Tourkrub Logo
สำหรับนักเที่ยวที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยว เพราะเป็นโอกาสให้เราได้พบเจอ ผู้คนที่แตกต่าง เรียนรู้กับวัฒนธรรมที่แปลกใหม่ กลายเป็นประสบการณ์และช่วงเวลาสุดล้ำค่าที่ไม่อยากมีวันจบ

5 เคล็ด (ไม่) ลับ ฉบับคนขี้เที่ยว ตอน “ Jet lag เหรอ...ฉันไม่กลัวหรอก! ”

แต่มักต้องพบเจอกับปัญหาโลกแตกเกือบทุกทริป กับอาการ “ เจ็ทแล็ก ” (Jet lag) อาการของร่างกายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของนาฬิกาชีวิตแบบรวดเร็วเพราะเดินทางข้ามเส้นเวลา ทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายแปรปรวน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเวลากิน เวลานอน กลางวัน และกลางคืน ทำให้ตัวเรามีอาการมึนงง อ่อนเพลีย เป๋อๆ อ๊องๆ และเป็นผลทำให้เราเที่ยวไม่สนุกเอาได้นะคะ

5 เคล็ด (ไม่) ลับ ฉบับคนขี้เที่ยว ตอน “ Jet lag เหรอ...ฉันไม่กลัวหรอก! ”
tk-icon
17 ต.ค. 2023
ทัวร์ครับ
พาอัพเดต
4,065
views

วันนี้ เราจึงไม่พลาดขอแนะนำ เคล็ด (ไม่ ) ลับ พิชิตอาการเจ็ทแล็ก เพื่อสาวกนักเที่ยวทั้งหลาย จะได้เที่ยวต่างประเทศกันได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมึนๆ อ๊องๆ ให้เสียเวลาค่ะ มาดูกันสิว่า มีอะไรบ้าง ?

Jet_lag_01
 

ก่อนเดินทาง

1. อย่านอนดึก ก่อนเดินทาง

Jet_lag_02
 

ส่วนใหญ่ก่อนเดินเรามักจะเกิดความกังวลในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวของเครื่องใช้ เอกสารสำหรับการเดินทาง สิ่งเหล่านี้มักมากวนใจทำให้เรานอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราและเป็นสาเหตุที่ทำเกิดอาการเจ็ทแล็กอย่างแน่นอนค่ะ ทางที่ดีเราควรผ่อนคลายตัวเอง และพยายามสงบสติอารมณ์ไม่คิดฟุ้งซ่าน ถ้าหากว่ากังวลเรื่องการเตรียมของก่อนเดินทาง กลัวว่าจะลืมนั่น ลืมนี่ ก็สามารถป้องกันด้วยการเขียน Check-list รายชื่อสิ่งของที่ต้องใช้ เพ่ื่อจะได้จัดเตรียมได้ครบถ้วนจะได้ไม่ต้องกังวลก่อนเดินทางค่ะ

ระหว่างทริป

2. เก็บชั่วโมงหลับ ระหว่างบินให้มากๆเข้าไว้

Jet_lag_03
 

ช่วงเวลาที่เราจะมีโอกาสได้เก็บชัั่วโมงนอนก็คือตอนบินนี่แหละค่ะ ดังนั้นช่วงระหว่างบินเนี่ย ควรจะนอนให้มากๆ ทางที่ดีควรเลือกไฟล์ทแบบบินตรง ซึ่งจะทำให้เราได้พักผ่อนยาวๆ แต่ถ้าหากใครหลับยาก ก็สามารถหาตัวช่วยอย่าง เมลาโทนิน มารับประทานก่อนขึ้นบิน เพื่อให้รู้สึกง่วง รวมถึงหาท่านั่งที่รู้สึกสบายที่สุด พร้อมด้วยไอเทมสำหรับการนอนอย่าง หมอนรองคอ ผ้าห้ม ผ้าปิดตา และที่อุดหู จะได้หลับพักผ่อนได้อย่างเต็มอิิ่ม และมีพลังสำหรับการผจญภัยในทริปนี้ค่ะ

3. ดื่มน้ำเยอะๆ

Jet_lag_04
 

ที่สำคัญสุดที่สามารถช่วยป้องกันอาการเจ็ทแล็กได้เป็นอย่างดี คือการดื่มน้ำให้มากๆค่ะ เพราะอากาศที่แห้งบนเครื่องบินจะยิ่งทำให้ร่างกายของเราขาดน้ำค่ะ ซึ่งการขาดน้ำจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างทริป และจะดีขึ้นไปอีก ก็ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ คาเฟอีนจากชาและกาแฟ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นตัวการที่จะทำให้ร่างกายขนาดน้ำมากขึ้นค่ะ

4. แดดช่วยได้นะ!

Jet_lag_05
 

หลังเดินทางถึงที่หมายและได้ทำตามคำแนะไปแล้ว แต่ยังมีอาการเจ็ทแล็กอยู่ เราขอแนะนำว่า ให้ลอง ออกไปเจอแดด เดินกินลม ชมวิวท้องถิ่น เพื่อให้ร่างกายของเราได้ปรับสภาพกับช่วงเวลาใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยไล่อาการเจ็ทแล็กได้เป็นอย่างดี

5. กระตุ้นร่ายกายให้พัก

Jet_lag_06
 

ปรับเวลาเข้านอนให้เป็นปกติ โดยอิงตามเวลากลางวัน - กลางคืนในท้องถิ่นนั้นๆ ถึงแม้ตอนกลางวันจะง่วงแค่ไหนก็ต้องอดทนไปนอนกลางคืนค่ะ เพื่อเป็นการฝึกให้ร่างกายเราชินกับเวลา อาการเจ็ทแล็กก็จะค่อยๆหายไปนั่นเองค่ะ

ใครที่มักจะประสบปัญหากับอาการเจ็ทแล็กทุกครั้งที่เดินทางก็สามารถนำเคล็ด (ไม่) ลับที่ เราได้แนะนำในวันนี้ไปปรับใช้กันได้นะคะ โดยสิ่งสำคัญของการป้องกันอาการเจ็ทแล็กก็คือการพักผ่อนให้เต็มที่ และการปรับตัวของเราให้เข้ากับช่วงเวลา ถือเป็นแกนสำคัญในการป้องกันอาการเจ็ทแล็กเลยล่ะค่ะ หากใครนำไปปรับใช้ หรือมีเคล็ดลับส่วนตัว ก็มาแชร์ให้ฟังกันได้นะคะ ส่วนครั้งหน้า จะมีเคล็ดลับอะไรดีดีมากฝากกันต้องคอยติดตามค่ะ

ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก

www.pexels.com

unsplash.com

แท็ก:

คุณชอบบทความนี้

อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย

บทความแนะนำ
LINE@ Tourkrubคุยกับทัวร์ครับ