กัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของไทยเราที่มีศิลปะโบราณสถาน เกี่ยวกับความเชื่อที่หลากหลายหลังจากแพลนอยู่นานว่าหยุดยาวนี้จะหนีไปประเทศดี
กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆของเราทั้งค่าเงินที่ไม่ต่างกับเรามาก เผลอๆ อาจมีถูกกว่าเพราะยกเว้นภาษีนักท่องเที่ยวด้วยแถมยังไม่ต้องนั่งเครื่องไกลให้หมดอรรถรสในการท่องเที่ยวจากทั้งหมดทั้งมวลทำให้เกิดทริปนี้ขึ้นมา ช้อป กิน เที่ยว ที่ “กัวลาลัมเปอร์” ไม่เบลอไม่กลับ จะเบลอไม่เบลอเราไปดูกันเล้ยยยยยย
แผนที่กัวลาลัมเปอร์ : Kuala Lumpur
หลังจากลงเครื่องหาซื้อซิมกันเสร็จเรียบร้อยท้องก็เริ่มร้องเลยตัดสินใจฝากร้านไว้ที่นี่สนามบินก่อนเพราะเดี๋ยวต้องนั่งรสบัสเข้าเมืองอีกน่าจะเป็นชั่วโมง มาเจอร้าน Marry Brown เปรียบเหมือน KFC บ้านเราแต่เห็นเขาบอกว่าเป็นร้านไก่ทอดชื่อดังของมาเลเซียเขาล่ะ ราคาก็ไม่แรงมากรับได้ค่า ในส่วนของรสชาติเราติด KFC ไปแล้วอะยังคิดว่าไก่ทอดบ้านเราคือที่สุดอยู่ แต่อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน้าเพื่อนๆ อาจจะชอบกันก็ได้อยากให้มาลองกันก่อนน
ออกจากสนามบินด้วยรสบัส ถึงสถานี KL Sentral หรือสถานีรถไฟเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางการเดินทางของมาเลเซีย สามารถไปต่อที่อื่นๆ ได้เรากับเพื่อนไปเช็คอินกันที่โรงแรมก่อนค่อยออกไปเที่ยวกันน
ที่แรกที่มาที่มาถึงกัวลาลัมเปอร์แล้วต้องไปก็คือ จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) นั่งรถไฟสายสีแดง จาก KL sentral (KJ15) ไปลงที่สถานี Masjid Jamek ลืมบอกไปที่นี่เราสามารถนั่งรถไฟไปได้สบายๆ เหมือนไทยเราเลยล่ะ สะดวกมากๆ บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของเสาธงที่สูงที่สุด ในโลก
ซึ่งเป็นธงชาติประจำชาติมาเลเซีย ที่ได้รับการชักขึ้นสู่ยอด เมื่อได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ ส่วนฝั่งตรง ข้ามกับจัตุรัสฯ เป็นอาคารสุลต่านอับดุล ซาหมัด ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ มาเลเซียไปแล้ว อาคารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบ มูริส อินเดียผสมผสานกับศิลปะ แบบอาหรับ
ถ่ายรูปกันจนอิ่มหนำแล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆผ่านตึกรามบ้านช่องอาร์ตๆ มุมชิคๆ เยอะมากจริงๆ ใครสายถ่ายรูปจะชอบมากเป็นแนวสตรีทอาร์ต เราเดินมาจนถึงแลนด์มาร์คอีกที่หนึ่งของที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์ก็คือ Central Market เป็นตลาดขายของจิปาถะ งานฝีมือ ของมากต่างๆ อารมณ์คล้ายจตุจักรบ้านเราครับ ใครอยากช้อปปิ้งแนะนำมาที่นี่กันเลยครับ
พิกัด : Central Market
แลนมาร์คจุดต่อไปคือ JALAN PETALING หรือไชน่าทาวน์ของกัวลาลัมเปอร์ ที่มีของขายส่วนใหญ่จะเป็นของก๊อปซะส่วนใหญ่ทางเราไม่ถนัดเท่าไรก็เลยไปหาอะไรกินแทนเพราะของกินเล่นร้านอาหารต่างๆ มีให้เลือกเยอะพอสมควร
พิกัด : Petaling Street
เราเลือกร้าน RESTORAN KIM LIAN KEE เอาจริงๆ ทำไมเลือกร้านนี้ เพราะร้านนี้อยู่ในกลางไชน่าทาวน์เลยครับ หาง่าย รสชาติดี ราคาเหมาะสมเมนูแนะนำที่เขาชอบสั่งกันก็หมี่ฮกเกี้ยน ใครสายอาหารจีนน่าจะเลิฟมาก
พิกัด : Restoran Kim Lian Kee
หนังท้องอิ่มหนังตาเริ่มหย่อน แต่เดี๋ยวก่อนจ้าเรายังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ตั้งใจจะเก็บให้หมดในวันนี้นั่นก็คือ ตึกแฝด นั่นเองงง แลนด์มาร์คหลักอีกที่หนึ่งเลย เวลาค่ำๆ นี่แหละถ่ายรูปสวยดีนักขึ้นรถไฟไปสถานี KLCC ก็ถึงที่หมาย แนะนำให้เข้าทางสวนสาธารณะ KLCC Park มาตอนค่ำหน่อยจะเจอน้ำพุสายรุ้งเต้นระบำ เก็บภาพกันพอหอมปากหอมคอก็ไปเดินเล่นช้อปปิ้งกันต่อในห้าง SURIA
เช็ควันเวลากันให้ดีอาจจะได้เจอช่วง Sale ทีนี้ล่ะกระเป๋าแบนกลับบ้านแน่นอน
วันที่สองหลังจากกระเป๋าตังค์เบาแต่กระเป๋าเดินทางแน่นกันแต่ตั้งแต่วันแรกเราตัดสินใจไปเที่ยวแนวชื่นชมธรรมชาติกันบ้างวันนี้เราจะไป Batu caves เป็นศาสนสถานฮินดู วิธีเดินทางก็เริ่มจาก KL Sentral เหมือนเดิม ใช้เวลาไม่นานเท่าไรแต่แนะนำให้ตื่นเช้าๆ ดีกว่าจะได้ไม่ร้อนมาก พอลงจากรถไฟก็จะเจอกับร้านค้าขายเสื้อผ้าที่เขาใส่กันวางขายอยู่เต็มทางเดิน เข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอรูปปั้นหนุมานยักษ์ก่อนเลยเป็นทางเข้าของถ้ำรามเกียรติ์นั่นเอง
เดินไปอีกสักพักก็จะเจอ Batu caves จุดสังเกตคือรูปปั้นสีทองอันใหญ่ที่ตั้งตระหง่านมาก รูปปั้นนี้คือ พระขันธกุมารสีทอง สูงถึง 42.7 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2549 และจะมีบันไดให้ขึ้น 272 ขั้นให้คนขึ้นไปชมถ้ำด้านบน วิธีการเดินขึ้นบันไดก็เดินปกติ แต่จะมีคนที่เขามีความเชื่อก็มวิธีเดินขึ้นอีกแบบ
พิกัด : Batu caves
เสร็จจาก ทัวร์ Batu caves ก็ได้เวลาหาของลงท้องเพราะเขาเชื่อว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องนะจ๊ะ เลยตัดสินใจไปเดินห้างแอร์เย็นๆกันบ้างดีกว่าเผื่อช้อปปิ้ง (อีกแล้ว) เมืองไทยมีพารากอนฉันใด กัวลาลัมเปอร์ก็มี Pavillion ฉันนั้น ขาช้อปแบรนด์ดังทั้งหลายห้ามพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวง
พิกัด : Pavilion Kuala Lumpur
หลังจากหาข้าวหาปลาเดินเล่นกันพอหอมปากหอมคอแล้วที่ต่อไปที่เราจะไปกันก็คือดูวิวกลางคืนที่ตึก KL Tower หรือ หอคอยกัวลาลัมเปอร์ โดยนั่ง Monorail จากสถานี Bukit Bintang ไปลงสถานี Bukit Nanas ที่หอคอยมีความสูงประมาณ 421 เมตร บนชั้นบนของหอคอย เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถที่จะขึ้นไปชมวิวมุมสูงของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ยามค่ำคืน ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ใครไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ก็อยากให้ไปชมความสวยงามนี้กัน
พิกัด : KL Tower
ก่อนสิ้นสุดค่ำคืนที่แสนยาวนานวันนี้เรากับเพื่อนตัดสินใจหิวท้องที่ร้องจ๊อกๆ หวังพึ่งน้ำบ่อหน้ากันที่ Jalan Alor Food Street โดยนั่งรถไฟมาลงที่ Bukit Bintang ร้านอาหารมากมายละลานตาตลอดเส้น แต่ละร้านก็คล้ายๆกัน ใครใคร่อยากกินแบบไหนเลือกกันได้ตามอัธยาศัยเลย ก่อนกลับที่พักเตรียมบินวันพรุ่งนี้เช้า
พิกัด : Jalan Alor Food Street
3 วัน 2 คืนเรียกได้ว่าอัดแน่นทั้งทริปกันไปเลย ไม่เบลอจะงงมากทริปนี้ได้กิน เที่ยว ช้อป แบบจุใจมากก่อนก้มหน้ารับชะตากรรมกับหนี้บัตรที่ถล่มทลายเหลือเกิน 555555 แต่ไม่เป็นไรมันคือกำไรชีวิตเราคิดเสมอว่าการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเหนื่อยหรือสบายมันคือกำไรชีวิตทั้งหมด สำหรับทริป ช้อป กิน เที่ยว ที่ "กัวลาลัมเปอร์" เป็นอีกหนึ่งทริปที่เรียกได้ว่าจุกมากกก จุกทั้งเงิน จุกทั้งท้อง จุกทั้งความสุข เป็น 3 วันที่พูดได้เลยว่าเหนื่อยจริง แต่ก็มีความสุขที่ได้มา วันนี้ ทัวร์ครับ ขอลาไปก่อนไว้พบกันทริปหน้านะครับ มาดูกันว่าเราจะพาไปเบลอ ไปจุกกันแบบนี้ไหนอีก ไปแล้ววบ๊ายบายยย
คุณชอบบทความนี้
อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย