เที่ยวญี่ปุ่ยังไงให้ครบ!! มาดูเที่ยวญี่ปุ่น4 เส้นทางยอดฮิตที่ต้องไปเก็บให้ครบ แน่นอนว่าไปแค่ครั้งเดียวไม่เคยพอ !
ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในชื่อประเทศท่องเที่ยวที่หนึ่งในใจของคนไทยหลายคน ไม่ว่าจะไปกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ ไปแล้วไปอีกไม่เคยพอ แถมยังเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหนๆ การเดินทางในประเทศญี่ปุ่นก็สะดวกสบาย แต่ละสถานที่มีป้ายบอกชัดเจน ทำให้ไปเที่ยวเองได้ไม่ยาก ล่าสุดญี่ปุ่นเปิดฟรีวีซ่า แถมสายการบินก็แข่งกัน ทำโปรโมชั่น ทัวร์ญี่ปุ่นก็อยู่ในราคาที่เอื้อมถึง ทำให้การไปญี่ปุ่นเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มวางแผนอย่างไร จะไปเที่ยวญี่ปุ่นเมืองไหนดี วันนี้ทัวร์ครับก็ได้คัด 4 เส้นทางยอดฮิตพร้อมบอกสถานที่เที่ยวในทริปญี่ปุ่นให้ได้ตามรอยกันง่ายๆ พร้องแล้วตามมาเซฟข้อมูลกันได้เลยยย
สถานที่เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียวที่ต้องไปเก็บให้ครบ
วัดชื่อดังที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่ผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด จุดไฮไลท์ยอดนิยมในการถ่ายรูปเช็คอินของโตเกียวเลยล่ะ
พิกัด: Asakusa
ถนนคนเดินใกล้ๆวัดอาซากุซะ ที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย อาทิ ขนมนานาชนิด ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก ฯลฯ ให้เราได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกจากโตเกียว
พิกัด: Nakamise Shopping Street
แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว ณ ริมแม่น้ำสุมิดะ โตเกียวสกาย ทรี ที่สามารถมองเห็นได้วิวความสวยงามจากทุกหนทุกแห่งของเมืองโตเกียว ถือว่าเป้นจุดเช็คอินอีกแห่งที่คนไปโตเกียวไม่ควรพลาด
พิกัด: Tokyo Skytree
แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงในโตเกียว นอกจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งแล้วย่านโอไดบะยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตั้งอยู่มากมายแล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียวอีกด้วย
พิกัด: Odaiba
ลานสกีญี่ปุ่รชื่อดัง มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ เพลิดเพลินกับการเล่นสกี กระดานเลื่อน สำหรับสาวๆที่ไม่อยากเล่นสกี ก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆให้ถ่ายรูปกันด้วยนะครับ
พิกัด: Fujiten Snow Resort
แหล่งนํ้าตามธรรมชาติตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอชิโนะ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และไอเย็นจากแหล่งนํ้าธรรมชาติและที่สำคัญหมู่บ้านโอชิโนะยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าโอท็อปชั้นเยี่ยมอีกด้วย
พิกัด: Oshino Hakkai Village
แหล่งช้อปปิ้งที่ใครมาเที่ยวโตเกียวต้องห้ามพลาด เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมาย ตั้งแต่ เครื่องใช้ ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย แลกเงินมาเท่าไหร่ก็ไม่พอนะบอกก่อน
พิกัด: Shinjuku
สถานที่เที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า ทาคายาม่า เกียวโต ที่ต้องไปเก็บให้ครบ
เริ่มกันที่ทัวร์เกียวโตกับวัดคินคะคุจิที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า วัดทอง เนื่องจากที่วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อนกับพื้นน้ำเบื้องหน้า จนเกิดเป็นภาพที่สวยงามเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเกียวโต
พิกัด: Kinkakuji
ศาลเจ้าเฮอันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงจักรพรรดิคามมุและจักรพรรดิ์โคเมอิ ผู้ที่มีความสำคัญต่อเมืองเกียวโต สถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเฮอันนั้นเมื่อเทียบกันแล้วค่อนข้างจะโดดเด่นจากศาลเจ้าอื่นๆของญี่ปุ่น ภายในศาลเจ้าจะมีส่วนที่เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นซากุระอยู่มากมาย ทำให้ศาลเจ้าเฮอันเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงของเมืองเกียวโตด้วย หากอย่างไปชมซากุระให้ไปช่วงมีนาคม-เมษายน
พิกัด: Heian Shrine
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคชูบุ และมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองเอกของจังหวัดไอจิและเป็นหนึ่งในเมืองท่าหลักของญี่ปุ่น ปัจจุบันจัดเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ เป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยมีฐานการผลิตรถยนต์, ยานอวกาศ, เครื่องจักร, เซรามิก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้ท่านมาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
พิกัด: Nagoya
ธีมพาร์คสวนดอกไม้ ที่มีทุ่งดอกไม้ให้ชมตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตลอดจนถึงปลายฤดูหนาว ช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการประดับไฟขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
พิกัด: Nabana no Sato Winter Illumination
เมืองเก่าแก่อยู่ในหุบเขาล้อมรอบด้วยเทือกเขาเจแปนแอลป์ เยือน ซันมาชิซูจิ หมู่บ้านอนุรักษ์ ที่ถูกขนานนามไว้ว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อย เป็นเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งอารยธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ บ้านเรือนสร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ บรรยากาศเก่าแก่ อายุเป็นร้อยๆปี
พิกัด: Takayama
ชิราคาวาโกะ มรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
พิกัด: Shirakawa-go
เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูน้ำ และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี
พิกัด: Osaka Castle
สถานที่เที่ยวญี่ปุ่น เซนได ที่ต้องไปเก็บให้ครบ
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองฮิราอิซูมิ ก่อตั้งขึ้นในปี 850 เป็นวัดของพระพุทธศาสนานิกายเทนได ประกอบด้วยอาคารต่างๆ สิบกว่าหลังในพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่หลังจากการล่มสลายของตระกูลฟูจิวาระในปลายศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันจึงเหลืออาคารดั้งเดิมเพียง 2 หลัง บริเวณที่ตั้งของวัดชูซนจินั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2011 อีกด้วย
พิกัด: Chuson-ji
หมู่บ้านโบราณในบรรยากาศประวัติศาสตร์สมัยเฮอัน เป็นสถานที่สำหรับถ่ายภาพยนต์ ละครทีวี มากกว่า 200 เรื่องด้วยกัน นอกจากจะเดินชมบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคแล้วนั้น ภายในยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย เช่น การแต่งกายเป็นขุนนางสมัยเฮอัน การแต่งกายแบบซามูไร โดยทดลองสวมเกราะแบบซามูไร การลองฝึกยิงธนู นอกจากนี้ยังมีโซนถ่ายภาพแบบ ART 3 มิติ อีกด้วย
พิกัด: Esashi Fujiwara Heritage Park
เป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ ปราสาทหลังคาสีเเดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองไอสุวาคามัทซึ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไอสุวาคามัทซึ เดิมมีชื่อว่า ปราสาทคุโระคะวะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1384 โดยตระกูลอะชินะ แต่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1611 ทำให้ปราสาทเสียหายหนักและได้มีการบูรณะและปรับจากปราสาท 7 ชั้น เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้น ปราสาทแห่งนี้ ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่ยังทิ้งร่องรอยของเหล่านักรบซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่น ที่ได้เลือกปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้ (ไม่รวมค่าเข้าชมท่านละ 410 เยน)
พิกัด: Tsuruga Castle Fukushima
บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆ เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยรวมมีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโออุจิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว (ไม่รวมค่าเข้าชม โออุจิจูคุ มะชินะมิ เท็นจิคัง ท่านละ 250 เยน)
พิกัด: Ouchi-Juku
เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองอินะวะชิโระ ใจกลางของจังหวัดฟุคุชิมะ และเป็นทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติบันได อะซะฮี ซึ่งเป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียงในแถบนี้ ทะเลสาบอินะวะชิโระเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้น้ำมีลักษณะของธาตุที่เป็นกรดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ใต้น้ำได้ ส่งผลให้น้ำใสจนได้รับขนานนามว่า “ทะเลสาบแห่งกระจกสวรรค์”
พิกัด: Lake Inawashiro
มีอาณาบริเวณถึง 18,000 ตารางฟุต รวบรวมเอาสุนักจิ้งจอกหลายหลายสายพันธ์ หลากสี ที่ญี่ปุ่นนั้นเชื่อว่าจิ้งจอกเป็นผู้ส่งสารของ Inari Okami เทพเจ้าชินโตด้านความอุดมสมบูรณ์ ที่นี่แบ่งออกเป็นสองโซน คือโซนสัตว์ที่อยู่ในกรง มีทั้ง แพะ แกะ กระต่าย ม้า สุนัขจิ้งจอก ซึ่งสามารถให้อาหารได้ กับโซนเปิดที่มีจิ้งจอกเดินไปมา อิสระให้ท่านชมความน่ารัก ขนฟูตัวนุ่มของสุนัขจิ้งจอกตามอัธยาศัย
พิกัด: Zao Fox Village
เป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่เป็นแนวกันพรมแดนระหว่าง Yamagata กับ Miyagi ของภูมิภาคโทโฮคุ ทางฝั่งจังหวัดยามากาตะ และเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวในการมาชมทัศนียภาพอันงดงามตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมทั่วพื้นที่เป็นสีขาวโพลน ชมปีศาจหิมะ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า จูเฮียว ซึ่งเป็นน้ำแข็งที่เกิดจากจะสะสมของหิมะที่ตกลงมาจนก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ พออยู่รวมๆ กัน ดูราวคล้ายกับปีศาจ และในเวลากลางคืนยังมีการเปิดไฟไลท์อัพเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
