นอย่างมาก ใครที่เมื่อยจากการเล่นสกีก็อย่าลืมแวะแช่ออนเซ็นผ่อนคลายกล้ามเนื้อกันได้ด้วย
อ่านต่อ : ตะลอนทัวร์ 10 เมืองญี่ปุ่นต้องโดน! เที่ยวญี่ปุ่นยังไงก็ไม่เบื่อ...
สนใจโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น คลิกเลย