Tourkrub Logo
ทัวร์จอร์เจีย

ทัวร์จอร์เจีย

พบ 5 แพ็คเกจ
เรียงตาม
ตัวช่วยค้นหา
ราคา
ช่วงเดือน
วันหยุด
จำนวนวันเดินทาง
สายการบิน
เส้นทาง
ทั่วไป
รหัส 17094
17094 ทัวร์จอร์เจีย วัน 5 คืน เมืองอัพลีสสิค นั่งกระเช้าไฟฟ้าโคบิ-กูดาอูรี  อนุสรณ์สถานรัสเซีย&จอร์เจีย 7 บิน Qatar Airways
ทัวร์จอร์เจีย
7 วัน 5 คืน
มี.ค. / เม.ย.
เมืองอัพลีสสิค นั่งกระเช้าไฟฟ้าโคบิ-กูดาอูรี อนุสรณ์สถานรัสเซีย&จอร์เจีย
2
ที่เที่ยว
17
มื้ออาหาร
ที่พัก
Qatar Airways
52,990
เริ่มต้น50,990
ทั่วไป
รหัส 16905
16905 ทัวร์จอร์เจีย วัน 5 คืน โบสถ์เกอร์เกตี้ กระเช้าไฟฟ้าป้อมนาริคาล่า 8 บิน GULF AIR
ทัวร์จอร์เจีย
8 วัน 5 คืน
มี.ค. / เม.ย. / พ.ค.
โบสถ์เกอร์เกตี้ กระเช้าไฟฟ้าป้อมนาริคาล่า
3
ที่เที่ยว
15
มื้ออาหาร
ที่พัก
GULF AIR
เริ่มต้น50,990
ชมสถาปัตย์
รหัส 17597
17597 ทัวร์จอร์เจีย วัน 5 คืน ทบิลิซี่ เมืองกูดาอูรี อนุสรณ์สถานรัสเซีย&จอร์เจีย เมืองควาเรลี 8 บิน GULF AIR
ทัวร์จอร์เจีย
8 วัน 5 คืน
ก.ย. / ต.ค. / พ.ย.
ทบิลิซี่ เมืองกูดาอูรี อนุสรณ์สถานรัสเซีย&จอร์เจีย เมืองควาเรลี
4
ที่เที่ยว
12
มื้ออาหาร
ที่พัก
GULF AIR
เริ่มต้น46,990
ชมสถาปัตย์
รหัส 17596
17596 ทัวร์จอร์เจีย วัน 5 คืน ทบิลิซี่ เมืองคาซเบกี้ อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย เมืองมิทสเคต้า 8 บิน Turkish Airlines
ทัวร์จอร์เจีย
8 วัน 5 คืน
เม.ย. / พ.ค. / มิ.ย.
ทบิลิซี่ เมืองคาซเบกี้ อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย เมืองมิทสเคต้า
3
ที่เที่ยว
15
มื้ออาหาร
ที่พัก
Turkish Airlines
เริ่มต้น54,990
เน้นวัฒนธรรม
รหัส 17346
17346 ทัวร์จอร์เจีย วัน 5 คืน น้าตกเลกทากิวี วิหารบอดี โบสถ์บรากาติ 8 บิน Turkish Airlines
ทัวร์จอร์เจีย
8 วัน 5 คืน
เม.ย.
น้าตกเลกทากิวี วิหารบอดี โบสถ์บรากาติ
3
ที่เที่ยว
17
มื้ออาหาร
ที่พัก
Turkish Airlines
เริ่มต้น62,999
  • ‹‹
  • 1
  • ››

เที่ยวจอร์เจีย อันตรายไหม? 7 ที่เที่ยวปลอดภัย เดินทางได้ทุกฤดู

ทัวร์จอร์เจีย (Georgia) ไปเที่ยวกับทัวร์ ไปเที่ยวเอง ไปได้ปลอดภัย ไม่อันตราย ที่สำคัญจอร์เจียไม่ต้องทำวีซ่า มีเพียงพาสปอร์ตก็ไปได้แล้ว แนะนำก่อนจองทัวร์จอร์เจียให้เช็คอายุพาสปอร์ตต้องเหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน ทัวร์จอร์เจีย คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมทั้ง 2 แบบ ยุโรป และเอเชียผสานกันอย่างลงตัว เนื่องจากที่ตั้งประเทศคาบเกี่ยวอยู่บนจุดตัดระหว่างทวีปยุโรป และเอเชีย จึงทำให้จอร์เจียได้รับฉายาว่าเป็นดินแดนสองทวีปคล้ายๆ กับตุรเคีย (Türkiye) เลย

