รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับแมลงกินเนื้อที่ญี่ปุ่นหรือโรคเนื้อเน่ามาให้ได้อ่าน จะได้ไปทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นกันแบบสบายใจหายห่วง
เป็นข่าวดังกันอยู่พักใหญ่ เกี่ยวกับข้อข้องใจเรื่องแมลงกินเนื้อที่ญี่ปุ่น เพราะเนื่องจาก กรณี บอย-ปกรณ์ ที่ต้องรีบเข้ารับการผ่าตัดด่วนหลังถูกแมลงกินเนื้อกัดที่ประเทศญี่ปุ่นจากการลงแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่น แล้วเกิดอาการคัน แต่แผลอักเสบและลามถึง 2 ฝ่ามือหลังกลับจากไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ซึ่งข่าวนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนที่จะกำลังเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นหวั่นใจกันหน่อยๆ แต่อย่าเพิ่งตกใจกันครับ เพราะมันมีวิธีป้องกันและวิธีรักษามานานแล้ว ซึ่งวันนี้ ทัวร์ครับ เราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับแมลงกินเนื้อที่ญี่ปุ่นหรือโรคเนื้อเน่ามาให้ได้อ่าน จะได้ไปทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นกันแบบสบายใจหายห่วง ตามไปอ่านกันเลย
บอกตามตรงเลยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนไทยประสบเหตุการณ์แบบเดียวกันกับคุณบอย-ปกรณ์ ของเราครับ หลายคนอาจจะรู้จัก การเกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือที่ติดหูกันว่า แมลงกินเนื้อคน กันมาคร่าวๆบ้างแล้ว ซึ่งล่าสุด นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกมาบอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติคนที่ถูกแมลงกัดจะมีอาการอยู่ประมาณ 4 แบบ
1. แมลงที่กัดแล้วมีบาดแผล มีอาการ ปวดแสบ ปวดร้อน มีอาการอยู่ 2-3 วันก็จะหายเป็นปกติ
2. แมลงบางประเภท อาจจะทำให้คนที่ถูกกัดหรือต่อยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันที่ไวเกินเกิด ภาวะแพ้อย่างรุนแรงถึงขั้นช็อค หายใจไม่ออกเพราะหลอดลมหายใจหดเกร็ง ต้องรีบพาไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
3. แมลงบางชนิดมีสารพิษในตัว เช่น แมลงก้นกระดก หากกัดแล้วปัดทิ้งธรรมดาจะเจ็บปวดเป็นปกติ แต่ถ้าตบ ตัวแมลงก้นกระดกแตกออกจะมีสารพิษออกมาสัมผัสผิวหนังทำให้ระคายเคือง เป็นผื่น มีตุ่มน้ำ เจ็บปวด แสบร้อน มีอาการคันร่วมด้วย
4. แมลงบางประเภทกัด ต่อยจะปล่อยวัสดุบางอย่างเข้ามาในร่างกาย เช่น ผึ้ง ต่อ จะปล่อยเหล็กใน ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายพยายามขับออก ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนจะกลายเป็นฝี เป็นหนองได้
สาเหตุของการเกิดโรคแมลงกินเนื้อคนนั้น หากมาจากแมลง มักจะเป็นแมลงที่กัดแล้วเกิดรู และรอยแดงบนผิวหนัง เมื่อถูกแมลงกัดเข้าไปที่ผิวหนัง ผิวหนัง และหากปล่อยละเลยไว้ แบคทีเรียจะค่อยๆ เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อ จนทำให้เลือดเลี้ยงผิวหนังบริเวณนั้นๆ ไม่เพียงพอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาย และเชื้อแบคทีเรียก็จะเข้าแสเลือดและลามไปทั่วร่างกาย ถ้าติดเชื้อลึกลงไปถึงใต้ชั้นเนื้อเยื่อพังผืด เข้าไปที่กล้ามเนื้อ เชื้อจะมีความรุนแรง ไปทำลายเนื้อเยื่อ ทำให้เส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดงเสียหาย การส่งเลือดไปเลี้ยงไม่ดี ทำให้เกิดเนื้อตาย และเชื้อแบคทีเรียตัวนั้นก็ยังเกาะอยู่ที่บริเวณเนื้อตาย ถ้าไม่รีบรักษาบริเวณที่เนื้อตายจะขยายวงกว้างและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ น่ากลัวอยู่นะครับ
ระยะแรกหลังการติดเชื้อภายใน 1 วัน ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง ดังนี้ ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ บาดแผลร้อนหรือมีสีแดง รู้สึกปวดบาดแผลมากผิดปกติ บริเวณที่เกิดการติดเชื้อเกิดการเปลี่ยนสี หรือมีของเหลวซึมออกมา มีตุ่มแดงเล็ก ๆ ถุงน้ำ จุดดำ หรือความผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้นบนผิวหนังร่วมกับเกิดความเจ็บปวดบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาการบนผิวหนังมักกระจายออกไปและทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากแบบไม่สัมพันธ์กับแผล ตึงบริเวณกล้ามเนื้อ มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เป็นต้น มีภาวะขาดน้ำ โดยมีอาการ เช่น กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อย หลังจากนั้น เมื่อติดเชื้อไปแล้ว 3-4 วัน ผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น บริเวณที่เกิดการติดเชื้ออาจมีอาการบวม มีผื่นสีม่วงขึ้น หรือมีตุ่มน้ำสีเข้มที่ส่งกลิ่นเหม็น ผิวหนังอาจเกิดการเปลี่ยนสี และเนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจหลุดลอกออก เป็นต้น และเมื่อการติดเชื้อเข้าสู่วันที่ 4-5 ผู้ป่วยอาจมีภาวะวิกฤติ ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำ ช็อค หรือหมดสติได้
หากเกิดบาดแผล ให้ห้ามเลือดทันทีแล้วทำความสะอาดบริเวณนั้นโดยเปิดให้น้ำไหลผ่านบาดแผล จากนั้นจึงซับด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง ปิดบาดแผลด้วยวัสดุที่ปลอดเชื้อ เช่น พลาสเตอร์ หรือผ้าพันแผล เป็นต้น และเปลี่ยนผ้าพันแผลเมื่อเปียกน้ำหรือสกปรก เพื่อให้แผลแห้งและสะอาดอยู่เสมอ ไม่ควรแช่ตัวในอ่างอาบน้ำหรือว่ายน้ำในช่วงที่มีบาดแผลตามร่างกาย
หากถูกแมลงกัด ให้หมั่นสังเกตตัวเอง ถ้าพบว่ามีบาดแผล ที่มีอาการปวดบวมแดง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆหรือไม่ ถ้าเกิดมีแผลที่บริเวณที่ถูกแมลงกัด ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาทันที ก่อนที่โรคจะมีการลุกลามติดเชื้อรุนแรงมากกว่าเดิม โดยในระหว่างที่มีอาการผิดปกติบริเวณผิวหนังก่อนเดินทางไปพบแพทย์ ควรดูแลรักษาทำความสะอาดผิวหนังบริเวณนั้นให้ดีที่สุด อย่าปล่อยละเลยนะครับเพราะถ้าติดเชื้อขึ้นมาล่ะก็เรื่องใหญ่แน่นอนครับ
สรุปง่ายๆ ก็คือโรคแมลงกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่านี้ไม่ใช่โรคใหม่ ในประเทศไทยมีรายงานคนป่วยโรคเนื้อเน่าปีละประมาณ 100-300 คน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ที่มีความเสี่ยงเกิดบาดแผลง่าย บริเวณที่เกิดปัญหาส่วนใหญ่คือเท้า และขา ซึ่งหลายรายมีประวัติกับการสัมผัสสารเคมี ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เกิดบาดแผล ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ผิวได้ง่าย เพราะฉะนั้นโรคนี้ไม่เกี่ยวกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่อย่างไหน สบายใจหายห่วง
คุณชอบบทความนี้
อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย