แม้อยู่ไกลแต่ต้องไปให้ถึง !!  7 สถานที่เที่ยวในอิตาลี สวยจนไม่อยากกลับ

แม้อยู่ไกลแต่ต้องไปให้ถึง !! 7 สถานที่เที่ยวในอิตาลี สวยจนไม่อยากกลับ

หากพูดถึงเมืองที่มีสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างสุดคลาสสิกและแฟชั่นที่ล้ำสมัยแล้วละก็ เชื่อว่าประเทศอิตาลีต้องเป็นคำตอบต้นๆ อย่างแน่นอน และด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้แดนมักกะโรนีกลายเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ และเดินทางไปเที่ยวอิตาลีกันอย่างล้นหลาม
6353
View
0
Share

ซึ่งวันนี้ทางเราจะพาทุกคนไปดูกันว่าแพ็คเกจเที่ยวอิตาลียอดฮิตนั้นส่วนใหญ่นั้นพาไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ไปดูสถานที่เที่ยวในอิตาลีที่น่าสนใจกันเลยย

1.มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Milan Cathedral)

มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือ โบสถ์ดูโอโม่แห่งมิลาน (Duomo di Milano) คือ แลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งในสถานที่เที่ยวในอิตาลี ซึ่งมหาวิหารแห่งเมืองมิลานนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะถือเป็น 1 ใน 3 โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ก่อสร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค

1
 

ที่ผสมผสานกันเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ แถมยังใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปีเลยทีเดียว ส่วนลวดลายความงดงามนี้ไม่ต้องพูดถึงเพราะดูหรูหราตั้งแต่ภายนอกยันไปถึงข้างใน บอกเลยว่าใครมาเที่ยวอิตาลีแต่ไม่ได้มาชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลานถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

11
 

2.แกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II)

อย่างที่เราได้เกริ่นไปต้นบทความว่าประเทศอิตาลีโดดเด่นทั้งสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก รวมถึงเรื่องของแฟชั่น นี่จึงเป็นเหตุผลของใครหลายคนที่ไปเที่ยวหรือโปรแกรมทัวร์อิตาลีมาเที่ยวที่อิตาลีแห่งนี้ ซึ่ง แกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 เรื่อง เพราะที่นี่คือศูนย์การค้าที่เก่าแก่และคลาสสิกที่สุดในเมืองมิลาน ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2408 – 2420 นอกจากนี้ แกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ยังเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังมากมาย เช่น หลุยส์ วิตตอง, พราด้า, เวอร์ซาเช่, อาร์มานี่ รวมไปถึงสินค้าพื้นเมืองต่างๆ

2
 

3.ล่องเรือที่เวนิส (Venice)

มาเที่ยวอิตาลีทั้งที ถ้าจะให้ถึงจริงๆ ก็ต้องมา ล่องเรือที่เวนิส สถานที่เที่ยวในอิตาลียอดฮิตตลอดกาล โดยเมืองเวนิสนั้นคือเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเกาะเล็กๆ เข้าด้วยกันกับทะเลสาบเวนิเทีย ถือเป็นเมืองท่าโบราณแห่งหนึ่งของอิตาลี ซึ่งความคลาสสิกยังไม่จบอยู่แค่นั้นเพราะที่เวนิสนี้ยังเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุดอีกด้วย และที่สำคัญยูเนสโกยังยกย่องให้เมืองเวนิสเป็นมรดกโลกด้วย

3
 

4.เที่ยวชมสีสันที่เกาะบูราโน (Burano)

บูราโน (Burano) คือเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ในเขตทะเลสาบเวนิส จุดเด่นของเกาะบูราโนที่ทำให้ทัวร์อิตาลีหลายต่อหลายแห่งพากันไปลงก็คือเรื่องของสีสันที่สวยงาม เพราะที่เกาะนี้เราจะได้เห็นบ้านแต่ละหลังทาด้วยสีอันจัดจ้าน แถมยังตัดกันอย่างสวยงามอีกด้วย และแน่นอนบรรยากาศแบบนี้นี่แหละเป็นสถานที่เที่ยวในอิตาลีที่เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง

4
 

5.สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs)

ไม่ว่าใครเจอชื่อ สะพานถอนหายใจ ในรายชื่อโปรแกรมเที่ยวอิตาลีก็ต้องรู้สึกสงสัยถึงที่มาที่ไปของชื่อนี้อย่างแน่นอน ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อนี้ก็เกิดขึ้นเพราะสะพานที่ว่าดันไปตั้งอยู่ตรงทางเชื่อมเพื่อไปยัง วังดอดจ์ช ที่มีไว้ขังนักโทษในอดีต และแน่นอนเมื่อนักโทษที่เพิ่งได้รับการพิพากษาคดีให้จำคุกต้องเดินผ่านสะพานนี้เพื่อไปยังห้องขังก็ต้องเกิดการถอนหายใจเป็นธรรมดา ต่อมาเลยเรียกชื่อสะพานนี้ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานนั่นเอง เป็นสถานที่เที่ยวในอิตาลีที่ลึกลับน่าค้นหาจริงๆ

5
 

6.แวะถ่ายรูปที่จัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square)

จัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ถูกขนานนามว่า ห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป เนื่องจากจัตุรัสนี้ถูกรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ซานมาร์โค รวมถึงอาคารสุดคลาสสิกอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอิตาลีอีกด้วย

6
 

7.เที่ยวชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre)

หากสีสันของเกาะบูราโนยังไม่โดนใจ ทางเราขอแนะนำให้มาที่ ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หรือ หมู่บ้าน 5 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ทาด้วยสีสันจัดจ้านไม่แพ้บ้านเรือนจากเกาะบูราโน แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ ชิงเกว แตร์เร เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อายุหลายร้อยปี แถมยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทัวร์อิตาลีใส่ ชิงเกว แตร์เร ไว้ในโปรแกรมเที่ยว

7
 

นอกจากที่เที่ยวข้างบนที่เขียนไป อิตาลีก็ยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เข้าไปค้นหากันนะคะ แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการเที่ยวอิตาลี จะไปเที่ยวด้วยตัวเองหรือไปเที่ยวกับทัวร์อิตาลี ก็ควรวางแผนเที่ยวให้รอบคอบ เพื่อให้การเที่ยวอิตาลีครั้งนี้สนุกแบบไม่รู้ลืมกันไปเลยค่ะ