1.ทัวร์จอร์เจีย ย่านเมืองเก่าทบิลิซี 

ย่านนี้มีอาคารบ้านเรือน สไตล์คลาสสิก บ่งบอกถึงร่องรอยแห่งอารยธรรมเก่าแก่ทำให้เมืองนี้มีบรรยากาศแบบยุโรปสวยงาม ย่านนี้มีโรงอาบน้ำแร่เก่าแก่อยู่มากมาย คล้ายกับออนเซ็นของชาวญี่ปุ่น เนื่องจากบางช่วงของจอร์เจียจะมีอากาศหนาวจัด ซึ่งน้ำแร่ร้อนจะให้ความอบอุ่นกับร่างกายได้ ใครมาทัวร์จอร์เจีย แนะนำว่าต้องมาเช็คอินย่านเมืองเก่าทบิลิซีและแช่น้ำแร่กันให้ได้นะครับ

2.ทัวร์จอร์เจีย ป้อมนาริคาล่า 

ป้อมปราการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เพื่อปกป้องตัวเมือง โดยชื่อป้อมนี้ในภาษาเปอร์เซียนั้น แปลว่าป้อมที่ไม่สามารถตีแตกได้ นักท่องเที่ยวทัวร์จอร์เจียสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองทบิลิซีจากมุมสูงในป้อมได้ การเดินทางไปยังป้อมจะใช้การเดินหรือนั่งกระเช้าสู่ด้านบน ด้านบนมีรูปปั้น เดอะ มาร์เธอ ออฟ จอร์เจีย ซึ่งเป็นรูปปั้นหญิงสาวสูง 20 เมตร บนยอดเขาโซโลลากิ 

3.ทัวร์จอร์เจีย เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย 

อนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของทัวร์จอร์เจีย อยู่บนภูเขาสูงนอกเมือง บอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 16 ต้น แต่ละต้นสูงถึง 35 เมตร มองเห็นได้จากระยะไกล ที่นี่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1985 สมัยจอร์เจียยังอยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย ปัจจุบันยังสร้างไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีความยิ่งใหญ่สวยงาม

4.ทัวร์จอร์เจีย โบสถ์ทรินิตี้

หรือ มหาวิหารซาเมบา โบสถ์ออร์โธดอกซ์ที่งดงาม ขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดในจอร์เจีย และยังเป็นโบสถ์สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ช่วงเวลาที่แนะนำในการมาชมคือช่วงเช้าหรือเย็นที่แดดไม่แรงมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์จอร์เจียสามารถมาถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมต่างๆ ได้สบาย 

5.ทัวร์จอร์เจีย สะพานสันติภาพ 

สะพานข้ามแม่น้ำคูราเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและตัวเมืองใหม่ของเมืองทบิลิซี  มีความยาว 150 เมตร โครงสร้างหลักของสะพานทำมาจากเหล็กและกระจกใส โดยจัดว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ซึ่งมีความสวยงามของจอร์เจีย ใกล้สะพานยังมีสวนและสถานที่เดินเล่นเที่ยวชมเพลินๆ มาทัวร์จอร์เจียเมื่อไหร่ ควรต้องมาเช็คอิน

6.ทัวร์จอร์เจีย มหาวิหารจวารี 

โบสถ์นี้เป็นโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์ สถานอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวจอร์เจียนับถือมากๆ อยู่บนภูเขามีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน คือแม่น้ำมิควารีและแม่น้ำอารักวี ภายในมีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่านักบุญนีโน่ แห่งคัปปาโดเกีย ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามาพร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในสมัยโบราณ องค์การยูเนสโกได้ทำการขึ้นทะเบียนที่นี่เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1994 มาทัวร์จอร์เจียทั้งที แนะนำว่าต้องมาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มหาวิหารแห่งนี้ถึงจะเรียกว่ามาถึงจอร์เจียอย่างแท้จริง