พิกัด: Mount Zao
สร้างขึ้นในปี 1600 โดยขุนนางนามว่า ดาเตะ มาซามูเนะ สร้างขึ้นสำหรับป้องกันเมือง ปราสาทแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ภูเขาและป่าซึ่งยังคงอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ แม้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซาก แต่กำแพงหินและประตูนั้นได้รับการบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้ง จากทำเลที่ตั้งของบริเวณปราสาท ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองเซนได
พิกัด: Aoba Castle
ศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยแหล่งรวมพลของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกประกอบด้วยแบรนด์ดังถึง 128 แบรนด์ เพียบพร้อมด้วยสินค้าสำหรับทุกคนตั้งแต่สินค้าแฟชั่นหญิงชาย และเด็ก จนถึงอุปกรณ์กีฬา และสินค้าทั่วไป นอกจากนี้ภายในห้าง ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่จุได้ 650 ที่นั่ง และมี Hokkaido Roko Farm Bridge ซี่งเป็นพื้นที่ที่มีสินค้าท้องถิ่นและสินค้าจากฟาร์มสดมาขายอีกด้วย
พิกัด: Mitsui Outlet Park
สถานที่เที่ยวญี่ปุ่น ฮอกไกโด ที่ต้องไปเก็บให้ครบ
หมู่บ้านชื่อดังของเกาะฮอกไกโด นับย้อนหลังไปตั้งแต่สมัยต้นโชวะ ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ถือกำเนิดราเมนขึ้น ณ เมืองซัปโปโรโดยการผสมผสานบะหมี่หลากหลายชนิดของประเทศจีนเข้าด้วยกัน และต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เสร็จสิ้นลงราเมนของเมืองอาซาฮิกาว่า ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน
พิกัด: Asahikawa Ramen Village
ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เข้าชมความน่ารักของสัตว์ต่างๆ ที่ไม่ได้ถูกกักขังในกรงแบบที่ท่านเคยเห็นในสวนสัตว์ทั่ว ๆ ไปถึงกว่าปีละ 3 ล้านคนจากทั่วโลก โดยสวนสัตว์แห่งนี้ได้มีแนวความคิดที่ว่า สัตว์ต่างๆ ควรที่จะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและเป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์นั้นๆ จึงทำให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของสัตว์แต่ละประเภท อาทิเช่น หมีขาวจากขั้วโลก นกเพนกวินสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงครอบครัวลิงอุลังอุตังแสนรู้
พิกัด: Asahiyama Zoo
คลองโอตารุเป็นคลองที่เกิดขึ้นจากการถมทะเล สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่สู่โกดังในเมือง ภายหลังเลิกใช้จึงถมคลองครึ่งหนึ่งเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวแทนโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกนั่นเอง
พิกัด: Otaru
ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี ท่านสามารถชมกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ สวยงามมากมายที่ถูกสะสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกคิดแบบทำกล่องดนตรีในสไตล์ของตัวเองขึ้นมาเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนรักได้อีกด้วย
พิกัด: Otaru Music Box Museum
เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า Susukin มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์, ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น, ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอาง
พิกัด: Tanukikoji
ตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร ตลาดปลาแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1903 และตลาดแห่งนี้รู้จักกันในนาม “ครัวทะเลของชาวเมืองซัปโปโร” เพราะสัตว์ทะเลที่จับได้ส่วนใหญ่จะหาได้จากทะเลแถบนี้ทั้งสิ้น ซึ่งจะมีความสดมากเหมือนไปเดินซื้อที่ ท่าเรือเลยทีเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศรวมถึงชาวบ้านเข้า มาจับจ่ายใช้สอยกันเสมอ ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่อง ไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน
พิกัด: Nijo Fish Market
ภายในบริเวณนี้ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนและบ่อโคลนเดือดเกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ทำให้มีลักษณะคล้ายกระทะทองแดง ซึ่งจะมีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา จากใต้พิภพ
พิกัด: Jigokudani noboribetsu
สำหรับใครยังไม่จุใจกับสถานที่เที่ยวญี่ปุ่น 4 เส้นทางยอดฮิต ทัวร์ครับเราก็ยังมีเส้นทางการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาแนะนำอีกมากมาย ไปเที่ยวเองตามรอยก็ได้ไปกับทัวร์ก็สนุกสะดวกสบายไปอีกแบบ บอกเลยว่าถ้าได้ไปเที่ยวญ๊่ปุ่นสักครั้งแล้วจะติดใจ ไปแล้วไปอีกอย่างแน่นอน
คุณชอบบทความนี้
อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย