สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีธรรมชาติสวยงามมากที่สุด พร้อมกับอากาศหนาวเย็นสบาย และจุดท่องเที่ยวมากมายที่รอให้นักเดินทางได้มาสัมผัส ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ จึงถือเป็นทัวร์ระดับพรีเมียมที่สักครั้งในชีวิตหากมีโอกาสต้องลองไปดูสักครั้ง ไปสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่งดงาม เก็บเกี่ยวความประทับใจบนแผ่นดินยุโรปที่สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดูกัน
ค่าเงินของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือ ฟรังก์สวิส (CHF) หากเทียบเป็นเงินไทย 1 ฟรังก์สวิส = ราว 35 บาทไทย แนะนำว่าควรแลกเงินจากเมืองไทยไปก่อนให้เรียบร้อยเพราะมีอัตราการแลกเงินที่ถูกมากกว่าและไม่ยุ่งยากเหมือนการไปแลกในต่างประเทศ
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไป ทัวร์สวิส แต่ไม่แน่ใจว่าควรไปช่วงเวลาไหนดี ลองมาดูฤดูกาลต่าง ๆ ของประเทศนี้กันจะได้ตัดสินใจให้ชัวร์ก่อนจอง ทัวร์สวิส
ฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวเย็นมาก ๆ ใครอยากมาสัมผัสหิมะรวมถึงบรรยากาศของเทือกเขาแอลป์อันสวยงามเต็มไปด้วยหิมะปกคลุมต้องมาช่วงนี้เลย
ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม ถือเป็นช่วงเวลาน่าเที่ยวสุด ๆ กับการมา ทัวร์สวิส เดือนเมษายน มีบรรยากาศสวยงาม อุณหภูมิราว 6-13 องศาเซลเซียส มีช่วงกลางวันยาวนานโดยเฉพาะเดือนมีนาคมถึง 11 ชั่วโมง
ฤดูร้อน ช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นฤดูร้อนแต่ฝนก็ตกหนักใช่ย่อย กลางวันอุณหภูมิราว 18-28 องศาเซลเซียส แต่กลางคืนลดเหลือ 10-20 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาอากาศเริ่มเปลี่ยนแบบชัดเจน ความงดงามคือใบไม้กิ่งไม้สีทองงดงามน่ามาเที่ยวมาก ๆ เลยทีเดียว
สำหรับระยะเวลาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น ช้ากว่าเมืองไทยประมาณ 5 ชั่วโมง ส่วนระยะเวลาในการเดินทางจากประเทศไทยการไป ทัวร์สวิส สามารถเลือกได้ว่าต้องการบินตรงหรือบินแบบต่อเครื่องหากบินตรงใช้เวลาราว 12 ชั่วโมงเศษ แต่ถ้าบินแบบต่อเครื่องก็ใช้เวลานานกว่านั้นเล็กน้อยขึ้นอยู่กับเที่ยวบินและสายการบินที่ใช้บริการ ส่วนการเดินทางภายในประเทศส่วนใหญ่จะใช้ระบบขนส่งแบบรางที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยมาก ๆ
การจะเดินทางไป ทัวร์สวิส จำเป็นต้องขอวีซ่าด้วยเพื่อเวลายื่นกับ ตม. คู่กับพาสปอร์ตจะได้ไม่มีปัญหา จะเลือกทำวีซ่าประเทศโดยตรงหรือวีซ่าเชงเก้นก็ได้ขึ้นอยู่กับการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุระตามความเหมาะสม
น้ำหนักกระเป๋าในการเดินทางต้องตรวจสอบกับสายการบินให้ดีว่าสามารถให้น้ำหนักฟรีได้เท่าไหร่ เพื่อจะได้เตรียมกระเป๋าไปตามความเหมาะสม น้ำหนักไม่เกินจากที่สายการบินกำหนดจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
การใช้งานอินเตอร์เน็ตสามารถใช้งานโรมมิ่งได้แต่ต้องแจ้งกับเจ้าของเครือข่ายก่อนเดินทางด้วย หรือบางคนจะเลือกซื้อซิม ซื้อพ็อคเก็ตไวไฟแทนเพื่อความสะดวกในการใช้งานก็ได้เช่นกัน
ปลั๊กไฟของประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะใช้หัวปลั๊กแบบ 3 ขา ซึ่งเป็นคนละแบบกับอุปกรณ์ไฟฟ้าของบ้านเรา ดังนั้นอย่าลืมเตรียมหัวปลั๊กไปให้พร้อมใช้งานด้วยจะได้ไม่มีปัญหา
เมืองหลวงสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่มีความสวยงามอีกแห่งของการไป ทัวร์สวิส ใครที่คิดว่าเจนีวากับซูริคเจริญที่นี่ก็ไม่ต่างกันเพราะเป็นเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ แถมยังได้ความรู้สึกของธรรมชาติมากกว่าอีกต่างหาก และอีกสิ่งที่น่าสนใจคือความเป็นเมืองเก่าที่ยังคงวัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างเอาไว้ ใครอยากสัมผัสกับความเป็นสวิสอย่างแท้จริงต้องมาที่นี่
เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ ถือว่ามีความเจริญมาก ๆ ของประเทศอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสวยงามของบรรยากาศในการท่องเที่ยวสุด ๆ ใครไป ทัวร์สวิส อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมให้ได้
เมืองหลวงของประเทศ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 มีจำนวนประชากรมากที่สุด เมืองแห่งนี้มีจุดเด่นที่ความเจริญรุ่งเรือง มีระบบการขนส่งคมนาคมอันทันสมัย สถาปัตยกรรมของเมืองมีการผสมผสานในสไตล์ยุโรปอดีตกับความทันสมัยได้อย่างลงตัวมาก ๆ
เมืองขนาดเล็กริมทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่โด่งดังในเรื่องกีฬาโอลิมปิกเนื่องจากมีพิพิธภัณฑ์โอลิมปิกและสำนักงานใหญ่ของ IOC ตั้งอยู่ ได้รับการขนานนามให้เป็น “เมืองหลวงของโอลิมปิก” ก็ไม่ผิดมากนัก
ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน กับ ทะเลสาบเบรียนซ์ ล้อมรอบด้วยภูเขาและทุ่งหญ้าทำให้มีความสวยงามเหมาะกับการไป ทัวร์สวิส อย่างมาก มียอดธารน้ำแข็งที่ได้รับการตั้งให้เป็นมรดกโลก ใครนิยมเล่นสกีต้องไม่พลาดที่นี่เลย
เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์น ใจกลางเทือกเขาแอลป์ เป็นเมืองที่มีธรรมชาติงดงามตระการตา มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น สะพานไม้ Chapel Bridge, หอคอยน้ำ, กำแพงเมืองเก่า, ภูเขาพีลาตุส และ ทะเลสาบลูเซิร์นเป็นต้น
สุดยอดทะเลสาบที่มีความงดงามในด้านทัศนียภาพเป็นอย่างมาก ด้วยเทือกเขาอันแสนสลับซับซ้อนที่ตั้งอยู่แถมยังเป็นทะเลสาบที่ลึกอันดับต้น ๆ ในยุโรปด้วย ใครมีโอกาสผ่านไปเชื่อว่าต้องแวะถ่ายรูปและสัมผัสกับความงดงามอย่างเต็มปอดแน่ ๆ
“ราชินีแห่งเทือกเขา” มีระดับความสูง 1,797,5 เมตร นี่คือความงดงามเมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วมองเห็นบรรยากาศแบบพาโนรามา ต้องลองสัมผัสกับตาตนเองเท่านั้นถึงจะเข้าใจว่ามันฟินสุด ๆ ขนาดไหนที่ได้เห็นอะไรสวยงามแบบนี้
รถไฟด่วนแต่วิ่งได้ช้าสุดในโลก เส้นทางนี้พิเศษตรงเมื่อผ่านหุบเขาแอลป์จะพบกับเทือกเขา, เหวลึก, สะพาน, อุโมงค์ต่าง ๆ รวมถึงสวิสแกรนด์แครนยอน มียอดเขาสูงกว่า 2,000 เมตร ให้ได้สัมผัส งานนี้ตลอดเส้นทางการวิ่งของรถไฟมีแต่ความน่าตื่นตาตื่นใจ
ที่นี่ถือเป็นจุดต้องมาอีกแห่งของ ทัวร์สวิส จะพบกับน้ำน้ำแข็งแกะสลักที่อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึก 30 เมตร แต่ไม่เคยละลายเลย อีกทั้งใครนิยมชมชอบการเล่นสกีการขึ้นมาบนยอดเขาจูงเฟราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
ธารน้ำแข็งมหึมาความหนากว่า 1 กิโลเมตร ยาว 23 กิโลเมตร ด้วยความมหัศจรรย์นี้เองจึงเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวผู้มา ทัวร์สวิส กันเป็นจำนวนมากอยากสัมผัสกับสายตาตนเองสักครั้งว่าแปลกแค่ไหน
หมู่บ้านกลางหุบเขาที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยความที่มีธรรมชาติล้อมรอบ น้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านลงมากลางหมู่บ้านมากถึง 72 แห่ง และมีน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรปอยู่ที่นี่ด้วย นั้นคือน้ำตก Staubbach ที่ดิ่งลงมาจากหน้าผาเกือบ 300 เมตร เป็นหมู่บ้านที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด หากมีโอกาสไปเที่ยวสวิสไม่ควรพลาดไปเที่ยวที่นี่
หนึ่งในแลนด์มาร์คของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่างยอดเขา Matterhorn เป็นพิกัดที่พลาดไม่ได้เป็นอันขาดในการมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Zermatt แห่งนี้ ยอดเขา Matterhorn นี้เป็นโลโก้ของช็อกโกแลต Toblerone ที่โด่งดังไปทั่วโลก หลายคนมักจะมาถ่ายภาพเปรียบเทียบโลโก้ Toblerone กับยอดเขา Matterhorn แห่งนี้
คราวนี้มาว่ากันถึงเรื่องอาหารการกินสวิตเซอร์แลนด์กันบ้าง ทัวร์สวิส ทั้งทีหากไม่ได้สัมผัสกับอาหารที่ชาวสวิสนิยมรับประทานคงเหมือนมาไม่ถึงแน่ๆ เรารวมมาให้สำหรับอาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกปากถูกใจคนใทยเมื่อได้ลิ้มลอง
นี่คือสัญลักษณ์ของความเป็นสวิสเลยก็ว่าได้ ส่วนผสมต่าง ๆ ล้วนเป็นต้นตำรับถูกตั้งไฟจนละลายเสิร์ฟแบบพื้นเมืองด้วยหม้อฟองดูจุดไฟเพิ่มเพื่อรักษาความร้อนไว้เสมอเนยจะได้ไม่แข็งตัว แล้วตัดขนมปังเล็ก ๆ จุ่มอร่อยลืมโลกไปเลย
จริงๆ มูสลี่อาจถูกมองว่าเป็นอาหารเช้าทั่วไป หาทานที่ไหนก็ได้ แต่จริงๆ แล้วต้นตำรับมาจากสวิสดังนั้นใครชอบอาหารเช้าสุดอร่อยเมนูนี้ มา ทัวร์สวิส ทั้งที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ใช้มันฝรั่งยาว ๆ ผสมเบคอน ชีส หัวหอม และส่วนผสมอื่น ๆ จากนั้นหั่นเป็นแผ่นบางเอาไปอบหรือทอด ทานคู่กับไข่ดาว ไส้กรอก ผักโขม ในอดีตมักถูกเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าแต่ทุกวันนี้จะทานตอนไหนก็อร่อยไม่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ
คนพื้นเมืองของชาวสวิสถือว่าเป็นอาหารที่ดีงามมาก ๆ สำหรับพวกเขา เวลาเสิร์ฟอาหารเมนูนี้มักเสิร์ฟบนหญ้าฝรั่น ให้รสชาติอร่อยและแสดงออกถึงความเป็นสวิสอย่างชัดเจนมาก ๆ
ปิดท้ายกันด้วยของฝากสำหรับคนไป ทัวร์สวิส ไหน ๆ ก็ต้องกลับเมืองไทยแล้วก็อย่าลืมเอาของฝากดี ๆ กลับมาเพื่อความประทับใจด้วย
หากมา ทัวร์สวิส แนะนำว่าให้ลองซื้อโอวัลติลสวิสกลับมาลองเทียบรสชาติความอร่อยกันเสียหน่อย โดยรสชาติของที่นี่จะเข้มข้นกว่าบ้านเรามาก เป็นของฝากที่หาซื้อจากที่อื่นไม่ได้แถมยังเป็นของแนะนำที่ใครไปก็ต้องซื้อทุกราย
อีกของฝากยอดนิยมของการไป ทัวร์สวิส แต่ที่ได้รับความนิยมสูงจะเป็นพวกกรรไกรตัดเล็บที่มีมีดในตัวมากกว่า หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าต่างๆ ของประเทศ แต่อย่าลืมว่าต้องเก็บลงใต้เครื่องด้วยไม่อย่างนั้นอาจต้องโยนทิ้งไว้สนามบิน น่าเสียดายแย่เลย
การมา ทัวร์สวิส แต่ไม่ได้สัมผัสกับนาฬิกาเหมือนมาไม่ถึงเมืองแห่งนาฬิกายังไงก็ไม่รู้ แบรนด์ดังที่คนไทยให้ความนิยมมีต้นกำเนิดจากประเทศนี้ เช่น Rolex, Omega, Tag heuer เรียกว่ามาถึงบ้านเกิดพวกเขาทั้งทีจะไม่ซื้อกลับไปฝากตนเองหรือคนรักสักหน่อยคงน้อยใจกันน่าดู
อีกของฝากห้ามพลาดเมื่อมา ทัวร์สวิส ที่นี่เป็นแหล่งผลิตช็อกโกแลตยี่ห้อดังมากมาย เช่น Lindt หรือ Cailler บอกเลยว่ารสชาติของช็อกโกแลตที่นี่มีความเข้มข้น อร่อย ทานคู่กับอะไรก็ดีงามสุด ๆ ใครมาสวิสแล้วไม่ยอมซื้อกลับไปฝากคนอื่นรับรองว่างานนี้ต้องมีต่อว่ากันแน่ ๆ เพราะมันคือของขึ้นชื่อที่ควรค่ากับการหยิบติดกระเป๋าสุดๆ
แน่นอนว่าหากได้มีโอกาสไป ทัวร์สวิส ในช่วงมีเทศกาลต่าง ๆ จะยิ่งช่วยเพิ่มอัตราความสนุกตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจ เพิ่มความสุขในการเดินทางได้มากกว่าเดิม ดังนั้นมาดูกันว่าช่วงไหนมีเทศกาลอะไรให้น่าซื้อ ทัวร์สวิส ไปตะลุยกัน
เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ระหว่างคืนวันที่ 31 ธันวาคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม เป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนทั่วโลกที่ใครอยากซื้อ ทัวร์สวิส ไปชมความงดงามก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
Wine Festival ใครเป็นคอไวน์ห้ามพลาดเด็ดขาดในการไป ทัวร์สวิส จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนปลาย ๆ เดือน มีพาเหรดตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม ถือเป็นเทศกาลไวน์สุดอลังการ
Der Bachfischel จัดขึ้นทุกเดือนกันยายนในรัฐ Aarau นักเรียนจะมีการเดินถือโคมไฟสีสันสวยงาม น่าไปสัมผัสอย่างยิ่ง
Chestnut Festival ทุกเดือนตุลาคม นี่คือเทศกาลลูกเกาลัดของเมือง Ascona จะพบกับอาหารเครื่องดื่มต่าง ๆ ทำมาจากเกาลัดจำนวนมาก
Advent and Christmas Festival เริ่มในคืนคริสต์มาสอีฟ มีการจุดเทียน 4 ครั้ง ครั้งแรกในวันอาทิตย์แรกแล้วไล่ลำดับมาเรื่อย ๆ