7.ทัวร์จอร์เจีย เมืองบาทูมี 

เป็นเมืองหลวงของอัดจารา สาธารณรัฐอิสระซึ่งปกครองตนเองอยู่ทางตะวันตกของจอร์เจีย เมืองนี้มีความงามของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจและอยู่ใกล้กับทะเลดำ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจอร์เจียจึงสามารถล่องเรือเพื่อชมความงามของอ่าวบาทูมีและทะเลดำได้ หรือจะเลือกเดินชมถนนเลียบชายหาดที่ยาวถึง 6 กิโลเมตร และตลอดเส้นทางประดับประดาด้วยน้ำพุงดงามตลอดสาย ตลอดเส้นทางยังมีอนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมโลหะสมัยใหม่รูปคู่รักชายชาวอาเซอร์ไบจานและหญิงสาวชาวจอร์เจียนในนวนิยายท้องถิ่น 

เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี ที่นี่มีคำตอบ มาดูกันเลย

เที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี ที่นี่มีคำตอบ..สำหรับใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวจอร์เจียแต่ไม่รู้ว่าจะไปเดือนไหนช่วงไหนดี วันนี้ทัวร์ครับเรามีคำตอบมาให้ ตามมาอ่านกันได้เลย

ถ้าพูดถึงเรื่องเทรนด์การเที่ยวต่างประเทศแล้วละก็คงหนีไม่พ้นชื่อนี้กันอย่างแน่นอน ใช่แล้วที่นั่นคือ “จอร์เจีย” นั่นเอง ซึ่งตอนนี้กระแสมาแรงแซงทางโค้งในโลกโซเชียลกันเลยล่ะ เพราะด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และ วัฒนธรรมที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ หนึ่งประเทศที่เป็นดั่งเพชรเม็ดงามไม่แพ้ที่ใด จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมความสวยงามนี้และแชร์กันไปจนติดเทรนด์ท่องเที่ยวนั่นเอง เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี? 

มาถึงคำถามที่ใครๆก็อยากรู้คำตอบว่า เราจะไปเที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี เพราะเราไม่รู้ว่าไปช่วงไหนจะเจออากาศแบบไหน เป็นสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวจอร์เจียได้อย่างดีเลยล่ะครับ ซึ่งประเทศจอร์เจียนั้น มีอยู่ 4 ฤดูเหมือนประเทศยุโรปทั่วไปเลยครับ ซึ่งในแต่ละฤดู ในแต่ละช่วงเดือนก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ชอบเที่ยวฤดูไหนไปดูกันเลย 

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) 

เที่ยวจอร์เจียในฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-24 องศา เที่ยวจอร์เจีย ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่คนไทยชอบมากที่สุด ด้วยอากาศที่เย็นสบายตอนกลางวัน ตกดึกอากาศจะหนาวตามลำดับ เวลาเดินตามเวลาปกติ เป็นช่วงที่ดอกไม้ใบไม้เริ่มผลิดอกออกใบ ตามภูเขาที่สูงยังมีหิมะขาวโพลน ใครที่พลาดเล่นสกีช่วงฤดูหนาว มาฤดูก็ยังทันนะ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 - 24 องศาเซลเซียส ช่วงนี้พื้นที่บนยอดเขาบางส่วนอาจยังถูกปกคลุมด้วยหิมะอยู่ จึงเหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวมาทัวร์จอร์เจีย และรักการถ่ายรูป Landscape 

ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) 

เที่ยวจอร์เจีย ฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 16-31 องศา ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดและเป็น High Season ของจอร์เจีย ข้อดีของช่วงฤดูร้อนนี้ก็คือ กลางวันนาน เที่ยวได้นานตลอดทั้งวัน มีแสงถ่ายรูปทั้งวัน และไม่ค่อยเจอฝน ไม่เจอปัญหาหิมะถล่ม และอีกหนึ่งไฮไลท์ในฤดูร้อนของที่นี่ก็คือผลไม้หลากหลายชนิด เช่น พีช เบอร์รี่ เชอร์รี่ องุ่น ที่ออกมาให้ทานกันสดๆ หวาน อร่อย และราคาถูกมาก อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 16 - 31 องศาเซลเซียส ไฮไลท์ของทัวร์จอร์เจียแห่งปีต้องยกให้ช่วงนี้เลยทีเดียว อากาศกำลังดีได้ชมดอกไม้สีสันสวยงาม หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างสบายๆ

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) 

เที่ยวจอร์เจีย ฤดูใบไม้ร่วง อากาศในฤดูนี้จะเย็นสบายไปทางเริ่มหนาว ฤดูนี้ค่อนข้างคล้ายกับฤดูใบไม้ผลิช่วงนี้ใบไม้จะออกสีโทนจะส้มๆ ใบไม้เริ่มแห้งเพื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ช่วงนี้อากาศจากเย็นตอนกลางวัน แล้วหนาวเลขตัวเดียวตอนกลางคืน มาพร้อมกับวิวของต้นไม้ตามภูเขาที่กำลังเปลี่ยนสีเพื่อเตรียมต้อนรับฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 4 - 20 องศาเซลเซียส ช่วงนี้ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี หากมาทัวร์จอร์เจียฤดูนี้ จะได้เห็นบรรยากาศที่สวยงาม 2 รูปแบบ คือสีของใบไม้และหิมะขาวโพลน


ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)

เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี ถ้าใครอยากสัมผัสหิมะหรือเล่นสกี แน่นอนว่ามาช่วงฤดูหนาวได้เลย เพราะจอร์เจีย เป็นอีกจุดหมายปลายทางของคนเล่นสกีนั่นเอง ช่วงฤดูหนาวนี้สกีรีสอร์ทนั้นส่วนใหญ่จะถูกจองเต็มกันหมด จอร์เจีย ฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิเลขตัวเดียวไปจนถึงเลขติดลบ ข้อเสียของการเที่ยวจอร์เจียช่วง ฤดูหนาวคือ ใช้ชีวิตลำบากถ้าวันไหนหิมะตกหนัก ถนนปิดบ้างจากกองหิมะขว้างถนน และช่วงกลางวันจะสั้นมาก มืดเร็ว แต่ถ้าใครอยากเจอหิมะ มาเล่นสกี ฤดูหนาวนี่แหละเหมาะที่สุด  อุณหภูมิเฉลี่ยช่วงนี้จะอยู่ที่ประมาณ -3 ถึง 8 องศาเซลเซียส อากาศหนาว และอาจมีหิมะตกหนัก บนเทือกเขาก็จะถูกปกคลุมด้วยหิมะ จึงเหมาะมากสำหรับการเล่นสกี

ทำความรู้จักประเทศจอร์เจีย

จอร์เจีย ประเทศเล็กๆอยู่แถวเทือกเขาคอเคซัสตอนใต้ ประเทศจอร์เจีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี ทางเหนือของประเทศจอร์เจียนั้นติดกับประเทศรัสเซีย ทางใต้ติดกับประเทศตุรกี ประเทศอาร์มีเนีย และประเทศอาเซอร์ไบจาน นอกจากจอร์เจียนั้นมีภูมิประเทศที่สวยงามและภาษาที่เก่าแก่แล้ว จอร์เจียยังมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกด้วย แม้จอร์เจียจะตั้งอยู่ในเอเชียแต่สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมนั้นสวยงามเหมือนกับทวีปยุโรป นอกจากนี้ค่าเงินของจอร์เจียนั้นนับบว่าอยู่ในระดับที่นักท่องเที่ยวอย่างเรารับได้ และค่าครองชีพก็ไม่สูงมากนัก จึงเป็นเส้นทางใหม่ที่นักท่องเทียวต่างใฝ่ฝัน แถมยังเดินทางจากประเทศไทยไปจอร์เจียใช้เวลาเพียง 11-12 ชั่วโมงเท่านั้น

เที่ยวจอร์เจีย ได้ทุกเดือน ไม่ต้องขอวีซ่า !

ใช่แล้วครับ เพราะประเทศจอร์เจียเป็นอีกหนึ่งประเทศใน 32 ประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเข้าไปเที่ยวในประเทศจอร์เจียได้เป็นระยะเวลายาวๆถึง 365 วัน !! ถึงแม้จะไม่ต้องขอวีซ่าแต่ถ้าลืมนำพาสปอตไปก็เข้าประเทศไม่ได้นะครับ อย่าลืมเช็คให้ดีๆ ล่ะ 

สถานที่เที่ยวจอร์เจีย แนะนำ

1.ทบิลิซี 

แผนที่: Tbilisi

ทบิลิซีคือเมืองหลวงของประเทศจอร์เจียและเป็นจุดหมายหลักในการเริ่มต้นสำรวจประเทศน่าเที่ยวแห่งนี้ เสน่ห์ของทบิลิซีคือการรักษาเอกลักษณ์ของเมืองเก่าที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 ควบคู่ไปกับการพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวเมืองตั้งอยู่ในหุบเขาถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยแม่น้ำมิกวาริ  อาคารบ้านเรือนของที่นี่สวยงาม ตัวบ้านทาสีพาสเทลหลังคาโทนสีส้มสดใส เป็นลักษณะแบบเดียวกันทุกพื้นที่คล้ายกับประเทศฝั่งยุโรป 

2.มหาวิหารจวารี 

แผนที่: Jvari Monastry

สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจอร์เจียนับถือสูงสุด โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ของศานาคริสต์นิกายออโธด๊อก สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งชาวเมืองกล่าวกันว่า นักบุญนีโน่ หรือแม่ชีนีโน่ แห่งคัปปาโดเกีย ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามาพร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล

3.เทือกเขาคอเคซัส 

แผนที่: Caucasus Mountains

เทือกเขาคอเคซัส เป็นเทือกเขาสูงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของทวีปยุโรป โดยมียอดเขาเอลบรูสที่มีความสูงกว่า 5,642 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ทำหน้าที่แบ่งพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้เกิดกลุ่มประเทศที่อยู่ในสองทวีปขึ้น ซึ่งบนเทือกเขาคอเคซัสในฝั่งประเทศจอร์เจีย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ ยอดเขาคาสเบก หนึ่งในภูเขาบนเทือกเขาคอเคซัส ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวได้อย่างสุดลูกหูลูกตา

4.โบสถ์สมินดา ซาเมบา 

แผนที่: Tsminda Sameba

โบสถ์สมินดา ซาเมบา หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โบสถ์เกอเกติ เป็นโบสถ์เก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่ในเมืองคาสเบกิ บนหน้าผาริมแม่น้ำเชเครี สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร ท่ามกลางวิวของเทือกเขาคอเคซัสเป็นฉากหลัง ซึ่งทัศนียภาพที่สวยงามของโบสถ์นี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจอร์เจียไปอีกที่ที่ไม่ควรพลาด

5.โบสถ์เกอลาติ 

แผนที่: Gelati Monastery

โบสถ์เกอลาติ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจอร์เจียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1106 นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคทองของเศรษฐกิจและการเมือง ในจอร์เจียช่วงยุคกลางระหว่างศตวรรษที่ 11 และ 13 ตัวโบสถ์โดดเด่นด้วยด้านหน้าของตัวอาคารที่ใช้อิฐบล็อกขนาดใหญ่ ช่องประตูและหน้าต่างโค้งได้สัดส่วนสวยงาม โบสถ์เกอลาติเป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์และการศึกษา อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจียโบราณอีกด้วย

เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกันทุกที่เลยใช่มั้ยล่ะครับ ทั้งเที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดีและสถานที่เที่ยวจอร์เจียแนะนำ พอจะทำให้เพื่อนๆ เกิดไอเดียในการเที่ยวจอร์เจียได้บ้างไหมเอ่ย หากใครที่กำลังอยากไปเที่ยวจอร์เจีย แต่ไม่อยากไปเที่ยวเองวางแพลนให้ยุ่งยาก ก็จองทัวร์จอร์เจียร์กับทัวร์ครับกันได้เลย

คำที่เกี่ยว้อง : ทัวร์จอร์เจีย 5 ดาว, ทัวร์จอร์เจีย 5 วัน 3 คืน, ทัวร์จอร์เจีย บริษัท ไหนดี, ทัวร์จอร์เจีย 2566